ยะลา - ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เดินสายเรียกร้องค่าผลักดันให้มีเงินเยียวยาที่สูงขึ้นกับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ รายละ 1 ล้านบาทสร้างความวิตกให้กับญาติของตายเป็นอย่างมาก
จากกรณีมีกระแส การผลักดันให้รัฐบาล เพิ่มจำนวนเงินค่าเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะผู้ได้ถูกกระทำจาก เจ้าหน้าที่รัฐ ให้มีมาตรฐานเดียวกับการเยียวยากลุ่ม นปช. รายละ 7.75 ล้านบาท ซึ่งกรณีดังกล่าว ผู้ที่น่าจะได้รับกากรเยียวยาจากรัฐบาล อยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มการเสียชีวิต ในเหตุการณ์อำเภอตากใบ 25 ตุลาคม 2547 และ กรณีทหารพรานยิงชาวบ้าน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อ 29 มกราคม ปีนี้
ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์มีความเป็นได้สูง ที่ภาครัฐจะทำการเยียวยาในรายละ 7.75 ล้านบาท จากกระแสตัวเลขการเยียวยาสูงดังกล่าว ทำให้เกิดกลุ่มมิจฉาชีพ ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลและผู้กว้างขวาง ในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส เดินสายไปพบญาติของผู้เสียชีวิต กรณีเหตุการณ์ตากใบ โดยขอส่วนแบ่งจากรายได้ที่จะได้รับรายละ 1 ล้านบาท สร้างความวิตกให้กับญาติของตายเป็นอย่างมาก
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ได้ทราบข่าวมาแล้ว และกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ว่า ผู้ที่ไปเรียกร้องเงินดังกล่าว เป็นใครมาจากไหน เนื่องจากเป็นการซ้ำเติมใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ
นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ตนเองยังไม่ทราบว่าผู้อิทธิพลหรือผู้กว้างขวางคนดังกล่าวไปเรียกร้องส่วนแบ่งจากใครกันแน่ เรียกร้องจากรัฐบาลหรือจากผู้ได้รับผลกระทบ ถ้าไปเรียกร้องจากรัฐบาล ในฐานะที่ตัวเองผลักดันให้มีการเยียวยาก็ว่ากันไป แต่ถ้าไปเรียกร้องจากผู้ได้รับผลกระทบ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลเฉพาะตัว ที่ผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับเงินจะมอบให้ แต่หากเป็นการใช้อิทธิพลข่มขู่นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ดีงาม เป็นการเรียกร้องเพื่อซ้ำเติมให้กับผู้เสียหาย
ที่สำคัญ ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาล เยียวยาสภาพทางจิตให้กับผู้ได้รับกระทบด้วย พร้อมกับกำหนดผู้ที่ได้รับเงินเยียวยาให้ชัดเจน ซึ่งเคยเกิดกรณีที่ผ่านมา เงินเยียวยาได้มอบให้กับภรรยา ในขณะที่บิดา มารดา ไม่ได้รับเงินส่วนนี้ด้วย
แพทย์หญิงเพ็ชรดาว โต๊ะมีนา คณะกรรมการเยียวยาแห่งชาติ กล่าวว่า เคยมีนำมาพูดในที่ประชุมคณะกรรมการเยียวยาแห่งชาติมาแล้ว ซึ่งทางคณะกรรมการฯ มีความเชื่อมั่นความแข็งแกร่งของเครือข่ายที่จะไปสร้างความเข้าใจให้กับผู้ได้รับผลกระทบ จึงไม่น่าเป็นห่วงในเรื่องดังกล่าว
จากกรณีมีกระแส การผลักดันให้รัฐบาล เพิ่มจำนวนเงินค่าเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะผู้ได้ถูกกระทำจาก เจ้าหน้าที่รัฐ ให้มีมาตรฐานเดียวกับการเยียวยากลุ่ม นปช. รายละ 7.75 ล้านบาท ซึ่งกรณีดังกล่าว ผู้ที่น่าจะได้รับกากรเยียวยาจากรัฐบาล อยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มการเสียชีวิต ในเหตุการณ์อำเภอตากใบ 25 ตุลาคม 2547 และ กรณีทหารพรานยิงชาวบ้าน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อ 29 มกราคม ปีนี้
ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์มีความเป็นได้สูง ที่ภาครัฐจะทำการเยียวยาในรายละ 7.75 ล้านบาท จากกระแสตัวเลขการเยียวยาสูงดังกล่าว ทำให้เกิดกลุ่มมิจฉาชีพ ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลและผู้กว้างขวาง ในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส เดินสายไปพบญาติของผู้เสียชีวิต กรณีเหตุการณ์ตากใบ โดยขอส่วนแบ่งจากรายได้ที่จะได้รับรายละ 1 ล้านบาท สร้างความวิตกให้กับญาติของตายเป็นอย่างมาก
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ได้ทราบข่าวมาแล้ว และกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ว่า ผู้ที่ไปเรียกร้องเงินดังกล่าว เป็นใครมาจากไหน เนื่องจากเป็นการซ้ำเติมใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ
นายนิมุ มะกาเจ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ตนเองยังไม่ทราบว่าผู้อิทธิพลหรือผู้กว้างขวางคนดังกล่าวไปเรียกร้องส่วนแบ่งจากใครกันแน่ เรียกร้องจากรัฐบาลหรือจากผู้ได้รับผลกระทบ ถ้าไปเรียกร้องจากรัฐบาล ในฐานะที่ตัวเองผลักดันให้มีการเยียวยาก็ว่ากันไป แต่ถ้าไปเรียกร้องจากผู้ได้รับผลกระทบ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลเฉพาะตัว ที่ผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับเงินจะมอบให้ แต่หากเป็นการใช้อิทธิพลข่มขู่นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ดีงาม เป็นการเรียกร้องเพื่อซ้ำเติมให้กับผู้เสียหาย
ที่สำคัญ ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาล เยียวยาสภาพทางจิตให้กับผู้ได้รับกระทบด้วย พร้อมกับกำหนดผู้ที่ได้รับเงินเยียวยาให้ชัดเจน ซึ่งเคยเกิดกรณีที่ผ่านมา เงินเยียวยาได้มอบให้กับภรรยา ในขณะที่บิดา มารดา ไม่ได้รับเงินส่วนนี้ด้วย
แพทย์หญิงเพ็ชรดาว โต๊ะมีนา คณะกรรมการเยียวยาแห่งชาติ กล่าวว่า เคยมีนำมาพูดในที่ประชุมคณะกรรมการเยียวยาแห่งชาติมาแล้ว ซึ่งทางคณะกรรมการฯ มีความเชื่อมั่นความแข็งแกร่งของเครือข่ายที่จะไปสร้างความเข้าใจให้กับผู้ได้รับผลกระทบ จึงไม่น่าเป็นห่วงในเรื่องดังกล่าว