ยะลา - แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ผิดถูกว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม เชื่อฝ่ายตรงข้ามมีกลยุทธ์ที่จะสร้างความแตกแยก ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับประชาชน
จากกรณีเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้ปืน เอ็ม. 79 ยิงเข้าใส่ฐานชุดปฏิบัติการทหารพราน 4302 หมู่ที่ 3 บ้านน้ำดำ ต.ปุโล๊ะปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อช่วงคืนวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ทหารพรานโดน สะเก็ดระเบิด ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 1 นาย จากนั้นกองกำลังทหารพรานได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนนอกฐานปฏิบัติการ ให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด พร้อมทั้งใช้รถยนต์ออกจากฐานปฏิบัติการเพื่อสกัดกั้น ปิดล้อมบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง โดยใช้เส้นทางถนนสาย 418 ยะลา-ปัตตานี ถึงบริเวณ ม.1 บ้านกาหยี ต.ปุโล๊ะปุโย อ.หนองจิก ห่างจากฐานปฏิบัติการเกือบ 2 กิโลเมตร
จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 3105 ปัตตานี ขับย้อนศรมาบนถนนสาย 418 โดยมีคนหลายคนนั่งมากับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้นระหว่างสองฝ่าย ส่งผลให้รถยนต์กระบะคันดังกล่าวถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเป็นรูพรุน ทั้งกระจกหน้ารถ และกระจกด้านข้าง มีผู้เสียชีวิตทันที 4 คน และบาดเจ็บจำนวน 4 คน เป็นชาวบ้าน ม.1 บ้านตันหยงบูโล๊ะ ต.ปูโล๊ะปูโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
ล่าสุดวันนี้ (31 ม.ค.) ที่ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 /ผู้ อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กล่าวชี้แจงในเรื่องนี้ว่า ในการปฏิบัติการของทหารพรานนั้น ได้ปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ เมื่อมีการถล่มฐาน ตนเองได้มีการสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการตอบโต้ทางยุทธวิธี ตามที่ตนได้สั่งการไว้ ฉะนั้นเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น จนเกิดความสูญเสีย ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็ต้องรับผิดชอบ ทั้งในเรื่องชีวิต และทรัพย์สินของผู้ที่ได้รับผลกระทบ
สิ่งที่ทหารพรานปฏิบัติ จะถูกหรือเกินเลยการปฏิบัติ ตนเองในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุด ก็ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่การปฏิบัติในครั้งนี้ จะสำเร็จหรือมีข้อผิดพลาด สำหรับประเด็นที่ 2 ในขณะนี้ได้อยู่ในระหว่างสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงทางนิติวิทยาศาสตร์ และกระบวนการสืบสวนสอบสวนข้อมูลในเชิงลึก ตนเองขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน และตามหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดเสมอมา
และตนเองขอยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุด และพร้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้กำลังดำเนินการในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนเองไม่ใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ และไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะว่าจะต้องดำเนินการไปจนกว่าจะสามารถสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นได้ และสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกๆ ฝ่าย
ซึ่งที่ผ่านมา ฝ่ายตรงข้ามต้องการที่จะสร้างความแตกแยก ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับพี่น้องประชาชนเสมอมา ไม่อย่างนั้นความสงบสุขสันติในพื้นที่น่าจะเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ยังมีกลยุทธ์ที่จะสร้างความแตกแยก ตนเองขอยืนยันว่า ทหารพราน อยู่ดีคงไม่ไปเข่นฆ่า หรือไปยิงใคร จนเสียชีวิต ถ้าไม่ถูกกระทำก่อน ไม่มีเหตุผลทั้งทางด้านหลักกฎหมายและหลักด้านมนุษยธรรมที่จะไปยิงทำร้ายพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่มีกลยุทธ์หนึ่งกลยุทธ์ใดที่พยายามสร้างความแตกแยก ผมพยายามที่จะสร้างความกระจ่าง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ในด้านการเยียวยานั้น ตนเองก็จะดูแลในเรื่องของการเยียวยา ตามหลักเกณฑ์ และกระบวนการของการเยียวยาต่อผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างดีที่สุด สำหรับช่วงบ่ายของวันนี้ ทางญาติและครอบครัว ของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว จะเดินทางเข้าพบแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อร้องความเป็นธรรม และให้ทางเจ้าหน้าที่รีบสร้างความกระจ่างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี
