ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จนท.ไล่ล่ารถยนต์กระบะกลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มฐานปฎิบัติการทหารพราน 4302 ม.3 บ้านน้ำ ดำ กลางดึกในปัตตานีก่อนกราดกระสุนใส่โดนชาวบ้านดับ 4 ศพเจ็บ 5 ญาติผู้ตายโวยลั่นถูก จนท.กลั่นแกล้ง ยันผู้ตายทั้งหมดไม่ใช่โจร "โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน." แจง คนที่อยู่ในรถใช้อาวุธปืนยิงออกมาทำให้จนท.ระดมยิงใส่ ระบุคนร้ายใช้ผู้บริสุทธิ์เป็นโล่มนุษย์ พยายามสร้างเงื่อนไขให้เข้าใจผิดว่า จนท.ทำร้ายชาวบ้าน
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.30 น.คืนวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้ปืนเอ็ม 79 ยิงใส่ฐานชุดปฏิบัติการทหารพราน 4302 ม.3 บ้านน้ำดำ ต.ปุโล๊ะปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้ทหารพรานบาดเจ็บเล็กน้อย 1 นาย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานหน่วยพัฒนาสันติบ้านน้ำดำ ได้ระดมกำลังพร้อม อาวุธครบมือไล่ล่าสกัดคนร้าย จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนด์เงิน ทะเบียน 3105 ปัตตานี จำหมวดอักษรไม่ได้ ขับย้อนศรมาบนถนนสาย 418 โดยมีคนหลายคนนั่งมากับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้นระหว่างสองฝ่าย ส่งผลให้รถยนต์กระบะคันดังกล่าวถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเป็นรูพรุนทั้งกระจกหน้ารถและกระจกด้านข้าง มีผู้เสียชีวิตทันที 4 คน และบาดเจ็บจำนวน 4 คน เป็นชาวบ้าน ม.1 บ้านตันหยงบูโล๊ะ ต.ปูโล๊ะปูโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบเป็นรถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ เจ็บสาหัส 4 ราย นอกจากนี้ จากการตรวจสอบภายในรถพบปืนสงครามอาก้า 1 กระบอกและปืนพกสั้นขนาด 11 ม.ม. อีก 1กระบอก
ผู้เสียชีวิตได้แก่นายรอปา บือราเฮง อายุ 18 ปี , นายอิสมัน ดือราแม อายุ 55 ปี , นายสาหะ สาแม อายุ 62 ปี และ นายหะมะ สะนิ อายุ 65 ปี โดยสภาพศพทั้งถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัวและขาเป็นแผลฉกรรจ์
ส่วนผู้บาดเจ็บได้แก่นายยา ดือราแม อายุ 58 ปี นายมะแอ ดอเลาะ อายุ 76 ปี นายมะรูดิง แวกะจิ อายุ 15 ปี นายฐอบรี บือราเฮง อายุ 19 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันตามลำตัว มือและขา จากนั้นผู้บาดเจ็บนำส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานีเพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ ส่วนอีกคนคือ นายอับดุลเลาะ นิ อายุ 15 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จากการสอบสวนผู้รอดชีวิตทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ รถยนต์กระบะที่ถูกยิงดังกล่าวมาด้วยกัน 9 คนขับออกจากหมู่บ้านเพื่อเดินทางไปละหมาดทำบุญอดีตผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตด้วยโรคชรา ในพื้นที่ ม.4 บ้านทุ่งโพธิ์ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก ตามคำเชิญของญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต โดยมีนายยา ดือราแม เป็นคนขับและนั่งภายในรถ 3 คน ที่กระบะหลังอีก 6 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ทหารพรานหลายคนอยู่ที่เกิดเหตุ จากนั้นก็มีกระสุนปืนยิงมาที่รถยนต์จำนวนมาก เป็นเหตุให้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว โดยในระหว่างนั้นได้มีคนในรถกระบะดังกล่าวกระโดดและวิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหนองจิก ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
**ญาติผู้ดสัยชีวิตโวย ถูกจนท.กลั่นแกล้ง
นายแวเตะ อาแวกือจิ บิดาผู้เสียหายโวยว่า ถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้งหาว่าผู้ตายนั้นเป็นโจร เพราะก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายทั้งหมดได้นั่งรถออกมาจากบ้าน 9 คนเพื่อมุ่งหน้าไปร่วมละหมาดคนตายที่บ้านทุ่งโพธิ์ โดยมีนายยา ดือราแม อายุ 58 ปี ตำแหน่งคอเต็บ เป็นคนขับ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานตะโกนให้จอด เมื่อรถได้ชะลอความเร็วกลับถูกเจ้าหน้าที่ยิงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แล้วบางส่วนก็ได้กระโดดหนีไปหลบที่บ้านญาติ ก่อนที่บรรดาญาติและชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้ช่วยกันนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองจิกเป็นการด่วน
**ทหารโต้! คนร้ายใช้ผู้บริสุทธิ์เป็นโล่มนุษย์
วันเดียวกัน ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในฐานะโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวในกรณีนี้ว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สรุปว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุหรือไม่ จะต้องดำเนินการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ และตรวจสอบเขม่าดินปืน แต่อย่างไรก็ตาม ทาง พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ยินดีให้ความช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกราย" พล.ต.อัคร กล่าว
"อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นกลุ่มคนที่เสียชีวิตอาจจะถูกคนร้ายใช้เป็นโล่ห์มนุษย์ ในการหลบหนีและก่อเหตุ ทั้งนี้ ในพื้นที่เกิดเหตุก็จะมีกลุ่มของนายมะซอเร ดือรามัน และนายลุกมัน อุสตาแซะ เป็นแกนนำก่อเหตุรุนแรงที่มีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่"
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.30 น.คืนวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้ปืนเอ็ม 79 ยิงใส่ฐานชุดปฏิบัติการทหารพราน 4302 ม.3 บ้านน้ำดำ ต.ปุโล๊ะปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้ทหารพรานบาดเจ็บเล็กน้อย 1 นาย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานหน่วยพัฒนาสันติบ้านน้ำดำ ได้ระดมกำลังพร้อม อาวุธครบมือไล่ล่าสกัดคนร้าย จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนด์เงิน ทะเบียน 3105 ปัตตานี จำหมวดอักษรไม่ได้ ขับย้อนศรมาบนถนนสาย 418 โดยมีคนหลายคนนั่งมากับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้นระหว่างสองฝ่าย ส่งผลให้รถยนต์กระบะคันดังกล่าวถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเป็นรูพรุนทั้งกระจกหน้ารถและกระจกด้านข้าง มีผู้เสียชีวิตทันที 4 คน และบาดเจ็บจำนวน 4 คน เป็นชาวบ้าน ม.1 บ้านตันหยงบูโล๊ะ ต.ปูโล๊ะปูโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบเป็นรถยนต์กระบะตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ เจ็บสาหัส 4 ราย นอกจากนี้ จากการตรวจสอบภายในรถพบปืนสงครามอาก้า 1 กระบอกและปืนพกสั้นขนาด 11 ม.ม. อีก 1กระบอก
ผู้เสียชีวิตได้แก่นายรอปา บือราเฮง อายุ 18 ปี , นายอิสมัน ดือราแม อายุ 55 ปี , นายสาหะ สาแม อายุ 62 ปี และ นายหะมะ สะนิ อายุ 65 ปี โดยสภาพศพทั้งถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัวและขาเป็นแผลฉกรรจ์
ส่วนผู้บาดเจ็บได้แก่นายยา ดือราแม อายุ 58 ปี นายมะแอ ดอเลาะ อายุ 76 ปี นายมะรูดิง แวกะจิ อายุ 15 ปี นายฐอบรี บือราเฮง อายุ 19 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันตามลำตัว มือและขา จากนั้นผู้บาดเจ็บนำส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานีเพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ ส่วนอีกคนคือ นายอับดุลเลาะ นิ อายุ 15 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จากการสอบสวนผู้รอดชีวิตทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ รถยนต์กระบะที่ถูกยิงดังกล่าวมาด้วยกัน 9 คนขับออกจากหมู่บ้านเพื่อเดินทางไปละหมาดทำบุญอดีตผู้ใหญ่บ้านที่เสียชีวิตด้วยโรคชรา ในพื้นที่ ม.4 บ้านทุ่งโพธิ์ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก ตามคำเชิญของญาติพี่น้องผู้เสียชีวิต โดยมีนายยา ดือราแม เป็นคนขับและนั่งภายในรถ 3 คน ที่กระบะหลังอีก 6 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ทหารพรานหลายคนอยู่ที่เกิดเหตุ จากนั้นก็มีกระสุนปืนยิงมาที่รถยนต์จำนวนมาก เป็นเหตุให้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว โดยในระหว่างนั้นได้มีคนในรถกระบะดังกล่าวกระโดดและวิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหนองจิก ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
**ญาติผู้ดสัยชีวิตโวย ถูกจนท.กลั่นแกล้ง
นายแวเตะ อาแวกือจิ บิดาผู้เสียหายโวยว่า ถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้งหาว่าผู้ตายนั้นเป็นโจร เพราะก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายทั้งหมดได้นั่งรถออกมาจากบ้าน 9 คนเพื่อมุ่งหน้าไปร่วมละหมาดคนตายที่บ้านทุ่งโพธิ์ โดยมีนายยา ดือราแม อายุ 58 ปี ตำแหน่งคอเต็บ เป็นคนขับ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานตะโกนให้จอด เมื่อรถได้ชะลอความเร็วกลับถูกเจ้าหน้าที่ยิงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ แล้วบางส่วนก็ได้กระโดดหนีไปหลบที่บ้านญาติ ก่อนที่บรรดาญาติและชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้ช่วยกันนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองจิกเป็นการด่วน
**ทหารโต้! คนร้ายใช้ผู้บริสุทธิ์เป็นโล่มนุษย์
วันเดียวกัน ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในฐานะโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าวในกรณีนี้ว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สรุปว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุหรือไม่ จะต้องดำเนินการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ และตรวจสอบเขม่าดินปืน แต่อย่างไรก็ตาม ทาง พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ยินดีให้ความช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกราย" พล.ต.อัคร กล่าว
"อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นกลุ่มคนที่เสียชีวิตอาจจะถูกคนร้ายใช้เป็นโล่ห์มนุษย์ ในการหลบหนีและก่อเหตุ ทั้งนี้ ในพื้นที่เกิดเหตุก็จะมีกลุ่มของนายมะซอเร ดือรามัน และนายลุกมัน อุสตาแซะ เป็นแกนนำก่อเหตุรุนแรงที่มีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่"
