ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้าง 14 จังหวัดภาคใต้ เรียกร้องให้รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" ให้การช่วยเหลือยืดอายุสัญญา และให้งดค่าปรับ หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยจนบางส่วนต้องปิดตัว เตรียมนัดชุมนุมใหญ่ทั่วภาคใต้ภายใน 15 กุมภาพันธ์นี้หากไม่ได้รับการแก้ปัญหาจากรัฐบาล
วันนี้ (28 ม.ค.55) ที่โรงแรมนิวซีซัน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมก์ ร่วมประชุมกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างจาก 14 จังหวัดภาคใต้ หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยจนบางส่วนต้องปิดกิจการ และถูกคู่สัญญาฟ้องร้องและถูกปรับเป็นจำนวนมากเนื่องจากงานล่าช้าไม่ทันกำหนด โดยขอให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางในการยืดอายุสัญญา และขอให้งดลดค่าปรับ
โดยภายหลังการประชุมได้ข้อสรุปว่า หากภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 นี้รัฐบาลยังนิ่งเฉยไม่ได้ออกมาแก้ปัญหาให้กับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้าง จะมีการนัดชุมนุมใหญ่โดยนำรถบรรทุกและเครื่องจักรหนักออกมาจอดในบริเวณถนนสายเอเชียในทุกจังหวัดของภาคใต้
นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมก์ กล่าวว่า ที่ตนเดินทางมาในวันนี้ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างในภาคใต้ว่า เนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคม-เมษายน 2554 ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ และได้ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนและก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐ ซึ่งก็ได้ร้องเรียนไปยังสมาคมฯ เพื่อจะขอความช่วยเหลือ ซึ่งทางสมาคมฯเองก็ได้ลงมารับทราบข้อร้องเรียนว่ามีปัญหาอะไรบ้าง จากการตรวจสอบจึงทราบว่าผู้ประกอบการแต่ละรายที่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ ปรากฏว่า ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงทำให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ จึงมีผู้ประกอบการต้องปิดกิจการไปเป็นจำนวนมาก
ซึ่งในวันนี้ผู้ประกอบการในภาคใต้ จึงได้มารวมตัวกันที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งทางสมาคมฯก็ได้มีการประสารนไปยังส่วนกลางแล้ว เนื่องจากภาคใต้มีความแตกต่างกว่าภาคอื่น คือในขณะที่ภาคอื่นน้ำท่วม แต่ในภาคใต้ยังไม่ใช่ช่วงฤดูฝน แต่พอเข้าสู่ฤดูฝนน้ำท่วมแต่ในภาคอื่นๆน้ำไม่ท่วมแล้ว ก็มักที่จะไม่ค่อยจะได้รับการเหลียวแลช่วยเหลือจากภาครัฐ ตนเองจึงได้มารับทราบปัญหาและก็เห็นว่าผู้ประกอบการในภาคใต้มีความเดือดร้อนจริง จึงได้ประสานไปยังกรมบัญชีกลาง ให้ช่วยพิจารณาหาทางช่วยเหลือ
สิ่งที่ทางกลุ่มผู้ประกอบการร้องขอไปไม่ใช่เป็นตัวเงิน เพียงแต่ขอแค่ให้ยืดอายุสัญญา ขอให้งดลดค่าปรับ เพราะว่าคนที่ทำงานอย่างตั้งใจจริงแล้วมาถูกปรับ โดนหักเงินหรือว่าต้องขาดทุน เค้าก็ทำงานจนจบ เพราะฉนั้นตนคิดว่าภาครัฐควรจะให้ความเป็นธรรม เพราะเงินนี้เป็นเงินที่ผู้ประกอบการควรจะได้
วันนี้ (28 ม.ค.55) ที่โรงแรมนิวซีซัน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมก์ ร่วมประชุมกับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างจาก 14 จังหวัดภาคใต้ หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยจนบางส่วนต้องปิดกิจการ และถูกคู่สัญญาฟ้องร้องและถูกปรับเป็นจำนวนมากเนื่องจากงานล่าช้าไม่ทันกำหนด โดยขอให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางในการยืดอายุสัญญา และขอให้งดลดค่าปรับ
โดยภายหลังการประชุมได้ข้อสรุปว่า หากภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 นี้รัฐบาลยังนิ่งเฉยไม่ได้ออกมาแก้ปัญหาให้กับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้าง จะมีการนัดชุมนุมใหญ่โดยนำรถบรรทุกและเครื่องจักรหนักออกมาจอดในบริเวณถนนสายเอเชียในทุกจังหวัดของภาคใต้
นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมก์ กล่าวว่า ที่ตนเดินทางมาในวันนี้ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างในภาคใต้ว่า เนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคม-เมษายน 2554 ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ และได้ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนและก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐ ซึ่งก็ได้ร้องเรียนไปยังสมาคมฯ เพื่อจะขอความช่วยเหลือ ซึ่งทางสมาคมฯเองก็ได้ลงมารับทราบข้อร้องเรียนว่ามีปัญหาอะไรบ้าง จากการตรวจสอบจึงทราบว่าผู้ประกอบการแต่ละรายที่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ ปรากฏว่า ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงทำให้อุตสาหกรรมการก่อสร้างในพื้นที่ภาคใต้ จึงมีผู้ประกอบการต้องปิดกิจการไปเป็นจำนวนมาก
ซึ่งในวันนี้ผู้ประกอบการในภาคใต้ จึงได้มารวมตัวกันที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งทางสมาคมฯก็ได้มีการประสารนไปยังส่วนกลางแล้ว เนื่องจากภาคใต้มีความแตกต่างกว่าภาคอื่น คือในขณะที่ภาคอื่นน้ำท่วม แต่ในภาคใต้ยังไม่ใช่ช่วงฤดูฝน แต่พอเข้าสู่ฤดูฝนน้ำท่วมแต่ในภาคอื่นๆน้ำไม่ท่วมแล้ว ก็มักที่จะไม่ค่อยจะได้รับการเหลียวแลช่วยเหลือจากภาครัฐ ตนเองจึงได้มารับทราบปัญหาและก็เห็นว่าผู้ประกอบการในภาคใต้มีความเดือดร้อนจริง จึงได้ประสานไปยังกรมบัญชีกลาง ให้ช่วยพิจารณาหาทางช่วยเหลือ
สิ่งที่ทางกลุ่มผู้ประกอบการร้องขอไปไม่ใช่เป็นตัวเงิน เพียงแต่ขอแค่ให้ยืดอายุสัญญา ขอให้งดลดค่าปรับ เพราะว่าคนที่ทำงานอย่างตั้งใจจริงแล้วมาถูกปรับ โดนหักเงินหรือว่าต้องขาดทุน เค้าก็ทำงานจนจบ เพราะฉนั้นตนคิดว่าภาครัฐควรจะให้ความเป็นธรรม เพราะเงินนี้เป็นเงินที่ผู้ประกอบการควรจะได้
