สุราษฎร์ธานี - กลุ่มเกษตรกรผู้ที่ไร้ที่ดินทำกินสุราษฎร์ธานี เคลื่อนขบวนขับไล่พ่อเมืองสุราษฎร์ธานีพ้นจากตำแหน่ง เหตุเอื้อประโยชน์จัดสรรที่ดินให้แก่ลูกน้องนักการเมืองพรรคเก่าแก่ของเมืองไทย
วันนี้ (25 ม.ค.) ได้มีกลุ่มเกษตกรผู้ที่ไร้ที่ดินทำกิน จ.สุราษฎร์ธานี (กลุ่มจุดไฟในสายลมภาคใต้) ได้เคลื่อนขบวนจากสะพานนริศ ซึ่งเป็นที่ปักหลักชุมนุมประท้วงมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนเพื่อขับไล่นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มายังบริเวณสะพานสี่แยกเสงเพชร เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งยึดช่องทางการจราจรบริเวณสี่แยกดังกล่าวเปิดเวทีปราศรัยโจมตี พร้อมแจกใบปลิว เพื่อกดดันผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้พ้นจากตำแห่ง
โดยใบปลิวมีข้อความตอนหนึ่งว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นเรื่องให้มีการปฏิรูปที่ดิน ทำการปฏิรูปสำเร็จไปแล้ว 2 หมื่นไร่ และให้ประชาชนเช่าคนละ 10 ไร่ พร้อมทั้งจะมีการปฏิรูปตามมาอีกกว่า 4 หมื่นไร่ ปรากฏว่า ปัจจุบันนี้นายทุนที่หมดสัมปทานรัฐยังยึดพื้นที่ทำผลประโยชน์เหมือนเดิม
ก่อนหน้านี้ ประชาชนผู้ไร้ที่ทำกินได้เข้าไปยึดที่ดินของนายทุนหมดสัญญาสัมปทานแล้ว เพื่อรอการปฎิรูปเพิ่ม แต่นายทุนยังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์สวนปาล์ม ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณกว่า 4 หมื่นไร่อยู่ และมีรายได้เดือนหนึ่งหลายสิบล้านและเงินส่วนนี้ยังเป็นท่อน้ำเลี้ยงของนักการเมืองภาคใต้
แต่ประชาชนผู้ไร้ที่ทำกินยึดที่ดินของนายทุนหมดสัญญาสัมปทานนั้น ถูกกลุ่มนายทุนนักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐบางคน นำกำลังเข้าสลาย เผาทำลาย และยิง ผู้ที่ต้องการเพียงแค่ที่ดินทำกินเท่านั้น มีการบาดเจ็บและล้มตาย ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมามีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย บาดเจ็บพิการอีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ กลุ่มชาวบ้านยังถูกกล่าวหาเป็นผู้ร้ายในสังคมถูกใส่ร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยกลุ่มผู้ที่มีอิทธิพลในจังหวัด เช่น กล่าวหาว่าแกนนำกลุ่ม หลอกลวง สัญญาว่าจะได้ที่ทำกินแล้วมีการเรียกเก็บเงินจากผู้ชุมนุมเป็นรายหัว เป็นต้น ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะทำลายความชอบธรรมของกลุ่มแกนนำเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มเกษตรกรไร้ที่ทำกินได้เดินทางมายื่นหนังสือให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังจากยื่นหนังสือแล้วทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็เรียกผู้ใหญ่บ้าน กำนัน มาบอกว่าทางจังหวัดจะจัดสรรที่ให้คนละ 2 ไร่ และรายชื่อของคนที่จะได้นั้นเป็นชื่อของลูกน้องนักการเมืองพรรคเก่าแก่ของเมืองไทยทั้งสิ้น โดยทางกลุ่มจุดไฟในสายลมภาคใต้เห็นว่าการกระทำนี้ไม่ได้เป็นการรักษาผลประโยชน์ให้ชาวบ้าน แต่ไปปกป้องผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนผู้มีอิทธิพลในจังหวัดแทน
ทางกลุ่มเกษตกรผู้ไร้ที่ทำกิน จึงต้องรวมตัวกันมาเพื่อขับไล่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่สะพานนริศ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีทุกวัน และจะปักหลักอยู่จนกว่าผู้ว่าจะย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งวันที่ 26 มกราคม 2555 ครบ 3 เดือนที่มีปักหลักชุมนุมประท้วงที่สะพานนริศพอดี โดยมีประชาชนเข้าชุมนุมนับพันคนทุกวัน
วันนี้ (25 ม.ค.) ได้มีกลุ่มเกษตกรผู้ที่ไร้ที่ดินทำกิน จ.สุราษฎร์ธานี (กลุ่มจุดไฟในสายลมภาคใต้) ได้เคลื่อนขบวนจากสะพานนริศ ซึ่งเป็นที่ปักหลักชุมนุมประท้วงมาเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนเพื่อขับไล่นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มายังบริเวณสะพานสี่แยกเสงเพชร เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งยึดช่องทางการจราจรบริเวณสี่แยกดังกล่าวเปิดเวทีปราศรัยโจมตี พร้อมแจกใบปลิว เพื่อกดดันผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้พ้นจากตำแห่ง
โดยใบปลิวมีข้อความตอนหนึ่งว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นเรื่องให้มีการปฏิรูปที่ดิน ทำการปฏิรูปสำเร็จไปแล้ว 2 หมื่นไร่ และให้ประชาชนเช่าคนละ 10 ไร่ พร้อมทั้งจะมีการปฏิรูปตามมาอีกกว่า 4 หมื่นไร่ ปรากฏว่า ปัจจุบันนี้นายทุนที่หมดสัมปทานรัฐยังยึดพื้นที่ทำผลประโยชน์เหมือนเดิม
ก่อนหน้านี้ ประชาชนผู้ไร้ที่ทำกินได้เข้าไปยึดที่ดินของนายทุนหมดสัญญาสัมปทานแล้ว เพื่อรอการปฎิรูปเพิ่ม แต่นายทุนยังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์สวนปาล์ม ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณกว่า 4 หมื่นไร่อยู่ และมีรายได้เดือนหนึ่งหลายสิบล้านและเงินส่วนนี้ยังเป็นท่อน้ำเลี้ยงของนักการเมืองภาคใต้
แต่ประชาชนผู้ไร้ที่ทำกินยึดที่ดินของนายทุนหมดสัญญาสัมปทานนั้น ถูกกลุ่มนายทุนนักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐบางคน นำกำลังเข้าสลาย เผาทำลาย และยิง ผู้ที่ต้องการเพียงแค่ที่ดินทำกินเท่านั้น มีการบาดเจ็บและล้มตาย ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมามีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย บาดเจ็บพิการอีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ กลุ่มชาวบ้านยังถูกกล่าวหาเป็นผู้ร้ายในสังคมถูกใส่ร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยกลุ่มผู้ที่มีอิทธิพลในจังหวัด เช่น กล่าวหาว่าแกนนำกลุ่ม หลอกลวง สัญญาว่าจะได้ที่ทำกินแล้วมีการเรียกเก็บเงินจากผู้ชุมนุมเป็นรายหัว เป็นต้น ซึ่งเป็นกระบวนการที่จะทำลายความชอบธรรมของกลุ่มแกนนำเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มเกษตรกรไร้ที่ทำกินได้เดินทางมายื่นหนังสือให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังจากยื่นหนังสือแล้วทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็เรียกผู้ใหญ่บ้าน กำนัน มาบอกว่าทางจังหวัดจะจัดสรรที่ให้คนละ 2 ไร่ และรายชื่อของคนที่จะได้นั้นเป็นชื่อของลูกน้องนักการเมืองพรรคเก่าแก่ของเมืองไทยทั้งสิ้น โดยทางกลุ่มจุดไฟในสายลมภาคใต้เห็นว่าการกระทำนี้ไม่ได้เป็นการรักษาผลประโยชน์ให้ชาวบ้าน แต่ไปปกป้องผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนผู้มีอิทธิพลในจังหวัดแทน
ทางกลุ่มเกษตกรผู้ไร้ที่ทำกิน จึงต้องรวมตัวกันมาเพื่อขับไล่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่สะพานนริศ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีทุกวัน และจะปักหลักอยู่จนกว่าผู้ว่าจะย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งวันที่ 26 มกราคม 2555 ครบ 3 เดือนที่มีปักหลักชุมนุมประท้วงที่สะพานนริศพอดี โดยมีประชาชนเข้าชุมนุมนับพันคนทุกวัน
