เอเอฟพี - ทางการมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) เร่งแก้ปัญหาที่ดินชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจบาตรใหญ่เข้ายึดอย่างผิดกฎหมาย ทำให้ที่ดินที่ถูกยึดมีจำนวนลดลงร้อยละ 21 ในปีที่แล้ว โดยสำนักข่าวของทางการรายงาน หลังจากเกิดข้อพิพาทเรื่องที่ดินน่าสลดใจ ซึ่งกลายเป็นข่าวครึกโครมทั่วโลกเพียงไม่กี่วัน
สำนักข่าวซินหวารายงานเมื่อวันเสาร์ (24 ธ.ค.) ว่า มณฑลกว่างตง ซึ่งมั่งคั่งที่สุดของจีน และเป็นศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมของประเทศมีที่ดินราว 4,100 เฮกตาร์ หรือราว 25,010 ไร่ ถูกยึดอย่างผิดกฎหมายเมื่อปี 2553 แต่จำนวนพื้นที่ ซึ่งถูกยึดได้ลดลงร้อยละ 21 ในปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากข้อมูลของทางการมณฑล
ในจำนวนนี้เป็นที่ดินเกษตรกรรม 600 เฮกตาร์ หรือ 3,660 ไร่ พื้นที่ถูกยึดได้ลดจำนวนลงร้อยละ 55.5 จากปี 2552 สะท้อนถึงความพยายามของทางการในการปราบปรามเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่น ที่สมรู้ร่วมคิดกับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นมักขายที่ดินที่ยึดได้ให้แก่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกำลังต้องการก่อสร้างโรงงาน หรือตึกสูงใหม่ ๆ และปัญหานี้กลายเป็นชนวนการประท้วงวุ่นวายของประชาชนในมณฑล
คณะผู้บริหารปกครองมณฑลกว่างตงยอมรับว่า คณะผู้บริหารท้องถิ่นบางแห่งเข้ายึดที่ดินเพื่อการก่อสร้างทางรถไฟ และถนนโครงการใหญ่ โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากคณะผู้บริหารปกครอง ที่อยู่เหนือขึ้นไปเสียก่อน
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วข้อพิพาทที่ดินระหว่างชาวบ้านกับผู้ปกครองหมู่บ้านอู่กันในมณฑลกว่างตงได้ยุติลง หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของมณฑลตัดสินว่าข้อร้องเรียนของชาวบ้านเรื่องเจ้าหน้าที่ยึดที่ดินนั้นมีเหตุผล และให้ปล่อยตัวแกนนำประท้วง นอกจากนั้นจะมีการสอบสวนข้อร้องเรียนเรื่องเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ได้ขโมยที่ดินของชาวบ้านมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของมณฑลยังให้ส่งศพของนายเซียว์ จิ้นป๋อ ผู้นำชุมชน ที่เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจควบคุมตัวคืนให้แก่ครอบครัว
ทางการระบุว่า นายเซียว์ วัย 42 ปีเสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย แต่ทางครอบครัว ซึ่งเห็นสภาพศพแล้ว เชื่อว่าเขาถูกทุบตีจนถึงแก่ความตาย