เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ผู้ส่งออกกว่างตงกำลังเผชิญความท้าทาย เมื่อยอดส่งออกตกฮวบ เกือบน่าวิตกเท่ากับช่วงวิกฤติปี 2551 แล้ว
นายซู เสี่ยวถาน ผู้ว่าการกว่างตง กล่าวในงานสัมมนาอนาคตการพัฒนาเศรษฐกิจของกว่างตง (International Consultative Conference on the Future Economic Development of Guangdong) เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ว่า วิกฤติหนี้ในยุโรปเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดส่งออกตกฮวบ และมีผลกระทบต่อกว่างตง โดยวิกฤติหนี้ยุโรปจะไม่ส่งผลแค่ในเขตยูโรโซน แต่จะให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแอทั้งระบบ"
นายซู กล่าวว่า ยอดส่งออกกว่างตงเดือนตุลาคม อยู่ที่ 73,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตกลงร้อยละ 8.7 จากเดือนกันยายน และเขยิบขึ้นเพียงร้อยละ 7.8 เทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นเลขหน่วยเดียวหลังโตด้วยตัวเลขสองหลักตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยเขาเสริมว่า ผู้ส่งออกกว่างตงประสบปัญหาไม่มียอดสั่งซื้อใหญ่ๆ และแบบระยะยาวจากยุโรป ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ของจีน
"การเติบโตของภาคส่งออกไปยังยุโรปเริ่มชะลอตัว และช้ากว่าการส่งออกระหว่างมณฑลในประเทศ"
ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นภาคการส่งออก นายซูกล่าวว่า รัฐบาลจะสนับสนุนวิสาหกิจต่างๆ ในการขยายตลาดและยอดสั่งซื้อ และช่วยเหลือด้วยมาตรการคืนภาษีและปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมในภาคการเงินและบริการ โดยจะมีผู้ประกอบการในกว่างตงราว 33,000 ราย ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาธุรกิจ ซึ่งยังมีกระบวนการบริหารธุรกิจต่างๆ ที่สามารถปรับตัวเพื่อรับความสนับสนุนเพิ่มจากทุนต่างชาติ
"เราจะนำร่องอุตสาหกรรมบริการ ด้วยการร่วมมือกับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในฮ่องกงและมาเก๊า และพยายามบูรณาการรูปแบบการบริการสมัยใหม่ในพื้นที่แถบสามเหลี่ยมแม่น้ำเพิร์ล"
จีนคาดปี 54 มูลค่าการค้าตปท. ขยายตัว 20% ขณะปีหน้าหดตัวต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์จีนคาดมูลค่าการค้ากับต่างประเทศของจีน ขยายตัวในอัตราร้อยละ 20 ต่อปีในปีนี้ ขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญ ชี้การขยายตัวของศก.จีน จะชะลอตัวในปีถัดไปจากนี้ ต้องลดพึ่งพาการส่งออก
สื่อต่างประเทศรายงานวันที่ 14 พ.ย. อ้างคำแถลงในเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งคาดการณ์ว่า มูลค่าการค้ากับต่างประเทศของจีน น่าจะขยายตัวอยู่ในอัตราร้อยละ 20 ต่อปีในปีนี้ อยู่ที่ระดับ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ โดยกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จีนจะยังคงส่งเสริมการค้าอย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงโครงสร้างทางการค้าของประเทศ เพื่อเพิ่มการนำเข้าอันจะช่วยให้เศรษฐกิจโลกมีความสมดุลมากขึ้น
ส่วนในปีหน้านั้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนมีการขยายตัวที่รวดเร็ว แต่คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนคงจะชะลอลงอีกในไม่กี่ปีข้างหน้า โดยนายหลี่ หยัง รองประธานสถาบันสังคมศาสตร์ของจีน ที่ปรึกษาของรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงถดถอยต่อเนื่องนี้ ย่อมส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวตามลงมาด้วย ซึ่งเป็นเหตุเป็นผลตามปกติ เพราะการหดตัวของตลาดโลกส่งผลกระทบต่อการผลิตและส่งออกของจีน ดังนั้น นับต่อไปนี้ จีนคงจะต้องพยายามลดการพึ่งพาการส่งออก โดยปรับรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศของตน