เอเอฟพี - เกษตรกรราว 100 คน จากภาคเหนือของเวียดนาม รวมตัวกันประท้วงอยู่บนถนนสายหนึ่งในกรุงฮานอย วานนี้ (21 ก.พ.) นับเป็นการประท้วงครั้งล่าสุดในเหตุขัดแย้งยาวนานกว่า 6 ปี เกี่ยวกับการยึดที่ดินชาวบ้านพัฒนาเมืองใหม่
เกษตรกรที่ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุและผู้หญิง ยืนรวมกันอยู่ด้านนอกสำนักงานรัฐสภาในใจกลางเมือง พร้อมถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “โครงการอีโคพาร์ค ขโมยที่ดินจากประชาชน” โดยโครงการอีโคพาร์คเป็นชื่อเรียกเมืองบริวารรอบเมืองหลวงที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทเอกชนเวียดหุ่ง ที่เกษตรกรระบุว่า บริษัทดังกล่าวได้ที่ดินไปประมาณ 3,125 ไร่ จากที่ดินของพวกเขาใน จ.หุ่งเย็น โดยไม่มีการเจรจาอย่างเหมาะสม
บริษัท เวียดหุ่ง ได้พยายามที่จะพัฒนาเมืองใหม่บนที่ดินดังกล่าวตั้งแต่ปี 2547 อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 50 กม.ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมราว 250 ล้านดอลลาร์ แต่ในภายหลังเกิดการประท้วงขึ้นหลายครั้งจากบรรดาเกษตรกรในพื้นที่ในปี 2549 ทำให้โครงการต้องระงับลงชั่วคราว แต่ชาวบ้านอ้างว่าโครงการเริ่มพัฒนาขึ้นอีกครั้ง
“พวกเขายึดที่ดินคืนราว 2,100 ตารางเมตร บนที่ของฉันไปสร้างถนน เราไม่ยอมรับเงินตอบแทนที่พวกเขาเสนอ เราไม่ต้องการเสียที่ดินทำกินให้กับโครงการนี้” นางหวู ถิ ทู วัย 63 ปี จาก จ.หุ่งเย็น กล่าว
“เรามาที่นี่เพื่อร้องขอให้รัฐบาลเข้าระงับโครงการ เราต้องการที่ดินทำการเกษตรของเราคืนเพื่อลูกหลายของพวกเรา” นางทู กล่าว
เหตุขัดแย้งที่ดินกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นประเด็นปัญหาโต้เถียงมากขึ้นในเวียดนามที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ที่ที่ดินทุกผืนเป็นของรัฐ และสิทธิการใช้ที่ดินไม่ชัดเจนหรือได้รับการคุ้มครอง
รัฐบาลระบุว่า ทางการได้จ่ายค่าตอบแทนอย่างเพียงพอต่อผู้ที่ต้องย้ายที่อยู่ แต่การทุจริตของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีการยักยอกเงินทุนที่จัดสรรไว้นำไปใช้ส่วนตัว ส่งผลให้เกิดการร้องเรียนมากขึ้น
นายกฯยวุ๋ง ได้ให้คำมั่นที่จะลงโทษเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่กระทำทุจริต และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทั่วประเทศพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับนโยบายการจัดการที่ดินในแต่ละพื้นที่