นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่บริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช เร่งค้นหาพ่อแม่จระเข้ในเทือกเขาหลวง ปูพรมรอบคลองท่าควายวอนชาวบ้านพบอย่าทำร้าย เร่งแจ้งเจ้าหน้าที่คาดเป็นพันธุ์พื้นเมืองนครศรีฯ คู่สุดท้าย
กรณีชาวบ้านพบไข่ลึกลับ ที่บริเวณคลองท่าควาย กลางหุบภูเขาน้อย ม.5 ต.เขาน้อย อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในเขตเทือกเขาหลวง และเป็นพื้นที่หนึ่งที่ถูกน้ำป่าไหลหลาก สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นมีการนำไข่มาต้ม เมื่อแกะปอกเปลือกออกมาเพื่อบริโภคจึงพบว่าเป็นไข่ของจระเข้ เนื่องจากมีตัวอ่อนใกล้ครบกำหนดออกจากไข่อยู่ภายใน โดยเจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนชาวบ้านในย่านดังกล่าวห้ามลงไปเล่นน้ำ และหาปลาเนื่องจากอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้
ทั้งยังพบว่าจระเข้ที่มีอยู่นั้นมีมากกว่า 2 ตัว โดยเป็นตัวผู้และตัวเมียเนื่องจากมีการผสมพันธุ์และออกไข่มีตัวอ่อนอยู่ภายใน ขณะเดียวกันยังสันนิษฐานว่า จระเข้ดังกล่าวนั้นจะเป็นจระเข้สายพันธุ์ไทย ที่ยังหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติ เนื่องจากจุดที่พบนั้นอยู่ในบริเวณเทือกเขาหลวง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมาก
ความคืบหน้าวันนี้ (21 ม.ค.) นายเทอดไทย ขวัญทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการช่วยเหลือสัตว์ป่าในยามวิกฤต สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 เปิดเผยว่าตั้งแต่เช้ามืดมีกำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในพื้นที่ออกค้นหาจระเข้แล้วจำนวน 15 นาย โดยกระจายกำลังกันเดินเท้าในบริเวณรัศมีจากจุดพบรังที่วางไข่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัว
“ที่แน่ๆ จระเข้อาจจะมีมากกว่า 2 ตัวเนื่องจากมีทั้งตัวผู้ตัวเมียที่ผสมพันธุ์แล้วออกไข่ ซึ่งอาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้ เจ้าหน้าที่มีความเชื่อค่อนข้างสูงว่า จระเข้ชุดนี้อาจจะเป็นจระเข้ธรรมชาติสายพันธุ์ไทย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำมาตรวจสอบสายพันธุ์ ที่สำคัญนั้นเราขอให้ชาวบ้านที่อยู่ในย่านนั้นช่วยค้นหาและเป็นหูเป็นตา หากค้นพบนั้นขออย่าทำร้าย และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือ เนื่องจากอาจเป็นจระเข้สายพันธุ์ไทยคู่สุดท้ายของป่าผืนนี้ก็ได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมแผนอนุรักษ์สายพันธุ์ไว้รองรับแล้ว” หัวหน้าชุดปฏิบัติการกล่าว
กรณีชาวบ้านพบไข่ลึกลับ ที่บริเวณคลองท่าควาย กลางหุบภูเขาน้อย ม.5 ต.เขาน้อย อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในเขตเทือกเขาหลวง และเป็นพื้นที่หนึ่งที่ถูกน้ำป่าไหลหลาก สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นมีการนำไข่มาต้ม เมื่อแกะปอกเปลือกออกมาเพื่อบริโภคจึงพบว่าเป็นไข่ของจระเข้ เนื่องจากมีตัวอ่อนใกล้ครบกำหนดออกจากไข่อยู่ภายใน โดยเจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนชาวบ้านในย่านดังกล่าวห้ามลงไปเล่นน้ำ และหาปลาเนื่องจากอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้
ทั้งยังพบว่าจระเข้ที่มีอยู่นั้นมีมากกว่า 2 ตัว โดยเป็นตัวผู้และตัวเมียเนื่องจากมีการผสมพันธุ์และออกไข่มีตัวอ่อนอยู่ภายใน ขณะเดียวกันยังสันนิษฐานว่า จระเข้ดังกล่าวนั้นจะเป็นจระเข้สายพันธุ์ไทย ที่ยังหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติ เนื่องจากจุดที่พบนั้นอยู่ในบริเวณเทือกเขาหลวง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมาก
ความคืบหน้าวันนี้ (21 ม.ค.) นายเทอดไทย ขวัญทอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการช่วยเหลือสัตว์ป่าในยามวิกฤต สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 เปิดเผยว่าตั้งแต่เช้ามืดมีกำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในพื้นที่ออกค้นหาจระเข้แล้วจำนวน 15 นาย โดยกระจายกำลังกันเดินเท้าในบริเวณรัศมีจากจุดพบรังที่วางไข่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัว
“ที่แน่ๆ จระเข้อาจจะมีมากกว่า 2 ตัวเนื่องจากมีทั้งตัวผู้ตัวเมียที่ผสมพันธุ์แล้วออกไข่ ซึ่งอาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้ เจ้าหน้าที่มีความเชื่อค่อนข้างสูงว่า จระเข้ชุดนี้อาจจะเป็นจระเข้ธรรมชาติสายพันธุ์ไทย ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำมาตรวจสอบสายพันธุ์ ที่สำคัญนั้นเราขอให้ชาวบ้านที่อยู่ในย่านนั้นช่วยค้นหาและเป็นหูเป็นตา หากค้นพบนั้นขออย่าทำร้าย และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือ เนื่องจากอาจเป็นจระเข้สายพันธุ์ไทยคู่สุดท้ายของป่าผืนนี้ก็ได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมแผนอนุรักษ์สายพันธุ์ไว้รองรับแล้ว” หัวหน้าชุดปฏิบัติการกล่าว
