นครศรีธรรมราช - นครศรีธรรมราชฉลองปีใหม่ท่ามกลางสายฝน แหลมตะลุมพุกฝนหนักคลื่นลมแรง แต่ไม่มีน้ำทะเลหนุน ความเสียหายอยู่ในวงจำกัด ส่วนเทือกเขาหลวงฝนตกต่อเนื่อง ปริมาณน้ำในลำธารเพิ่มสูง ซึ่งทางการได้ประกาศให้เฝ้าระวังน้ำป่าและดินถล่มแล้ว
วันนี้ (1 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครศรีธรรมราชว่า หลังการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในทุกพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งผลให้ระดับน้ำในลำคลองสายหลักเพิ่มสูงขึ้น กิจกรรมต้อนรับปีใหม่ทั้งหมดต้องดำเนินไปท่ามกลางสายฝน เช่น การเดินวิ่งข้ามปีบูชาพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช การสวดมนต์ข้ามปีในพระวิหารหลวงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จนกระทั่งในช่วงเช้าการทำบุญตักบาตรรับวันปีใหม่ก็เป็นไปด้วยความทุลักทุเล
จากการสำรวจในหลายๆพื้นที่พบว่า แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่แรกที่จะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของลมมรสุม โดยฝนได้ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางดึก คลื่นลมทวีกำลังแรงจนชาวบ้านต้องนำเอาเรือประมงชายฝั่งเข้าไปหลบตามลำคลองสายต่างๆเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเครื่องมือและตัวเรือ อย่างไรก็ตามถือเป็นความโชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ดังนั้นความเสียหายกับหมู่บ้านจึงยังอยู่ในขอบเขตจำกัด ไม่ขยายวงกว้างมากไปกว่าเดิม
ส่วนพื้นที่แนวเทือกเขาหลวง ที่ทอดตัวผ่านตลอดแนวเหนือใต้ของจ.นครศรีธรรมราช และเป็นพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มอันดับ 1 ของประเทศไทยนั้น ปรากฏว่าฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง มีเมฆปกคลุมยอดเขาทุกยอด น้ำในลำธารที่ไหลลงมามีปริมาณเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังน้ำป่าและดินถล่มแล้ว เพราะจนถึงขณะนี้ฝนก็ยังตกอยู่ตลอดเวลา
วันนี้ (1 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครศรีธรรมราชว่า หลังการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในทุกพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งผลให้ระดับน้ำในลำคลองสายหลักเพิ่มสูงขึ้น กิจกรรมต้อนรับปีใหม่ทั้งหมดต้องดำเนินไปท่ามกลางสายฝน เช่น การเดินวิ่งข้ามปีบูชาพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช การสวดมนต์ข้ามปีในพระวิหารหลวงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จนกระทั่งในช่วงเช้าการทำบุญตักบาตรรับวันปีใหม่ก็เป็นไปด้วยความทุลักทุเล
จากการสำรวจในหลายๆพื้นที่พบว่า แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่แรกที่จะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของลมมรสุม โดยฝนได้ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางดึก คลื่นลมทวีกำลังแรงจนชาวบ้านต้องนำเอาเรือประมงชายฝั่งเข้าไปหลบตามลำคลองสายต่างๆเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเครื่องมือและตัวเรือ อย่างไรก็ตามถือเป็นความโชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ดังนั้นความเสียหายกับหมู่บ้านจึงยังอยู่ในขอบเขตจำกัด ไม่ขยายวงกว้างมากไปกว่าเดิม
ส่วนพื้นที่แนวเทือกเขาหลวง ที่ทอดตัวผ่านตลอดแนวเหนือใต้ของจ.นครศรีธรรมราช และเป็นพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มอันดับ 1 ของประเทศไทยนั้น ปรากฏว่าฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง มีเมฆปกคลุมยอดเขาทุกยอด น้ำในลำธารที่ไหลลงมามีปริมาณเพิ่มขึ้นตลอดเวลา และขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังน้ำป่าและดินถล่มแล้ว เพราะจนถึงขณะนี้ฝนก็ยังตกอยู่ตลอดเวลา