ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวประมงพื้นบ้านสงขลาบางส่วน ยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะนำเรือออกไปทำการประมงกลางทะเล หลังอุตุฯใต้มีประกาศเตือนภาคใต้ตอนล่าง ยังมีมรสุมมีคลื่นลมแรง ต้องวางกัดและทอดแหชายฝั่ง เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวไปก่อน จนกว่ามีความแน่ใจว่าสภาพคลื่นลมกลับสู่ภาวะปกติ
วันนี้ (9 ม.ค.) ที่บริเวณชายหาดชุมชนบ้านเก้าเส้ง เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ชาวประมงพื้นบ้านบางส่วนยังไม่กล้าเสี่ยงนำเรือออกไปทำการประมงกลางทะเล เนื่องจากมีการประกาศเตือนว่าในอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 9-13 มกราคมนี้ คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ส่งผลให้ชาวประมงพื้นบ้านบางส่วนที่เชื่อถือในการพยากรณ์อากาศ ยังคงทำการประมงอยู่บริเวณชายฝั่ง ไม่นำเรือออกไปทำการประมงกลางทะเล โดยนำอวนกัดมาวางตลอดแนวชายฝั่งเพื่อจับสัตว์น้ำ รวมทั้งนำแหมาทอดหารายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงที่ยังไม่ได้ออกเรือ โดยต้องหยุดทำการประมงมากว่า 3 เดือนแล้ว เพราะคลื่นลมแรง ซึ่งก็สามารถจับสัตว์น้ำได้ตลอดทั้งวันเช่นกัน อีกทั้งในช่วงวันหยุดก็จะมีลูกๆ มาคอยช่วยพ่อในการปลดปลาออกจากอวนและเก็บปลา หลังจากนั้นทางแม่บ้านก็จะนำไปขายที่ตลาดสด
นายสมคิด มะหะพันธ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 ชุมชนเก้าเส้ง ถนนเก้าแสน อ.เมือง จ.สงขลา เปิดเผยว่า วันนี้ที่ไม่กล้านำเรือออกไปทำการประมง เพราะมีประกาศในเรื่องคลื่นลมแรงอยู่ แต่มีเรือบางลำที่ออกไปแล้วเขาก็เสี่ยง เพราะหากเกิดเรือล่มเสียหายไปแล้วไม่คุ้มกลับมา เพราะเราไม่มีทุน ตอนนี้มาทอดแหทุกวันประทังชีวิต ได้ ปลากระบอก ปลาขี้ตัง และลูกปลากะตัก
ช่วงนี้ตนมีรายได้จากการทอดแห แต่พอคลื่นแรงก็ไม่ได้ทอด ทั้งนี้ ทอดมาแล้ว 2 วันรวมวันนี้ เมื่อวานนี้ได้ 400-500 บาท โดยทอดแหไปจนถึงค่ำ เพราะต้องหารายได้เลี้ยงครอบครัว ในครอบครัวมี 4 ชีวิต และมีพ่อแม่อีก 2 คน ขณะนี้แม่เป็นอัมพฤกษ์ พ่อก็แก่แล้ว จึงต้องหารายได้เลี้ยงครอบครัวไปก่อนจนกว่าคลื่นลมสงบ จึงจะนำเรือออกทำการประมงตามปกติ