ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ประเมินความเสียหายรวม 300 ล้านบาท ขณะที่อ่าวไทยยังมีคลื่นลมแรง เรือประมงพื้นบ้าน 400 ลำจอดสนิท สัตว์น้ำขาดตลาดบางชนิดราคาพุ่ง ชาวเรือวอนให้รัฐบาลชดเชยรายได้
จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 ชุมชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้แก่ ชุมชนเทศาพัฒนา ชุมชนตลาดพ่อพรหม ชุมชนวัดหาดใหญ่ใน และชุมชนริมคลอง ร.1 ซึ่งถูกน้ำจากคลองระบายน้ำ ร.1 ล้นตลิ่งเข้าท่วมเมื่อวันที่ 2 ม.ค. นั้น
วันนี้ (6 ม.ค.) นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า จาการประเมินความเสียหายในเบื้องต้นประมาณ 300 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ยังมีในปีต่อไป ตราบใดที่ป่าใน อ.สะเดา ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำยังถูกทำลาย เพราะน้ำที่ท่วมหาดใหญ่เป็นน้ำที่มาจาก อ.สะเดา ทั้งหมด
“สำหรับแผนรับมือนั้น ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้เสนอโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่แบบยั่งยืนไปยังรัฐบาลแล้วโดยใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท และกรมชลประทานก็ได้เสนอโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมภาพรวมไปแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ” นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าว
ด้าน นายพงษ์เทพ จิระสุขประเสริฐ นายอำเภอนาทวี ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่ อบต.ฉาง เพื่อสรุปความเสียหายจากน้ำท่วมทั้ง 10 ตำบล ความเสียหายรวมทั้งสิ้นประมาณ 110 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการซ่อมแซมถนน สะพาน และในส่วนของความเสียหายให้รีบสำรวจเพื่อเสนอของบประมาณ โดยเขตเทศบาลตำบลนาทวีได้รับความเสียหายมากที่สุดประมาณ 40 ล้านบาท
นายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วม จ.สงขลา จะทวีความรุนแรงขึ้นทุกๆ ปี เพราะคลองแต่ละสายตื้นเขินจนไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน
ทั้งนี้ อบจ.สงขลา มีแผนขุดลอกคลองในพื้นที่รอบนอกที่ตื้นเขินไม่สามารถที่จะระบายน้ำลงคลองและแม่น้ำสายหลักๆ ได้ทันท่วงที และเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรในหน้าแล้ง ได้แก่ คลองวังปริง เขามีเกียรติ สำนักขาม อ.สะเดา คลองหอยโข่ง คลองโคกม่วง อ.คลองหอยโข่ง คลองลำทับ คลองลูกเสือ อ.สะบ้าย้อย คลองกวาง คลองฉาง อ.นาทวี คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน สภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยพื้นที่ชายฝั่ง 6 อำเภอของ จ.สงขลา ยังมีกำลังแรง ประมงพื้นบ้านไม่สามารถออกเรือได้ เดือดร้อนอย่างหนัก ต้องหันไปประกอบอาชีพก่อสร้างแทนชั่วคราว โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกได้ออกประกาศเตือนจะมีคลื่นลมแรงระลอกใหม่ 6-8 ม.ค. นี้ ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช-นราธิวาส
นายประพร เอกอุรา นายกสมาคมประมง จ.สงขลา เปิดเผยว่า สภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ความสูงประมาณ 2 เมตร ประมงพื้นบ้านประมาณ 400-500 ลำ ยังไม่กล้าออกทำการประมง โดยหยุดออกเรือประมาณ 2 เดือนแล้ว ทำให้ขาดรายได้ บางส่วนต้องหันไปประกอบอาชีพก่อสร้าง เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงที่ว่างเว้นทำประมง ส่งผลให้สัตว์น้ำขาดแคลนตลาด ราคาเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 30 ของราคาปกติ เพราะต้องสั่งซื้อสัตว์น้ำจากฝั่งทะเลอันดามัน และบางชนิดขาดตลาด
นายสัน หมัดเจริญ ชาวประมงพื้นบ้าน เปิดเผยว่า คลื่นลมมีกำลังแรงจึงไม่กล้าออกเรือ ทำให้ขาดรายได้ หากไม่ทำงานก็จะอยู่ไม่ได้ ต้องหาเลี้ยงครอบครัวด้วย รัฐบาลน่าจะมีการชดเชยให้กับชาวประมง ที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ ด้วย
จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 ชุมชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้แก่ ชุมชนเทศาพัฒนา ชุมชนตลาดพ่อพรหม ชุมชนวัดหาดใหญ่ใน และชุมชนริมคลอง ร.1 ซึ่งถูกน้ำจากคลองระบายน้ำ ร.1 ล้นตลิ่งเข้าท่วมเมื่อวันที่ 2 ม.ค. นั้น
วันนี้ (6 ม.ค.) นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า จาการประเมินความเสียหายในเบื้องต้นประมาณ 300 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ยังมีในปีต่อไป ตราบใดที่ป่าใน อ.สะเดา ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำยังถูกทำลาย เพราะน้ำที่ท่วมหาดใหญ่เป็นน้ำที่มาจาก อ.สะเดา ทั้งหมด
“สำหรับแผนรับมือนั้น ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ได้เสนอโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่แบบยั่งยืนไปยังรัฐบาลแล้วโดยใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท และกรมชลประทานก็ได้เสนอโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมภาพรวมไปแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ” นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าว
ด้าน นายพงษ์เทพ จิระสุขประเสริฐ นายอำเภอนาทวี ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่ อบต.ฉาง เพื่อสรุปความเสียหายจากน้ำท่วมทั้ง 10 ตำบล ความเสียหายรวมทั้งสิ้นประมาณ 110 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการซ่อมแซมถนน สะพาน และในส่วนของความเสียหายให้รีบสำรวจเพื่อเสนอของบประมาณ โดยเขตเทศบาลตำบลนาทวีได้รับความเสียหายมากที่สุดประมาณ 40 ล้านบาท
นายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา เปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วม จ.สงขลา จะทวีความรุนแรงขึ้นทุกๆ ปี เพราะคลองแต่ละสายตื้นเขินจนไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน
ทั้งนี้ อบจ.สงขลา มีแผนขุดลอกคลองในพื้นที่รอบนอกที่ตื้นเขินไม่สามารถที่จะระบายน้ำลงคลองและแม่น้ำสายหลักๆ ได้ทันท่วงที และเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรในหน้าแล้ง ได้แก่ คลองวังปริง เขามีเกียรติ สำนักขาม อ.สะเดา คลองหอยโข่ง คลองโคกม่วง อ.คลองหอยโข่ง คลองลำทับ คลองลูกเสือ อ.สะบ้าย้อย คลองกวาง คลองฉาง อ.นาทวี คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน สภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยพื้นที่ชายฝั่ง 6 อำเภอของ จ.สงขลา ยังมีกำลังแรง ประมงพื้นบ้านไม่สามารถออกเรือได้ เดือดร้อนอย่างหนัก ต้องหันไปประกอบอาชีพก่อสร้างแทนชั่วคราว โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกได้ออกประกาศเตือนจะมีคลื่นลมแรงระลอกใหม่ 6-8 ม.ค. นี้ ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช-นราธิวาส
นายประพร เอกอุรา นายกสมาคมประมง จ.สงขลา เปิดเผยว่า สภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยยังมีกำลังแรง ความสูงประมาณ 2 เมตร ประมงพื้นบ้านประมาณ 400-500 ลำ ยังไม่กล้าออกทำการประมง โดยหยุดออกเรือประมาณ 2 เดือนแล้ว ทำให้ขาดรายได้ บางส่วนต้องหันไปประกอบอาชีพก่อสร้าง เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงที่ว่างเว้นทำประมง ส่งผลให้สัตว์น้ำขาดแคลนตลาด ราคาเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 30 ของราคาปกติ เพราะต้องสั่งซื้อสัตว์น้ำจากฝั่งทะเลอันดามัน และบางชนิดขาดตลาด
นายสัน หมัดเจริญ ชาวประมงพื้นบ้าน เปิดเผยว่า คลื่นลมมีกำลังแรงจึงไม่กล้าออกเรือ ทำให้ขาดรายได้ หากไม่ทำงานก็จะอยู่ไม่ได้ ต้องหาเลี้ยงครอบครัวด้วย รัฐบาลน่าจะมีการชดเชยให้กับชาวประมง ที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ ด้วย
