ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวบ้านริมทะเลในพื้นที่บ้านท่าเข็น ต.คลองแดน อ.ระโนด 20 ครัวเรือน อพยพด่วนกลางดึก อาศัยศาลาโรงครัววัดชั่วคราว หลังบ้านซึ่งอยู่ติดริมทะเลถูกคลื่นซัดเสียหายไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ผู้ว่าฯ สงขลา ลงพื้นที่เยี่ยมพร้อมมอบของยังชีพและเตรียมจัดส่งทีมแพทย์มาดูแล
จากสภาพคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยที่ยังคงมีกำลังแรงและสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ชายฝั่งในหลายของจังหวัดของภาคใต้ ล่าสุดเมื่อช่วงดึกคืนที่ผ่านมา (26 ธ.ค.) คลื่นขนาดใหญ่ความสูง 2-3 เมตรได้พัดเข้าสู่ชายฝั่งในพื้นที่หมู่ 1 บ้านท่าเข็น ต.คลองแดน อ.ระโนด จ.สงขลา ตลอดแนวชายหาดความยาวกว่า 3 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านจำนวน 20 ครัวเรือนกว่า 50 คนที่มีบ้านอยู่ติดริมทะเล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงเด็กและคนชราต้องอพยพออกจากบ้านมาอาศัยอยู่ที่ศาลาโรงครัวของวัดหัวคุ้งชั่วคราว เนื่องจากบ้านถูกคลื่นซัดเสียหายไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ และเกือบทุกครอบครัวไม่สามารถนำสิ่งของเครื่องใช้ออกมาได้มีเพียงเสื้อผ้าและเครื่องใช้ที่จำเป็นติดตัวมาเท่านั้นและต้องอาศัยหลับนอนในศาลาโรงครัวกันอย่างแออัดโดยเฉพาะเด็กๆ
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอระโนดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้เข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่อพยพทั้งหมดพร้อมกับมอบถุงยังชีพเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น และในวันนี้ (26 ธ.ค.) จะจัดทีมแพทย์เข้ามาดูแลสุขภาพของผู้อพยพโดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กๆ พร้อมกับสั่งการให้ทางอำเภอระโนดใช้งบประมาณของทางอำเภอที่จัดสรรให้จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือทั้งในส่วนของบ้านเรือนและทรัพย์สินที่เสียหายพร้อมกับสั่งการให้ดูแลชาวบ้านที่ต้องอพยพมาอยู่ที่บ้านอย่างดีที่สุดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และจะมีการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายอีกครั้งในเช้าวันนี้
ทั้งนี้ ชาวบ้านเผยว่า เหตุการณ์คลื่นลมแรงในครั้งนี้หนักที่สุดในรอบปีนี้และเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นครั้งที่สามและต่างอยู่ในอาการหวาดผวา ขณะที่สถานการณ์ในภาพรวมของ จ.สงขลาได้เกิดคลื่นลมแรงตลอดแนวชายฝั่งทั้ง 6 อำเภอของ จ.สงขลา คือ อ.เมือง จะนะ เทพา สทิงพระ สิงหนคร และ อ.ระโนด ซึ่งสถานการณ์หนักที่สุด
