นราธิวาส - เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าคนร้ายก่อเหตุปะทะทหารพราน 4610 คนร้ายเสียชีวิต 1 คน และควบคุมผู้ต้องสงสัยสอบสวนอีก 1 โดยคาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มของนายอับดุลฮาเล็ง เจ๊ะกู ที่มีหมายจับในข้อหาก่อเหตุความไม่สงบหลายคดี
วันนี้ ( 7 ม.ค. ) พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัตตะ มะดาวา ผกก.สภ.จะแนะ และเจ้าหน้าที่เข้าตรวจจุดเกิดเหตุคนร้ายปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน 4610 จนเป็นเหตุให้ ส.อ.อภิเดช หน่อทอง อายุ 31 ปี เสียชีวิต 1 นายเมื่อวานนี้
จุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ.4610 บ้านไอร์บือแต หมู่ 4 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และปลอกกระสุนปืนอาก้าที่คนร้ายใช้ยิงโจมตีฐานปฏิบัติการร้อย ทพ.4610 ตกกระจายอยู่ประมาณ 100ปลอก, จุดที่ 2 ที่บริเวณหน้าโรงเรียนปอเนาะบ้านไอร์บือแตพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็คซ์ 4 ประตูที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุบุกโจมตีฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ. 4610 จอดอยู่ในสภาพถูกยิงเป็นรูพรุนไปทั้งคัน ตรวจค้นในรถพบ เปลสนาม, เสื้อผ้าและเครื่องเวชภัณฑ์ยาจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวนั้นทราบว่านางนูไซดะ สะมะรี เจ้าหน้าที่ประจำสถานีอนามัยบ้านไอร์ซือแระ ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ เป็นเจ้าของ ซึ่งเจ้าหน้าที่รอเรียกมาสอบสวนต่อไป
ส่วนผลการตรวจสอบจุดที่ 3 ที่เนินเขาบ้านไอร์กาเซ ซึ่งเป็นหมู่บ้านย่อยของบ้านไอร์บือแต อยู่ห่างจากจุดที่พบรถยนต์กระบะที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ 2 กิโลเมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงิน ทะเบียน กรต.60 นราธิวาส จอดล้มตะแคงอยู่ 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันค้นพื้นที่โดยรอบบริเวณพบศพคนร้ายไม่ทราบชื่อ นอนเสียชีวิตอยู่ที่โคนต้นไม้ใหญ่ 1 คน สภาพศพมีรอยถูกยิงตามลำตัวหลายจุด
สอบถามชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงทราบว่า ขณะที่คนร้ายที่ยิงปะทะกับกำลังทหารพรานกำลังแยกย้ายกันหลบหนีนั้น คนร้ายคนหนึ่งได้วิ่งมาใช้ปืนจี้บังคับเจ้าของรถจักรยานยนต์คันนี้ เพื่อใช้เป็นพาหนะในการหลบหนี แต่เนื่องจากคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บสาหัสมากและเมื่อขี่รถจักรยานยนต์มาถึงจุดนี้แล้ว ได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้บนเนินเขา จากนั้นได้วิ่งเข้าไปหลบซ่อนอยู่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่แต่ เพราะเสียเลือดมากจึงเป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต 1 คน
ส่วนความคืบหน้าการติดตามไล่ล่าคนร้ายที่เหลือ พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 ได้สนธิกำลังทหารจาก ฉก.นราธิวาส, ตำรวจ สภ.จะแนะและกำลัง อส.จากอำเภอจะแนะ กระจายกำลังออกตรวจค้นในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันยังได้ขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพภาคที่ 4ขึ้นบินลาดตระเวน เพื่อกดดันคนร้ายทางอากาศอีกทางหนึ่งด้วย
จากการติดตามตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายนาดือรี ดือราแม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 2 ต.ช้างเผือก ได้ 1 คน ขณะที่นายนาดือรี ขึ้นไปหลบซ่อนอยู่บนเพดานบ้านของบ้านเลขที่ 82 หมู่ 4 เป็นบ้านพักของนายอับดุลรอนิง วะหา อายุ 45 ปี และอยู่ห่างจากจุดที่คนร้ายได้จอดรถยนต์กระบะทิ้งไว้ 500 เมตร
สอบสวนนายนาดือรี ให้การว่า เป็นทหารเกณฑ์ปลดประจำการเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 และเป็นสามีของนางนูไซดะ เจ้าหน้าที่ประจำสถานีอนามัยบ้านไอร์ซือแระ ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ เจ้าของรถยนต์กระบะที่คนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุบุกโจมตีฐานทหารพราน ร้อย ทพ.4610 โดยก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์คันนี้โดยมีนางนูไซดะ ภรรยานั่งมาด้วย เดินทางกลับมาจากละหมาดที่มัสยิดระหว่างทางถูกคนร้ายดักปล้นและใช้ปืนจี้บังคับให้ขับรถยนต์ผ่านด่านตรวจของทหารพรานร้อย ทพ.4610 จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นโดยตนไม่เคยรู้จักคนร้ายกลุ่มนี้มาก่อนเลย สาเหตุที่วิ่งหนีขึ้นไปหลบซ่อนอยู่บนเพดานบ้านของนายอับดุลรอนิงนั้นเนื่องมาจากความกลัว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้คุมตัวนายนาดือรีไปสอบสวนขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารพรานอีก 1 ชุดปฏิบัติการ เดินเท้าขึ้นไปบนเทือกเขาหลังหมู่บ้านไอร์บือแตเพื่อสกัดกั้นคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มของนายอับดุลฮาเล็ง เจ๊ะกู แกนนำคนร้ายกลุ่มอาร์เคเค ที่มีหมายจับในข้อหาก่อเหตุความไม่สงบหลายคดี
วันนี้ ( 7 ม.ค. ) พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัตตะ มะดาวา ผกก.สภ.จะแนะ และเจ้าหน้าที่เข้าตรวจจุดเกิดเหตุคนร้ายปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน 4610 จนเป็นเหตุให้ ส.อ.อภิเดช หน่อทอง อายุ 31 ปี เสียชีวิต 1 นายเมื่อวานนี้
จุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ.4610 บ้านไอร์บือแต หมู่ 4 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และปลอกกระสุนปืนอาก้าที่คนร้ายใช้ยิงโจมตีฐานปฏิบัติการร้อย ทพ.4610 ตกกระจายอยู่ประมาณ 100ปลอก, จุดที่ 2 ที่บริเวณหน้าโรงเรียนปอเนาะบ้านไอร์บือแตพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็คซ์ 4 ประตูที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุบุกโจมตีฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ. 4610 จอดอยู่ในสภาพถูกยิงเป็นรูพรุนไปทั้งคัน ตรวจค้นในรถพบ เปลสนาม, เสื้อผ้าและเครื่องเวชภัณฑ์ยาจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวนั้นทราบว่านางนูไซดะ สะมะรี เจ้าหน้าที่ประจำสถานีอนามัยบ้านไอร์ซือแระ ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ เป็นเจ้าของ ซึ่งเจ้าหน้าที่รอเรียกมาสอบสวนต่อไป
ส่วนผลการตรวจสอบจุดที่ 3 ที่เนินเขาบ้านไอร์กาเซ ซึ่งเป็นหมู่บ้านย่อยของบ้านไอร์บือแต อยู่ห่างจากจุดที่พบรถยนต์กระบะที่คนร้ายจอดทิ้งไว้ 2 กิโลเมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงิน ทะเบียน กรต.60 นราธิวาส จอดล้มตะแคงอยู่ 1 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันค้นพื้นที่โดยรอบบริเวณพบศพคนร้ายไม่ทราบชื่อ นอนเสียชีวิตอยู่ที่โคนต้นไม้ใหญ่ 1 คน สภาพศพมีรอยถูกยิงตามลำตัวหลายจุด
สอบถามชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงทราบว่า ขณะที่คนร้ายที่ยิงปะทะกับกำลังทหารพรานกำลังแยกย้ายกันหลบหนีนั้น คนร้ายคนหนึ่งได้วิ่งมาใช้ปืนจี้บังคับเจ้าของรถจักรยานยนต์คันนี้ เพื่อใช้เป็นพาหนะในการหลบหนี แต่เนื่องจากคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บสาหัสมากและเมื่อขี่รถจักรยานยนต์มาถึงจุดนี้แล้ว ได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้บนเนินเขา จากนั้นได้วิ่งเข้าไปหลบซ่อนอยู่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่แต่ เพราะเสียเลือดมากจึงเป็นเหตุให้คนร้ายเสียชีวิต 1 คน
ส่วนความคืบหน้าการติดตามไล่ล่าคนร้ายที่เหลือ พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 ได้สนธิกำลังทหารจาก ฉก.นราธิวาส, ตำรวจ สภ.จะแนะและกำลัง อส.จากอำเภอจะแนะ กระจายกำลังออกตรวจค้นในพื้นที่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันยังได้ขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพภาคที่ 4ขึ้นบินลาดตระเวน เพื่อกดดันคนร้ายทางอากาศอีกทางหนึ่งด้วย
จากการติดตามตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายนาดือรี ดือราแม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 2 ต.ช้างเผือก ได้ 1 คน ขณะที่นายนาดือรี ขึ้นไปหลบซ่อนอยู่บนเพดานบ้านของบ้านเลขที่ 82 หมู่ 4 เป็นบ้านพักของนายอับดุลรอนิง วะหา อายุ 45 ปี และอยู่ห่างจากจุดที่คนร้ายได้จอดรถยนต์กระบะทิ้งไว้ 500 เมตร
สอบสวนนายนาดือรี ให้การว่า เป็นทหารเกณฑ์ปลดประจำการเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 และเป็นสามีของนางนูไซดะ เจ้าหน้าที่ประจำสถานีอนามัยบ้านไอร์ซือแระ ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ เจ้าของรถยนต์กระบะที่คนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุบุกโจมตีฐานทหารพราน ร้อย ทพ.4610 โดยก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์คันนี้โดยมีนางนูไซดะ ภรรยานั่งมาด้วย เดินทางกลับมาจากละหมาดที่มัสยิดระหว่างทางถูกคนร้ายดักปล้นและใช้ปืนจี้บังคับให้ขับรถยนต์ผ่านด่านตรวจของทหารพรานร้อย ทพ.4610 จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นโดยตนไม่เคยรู้จักคนร้ายกลุ่มนี้มาก่อนเลย สาเหตุที่วิ่งหนีขึ้นไปหลบซ่อนอยู่บนเพดานบ้านของนายอับดุลรอนิงนั้นเนื่องมาจากความกลัว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงได้คุมตัวนายนาดือรีไปสอบสวนขยายผลต่อไป
นอกจากนี้ พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารพรานอีก 1 ชุดปฏิบัติการ เดินเท้าขึ้นไปบนเทือกเขาหลังหมู่บ้านไอร์บือแตเพื่อสกัดกั้นคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มของนายอับดุลฮาเล็ง เจ๊ะกู แกนนำคนร้ายกลุ่มอาร์เคเค ที่มีหมายจับในข้อหาก่อเหตุความไม่สงบหลายคดี