“ยุทธศักดิ์” ทำยัวะส่งหนังสือประท้วงเขมรยิงฮ.ทัพเรือ ด้านผบ.ทร.ลั่นฮ.ไทยไม่บินล้ำแดน ปัดยิงโต้เขมร รับต้องเพิ่มความระวัง เผยยังไม่ชัดเขมร"จงใจหรือประมาท" รอความชัดเจนหลังทหารไทย-เขมรถก ผวาปิดด่านชายแดนหากไม่ปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเฮลิคอปเตอร์เบลล์ 212 ของกองทัพเรือจนได้รับความเสียหายบริเวณกองกำลังจันทบุรี-ตราด เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ในเบื้องต้นตนได้รับรายงานจาก พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด และพล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเรืองรมย์ ผบ.ทร.เรียบร้อยแล้วถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันนี้ ตนจึงได้สั่งการให้ทางผบ.ทหารสูงสุด ทำหนังสือประท้วงส่งผ่านมายังสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม เพื่อรวบรวมข้อมูลให้พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ลงนามแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อส่งหนังสือประท้วงไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ในการประท้วงถึงการกระทำของทหารกัมพูชาต่อไป
ด้านพล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาเวลา 13.30 น. เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือปฏิบัติหน้าที่ชายแดนเพื่อตรวจการณ์และส่งกำลังบำรุงให้ฐานปฏิบัติการ ซึ่งเหตุเกิดบริเวณคลองใหญ่ จ.ตราด เป็นฐาน 326 ซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้ง พื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยมีกำลังทั้งสองฝ่ายอยู่ด้วยกัน ตามปกติการลาดตระเวนเราปฏิบัติมานานแล้ว รวมถึงการส่งกำลังบำรุงให้กับหน่วยทหารพรานของเรา โดยเราจะมีการแจ้งบอกก่อน แต่ครั้งนี้ขณะที่ ฮ.ของเรากำลังลาดตระเวนลงไปปฏิบัติการณ์ที่ฐานทหารพรานก็ถูกยิงบริเวณโรเตอร์ใบพัดเสียหายเล็กน้อย แต่กำลังพลเราปลอดภัย อย่างไรก็ตามเราไม่มีการยิงโต้ตอบตามที่กัมพูชาเสนอข่าว เบื้องต้นกองทัพเรือได้เรียนรมว.กลาโหมให้รับทราบ และรมว.กลาโหมได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศในการประท้วง ขณะเดียวกันในพื้นที่ปฏิบัติการในการป้องกันชายแดนจันทบุรี ตราด ได้ทำหนังสือประท้วงกับผบ.พื้นที่กัมพูชา ซึ่งขั้นตอนอยู่ในระหว่างการเจรจาตกลงกัน ส่วนผลการเจรจานำเรียนให้รมว.กลาโหมรับทราบอีกครั้ง
เมื่อถามว่า หากมีเหตุการณ์ครั้งต่อไปเราจะยิงโต้ตอบได้หรือไม่ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า เราต้องระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้น และต้องป้องกัน มีมาตรการในการป้องกันตัวและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ส่วนการลาดตระเวนครั้งต่อไป ฮ.จะต้องติดอาวุธหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับผบ.หน่วยปฏิบัติที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งขั้นตอนต่างๆเรายังมีช่องทางที่จะสามารถเจรจากันได้อยู่ ต้องดูผลการเจรจาเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่กัมพูชายิงเราเป็นความประมาทหรือจงใจนั้น ยังคาดการณ์ไม่ได้ ต้องรอผบ.กองกำลังในพื้นที่ ซึ่งเขาคุยกันอยู่ สำหรับทหารทั้งสองฝ่ายเราคุยกันปกติอยู่แล้ว ต้องขอดูรายละเอียดว่า เจตนาเป็นอย่างไร แล้วค่อยมาวิเคราะห์เจตนาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพื้นที่ที่เราบินลาดตระเวนนั้น เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ เป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายมีกำลังด้วยกันทั้งคู่ เราคงไม่บินเข้าไปในพื้นที่เขา ส่วนมาตรการปิดด่านนั้นเป็นมาตรการของผบ.ในพื้นที่ ซึ่งถ้าเขาพิจารณาว่า สถานการณ์ไม่ปลอดภัยก็จะพิจารณาปิดด่าน อย่างไรก็ตามขณะนี้เรายังไม่ได้เพิ่มเติมกำลังในพื้นที่ ส่วน ฮ.ที่ถูกยิงเสียหายเล็กน้อย เมื่อซ่อมแซมก็สามารถนำกลับมาใช้งานได้ ทั้งนี้คิดว่า เหตุการณ์นี้จะไม่กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว