ศูนย์ข่าวภูเก็ต-แพทย์เผยอาการ “ปลาวาฬ” ยังต้องอยู่ในไอซียู เฝ้าระวังเลือดคั่งในช่องท้องอย่างใกล้ชิด จากคมมีดแฉลบลำใส้ใหญ่รอดตายหวุดหวิด พ่อ-แม่บอกลูกอยู่ผิดที่ผิดเวลาไปอยู่ในที่อโคจร ขณะที่ปลาวาฬบอกพ่อ นึกไม่ถึงว่าจะถูกรุมทำร้ายด้วยอาวุธรุนแรงขนาดนี้
เมื่อเวล 16.00 น. วันนี้ (7 ม.ค. 55) ที่ห้องประชุมชั้น 3 โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต นายสงกรานต์ - นาง ศรีวรา อิสสระ บิดา-มารดา ของนายวรสิทธิ อิสสระ หรือปลาวาฬ นายแพทย์บดินทร์ ละเอียด รองผู้อำนวนการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และนายแพทย์พงษ์ศักดิ์ วิจิตรุจนพันธุ์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าวถึงอาการของนายวรวิทธิ ภายหลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตหลังได้รับบาดเจ็บถูกพนักงานเสิร์ฟและพนักงานรักษาความปลอดภัยของร้านรัชดาผับ ถนนตะกั่วป่า ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต รุมทำร้าย เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 4 มกราคม 2555
นายแพทย์บดินทร์ ละเอียด รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต กล่าวว่า โรงพยาบาลกรุงเทพฯภูเก็ตได้รับตัวผู้ได้รับบาดเจ็บจากการเหตุการณ์ถูกทำร้ายร่างกายเข้ารับการรักษาจำนวน 4 คน ในเวลา 04.55 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2555 โดยคนแรกมีบาดแผลที่ศีรษะ แพทย์ทำการรักษาและอนุญาตให้กลับบ้านได้ คนที่ 2 มีบาดแผลที่ศรีษะแตก 2 แผล แพทย์ทำการเย็บแผล ให้ยา และอนุญาตให้กลับบ้านได้ คนที่ 3 ฟันแตก 1 ซี่ หลุด 1 ซี่ ปากบวม มีแผลที่ปาก และที่ศรีษะ รักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 วัน โดยวันนี้แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
ส่วนคนสุดท้าย คือนายวรสิทธิ อิสสระ พบมีบาดแผลตามร่างกายหลายจุดจากที่ถูกของมีคม ประกอบด้วยที่บริเวณศีรษะ 5 แผล บาดแผลที่ไหล่ด้านขวา และไหล่ด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ กระดูกข้อไหล่ขาด เส้นเอ็นขาด และแผลที่หน้าท้องด้านซ้าย โดยแพทย์ได้ทำการรักษาผ่าตัด โดยใช้เวลา 12 ชั่วโมง โดยมีบาดแผลสำคัญที่อาจทำให้ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตได้ คือบาดแผลที่บริเวณหน้าท้องด้านซ้ายที่ถูกของมีคมแทงทะลุก้านลำใส้ใหญ่ และผิวลำไส้ใหญ่ แต่โชคดีที่ของมีคมไม่โดนอวัยวะสำคัญ
จากการเอกซเรย์พบมีเลือดคั่งที่ช่องท้อง และบาดแผลบริเวณหัวไหล่ด้านซ้ายซึ่งถูกฟันด้วยของมีคมเส้นเอ็นขาดและอยู่ห่างจากเส้นเลือดใหญ่ประมาณ 1 ซม.เท่านั้น แพทย์ได้ใส่เหล็กยึดไว้แล้ว รวมทั้งแผลที่ข้อเท้าด้านซ้ายถูกของมีคมฟันเส้นเอ็นขาด
สำหรับอาการล่าสุด นายวรสิทธิ ยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยอาการส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ต้องเฝ้าระวังแผลที่ลำไส้ใหญ่อย่างใกล้ชิด ว่ามีอาการแทรกซ้อนหรือไม่ และขณะนี้ยังมีสายเอาเลือดออกจากช่องท้องและข้อเท้าอยู่ แต่สายสวนปัสสวะเอาออกแล้ว และในเบื้องต้นแพทย์ขอดูอาการต่ออีก 7 วัน ก่อนจะพิจารณาว่าจะอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้หรือไม่
ด้านนายสงกรานต์ อิสสระ บิดานายวรสิทธิ กล่าวว่า ในความโชคร้าย ปลาวาฬยังมีความโชคดีอยู่ ที่ของมีคมไม่โดนอวัยวะสำคัญจนถึงทำให้เสียชีวิต ส่วนการรักษาหลังออกจากโรงพยาบาลก็จะต้องไปตรวจเช็กการต่อกระดูกที่หัวไหล่ที่กรุงเทพฯ อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนข้อถามที่ว่าเหตุการณ์การที่เกิดขึ้น นายวรสิทธิ เป็นคนเริ่มก่อนนั้น นายสงกรานต์ กล่าวว่า ไม่ใช่แน่นอน เป็นข้อกล่าวอ้างของอีกฝ่าย ปลาวาฬไม่ใช้คนก้าวร้าว โดยเฉพาะกับคนที่ให้บริการเขา เขาต้องดูแลเป็นอย่างดี ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเหตุจากแก้วแตกที่ทำเกินไป ในเวลานั้นปลาวาฬอยู่ผิดที่ผิดเวลา ไม่น่าไปอยู่ในที่อโคจร แม้จะเมาก็ไม่น่าจะไปผิดที่
เรื่องนี้ปลาวาฬเป็นเหยื่อของสังคมที่เสื่อมด้านจริยะธรรมและเศรษฐกิจ ให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับปลาวาฬเป็นอุทาหรณ์กับเด็กๆ ว่าอย่าคึกคะนอง ซึ่งปลาวาฬเองก็ได้พูดกับตนว่า “ไม่คิดว่าจะมีคนมารุมทำร้ายด้วยอาวุธหนักขนาดนี้”
นายสงกราณต์ กล่าวอีกว่า อยากจะอ้อนวอนฝ่ายที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้ให้สะอาดและโปร่งใส มีคนได้รับประโยชน์เพียงแค่ 1-2 คน แต่คนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขณะนี้ในส่วนของการดำเนินคดีตนพอใจ ให้เป็นไปตามขบวนการยุติธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตัวผู้ก่อเหตุและยึดอาวุธของกลางมาได้จำนวนมาก
ขณะที่นางศรีวรา อิสสระ มารดาของนายวรสิทธิ กล่าวว่า เรามั่นใจในพื้นฐานนิสัยของ ปลาวาฬ ว่าไม่ใช่คนที่หาเรื่องใครเด็ดขาด เขาเป็นคนน่ารักและมีน้ำใจกับคนอื่นตั้งแต่ระดับผู้ใหญ่จนถึงผู้น้อย และโดยเฉพาะชอบดูแลผู้น้อย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมการ์ดและเด็กเสิร์ฟจึงได้ทำร้ายปลาวาฬได้ขนาดนี้ แค่แก้วตกแตกและไม่ใช้แก้วของโต๊ะปลาวาฬด้วย ซึ่งทุกครั้งที่มีแก้วแตกปลาวาฬจะเข้าไปกันไม่ให้คนอื่นโดนแก้วบาด เมื่อเขาเห็นแก้วแตกเข้าไปกันแต่การ์ดเข้าไปล็อกและเอาไฟส่องหน้า ซึ่งถ้าหากเป็นตนก็ไม่ยอมเช่นกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประสบการณ์ที่จะทำให้เขารู้ว่าที่ไหนเป็นที่อโคจรไม่ควรไป ในช่วงที่เกิดเหตุการเขาอยู่ผิดที่ผิดเวลา แม้ลูกค้าจะอยากไปดูวิถีชีวิตท้องถิ่นก็ไม่น่าจะพาไปในที่แบบนั้น
“ตนไม่แปลกใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะในสถานที่แบบนั้น เวลาแบบนั้น และคนลักษณะนั้น ก็ย่อมที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้ ตอนที่เกิดเหตุตนอยู่ที่พม่า ได้รับการบอกจากพ่อของปลาวาฬว่า ปลาวาฬถูกแทงที่ท้อง แต่อาการปลอดภัย ซึ่งตนไม่อย่าเชื่อว่าคนที่ถูกแทงที่ท้องจะรอดมาได้ แต่ด้วยผลบุญกุศลที่ปลาวาฬและครอบครัวได้ทำมาโดยตลอด ทำให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง และรอดตายมาได้อย่างปฎิหาริย์ จึงอยากให้ทุกคนได้สังวรณ์ไว้ว่าสังคมเราเป็นอย่างไร” นางศรีวรา กล่าวและว่า
ปลาวาฬรักภูเก็ต อยากตั้งรกรากที่ภูเก็ต เมื่อมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ อยากจะวิงวอนเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีความเคียดแค้นส่วนตัวกัน