ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตร.โคราชรวบ “ไอ้ชั่ว” หนุ่มก่อสร้างชาวอุดรฯ เมากาว-ทินเนอร์หลอนโหด ไล่ทำร้ายชาวบ้าน ใช้ไม้ทุบหัว และคว้าไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มตา ป้าวัย 53 ปี ตาบอด บาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงทรัพย์หลบหนี ยังไม่พอค่ำวันเดียวกัน ก่อเหตุควงมีดอีโต้บุกเข้าบ้านเหยื่ออีกราย เพื่อชิงทรัพย์ แต่เจ้าของบ้านขัดขืนถูกฟันสาหัสอีก 2 คน เจ้าตัวสารภาพหมดสิ้นเป็นผู้ก่อเหตุอ้างเมาหลอน
วันนี้ (5 ม.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองอำนวยการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พ.ต.อ.องอาจ ผิวเรืองนนท์ รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และ พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลข่าวการจับกุม นายเรวัตร คลังเมือง อายุ 21 ปี อาชีพคนงานก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 4 ต.หนองสระปลา อ.หนองหาร จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย
พร้อมของกลางมีดอีโต้ 1 ด้าม, ไม้ 1 ท่อน, โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง,ไม้เสียบลูกชิ้น และ เงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง ได้รับแจ้งมีเหตุประชาชน ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกชิงทรัพย์ ที่บริเวณถนนในซอยหมู่บ้านเคียงเคหะ หมู่ 10 ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยผู้เสียหาย คือ นางศุภรา โพธิ์กลางดอน อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่บ้านเคียงเคหะหมู่ที่ 10 ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกทุบตีด้วยท่อนไม้ และคนร้ายใช้ไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มดวงตาด้านขวาไม้หักคาตา ทำให้ตาบอดทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกระจายกำลังออกค้นหาคนร้ายแต่ไม่พบ กระทั่งช่วงค่ำวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ที่หมู่บ้านเคียงเคหะ มีผู้บาดเจ็บ คือ นางยุพิน อู่เกียรติภากร อายุ 53 ปี และ นายสุนันท์ มีเงิน อายุ 55 ปี ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดอีโต้ฟันเข้าร่างกายหลายแห่งได้รับบาดเจ็บสาหัส
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังออกตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง พบผู้ต้องสงสัย คือ นายเรวัตร กำลังถืออาวุธมีดอีโต้เปื้อนเลือดอยู่ในมือ ซึ่ง นายเรวัตร ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้อาวุธมีดดังกล่าวฟันผู้เสียหายจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.โพธิ์กลาง
นายเรวัตร คลังเมือง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานก่อสร้างเป็นช่างปูน และ สูดดมกาว สาระเหย มาตั้งแต่อายุ 14 ปี แต่ช่วงหลังเกิดอาการประสาทหลอนบ่อย เกรงจะมีคนเข้ามาทำร้ายร่ายกาย และได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ นางศุภรา จริง ขณะที่ นางศุภรา กำลังปั่นจักรยานออกมาให้อาหารสุนัขจรจัด ตนกำลังนั่งดมกาวอยู่ จึงเกิดอาการประสาทหลอนเกรงว่า นางศุภรา จะไปแจ้งความตำรวจ จึงใช้ไม้ที่วางอยู่ข้างทางตีเข้าที่ศีรษะ จนรถจักรยานยนต์นายศุภราล้มลง
จากนั้นตนเข้าไปชิงทรัพย์ แต่ นางศุภรา เห็นใบหน้าตนและพยายามต่อสู้ ตนจึงคว้าไม้เสียบลูกชิ้นที่หล่นอยู่พื้นดินแทงเข้าไปที่ลูกตา จนไม้หักคาก่อนวิ่งหลบหนีไป
ต่อมาช่วงค่ำวันเดียวกัน ตนเดินออกมาจากไซต์คนงานก่อสร้าง และไปแอบดมทินเนอร์ก่อนเกิดอาการประสาทหลอนขึ้นอีก จึงเดินถือมีดอีโต้เข้าไปเคาะประตูบ้าน นางยุพิน และ นายสุนันท์ เพื่อเข้าไปชิงทรัพย์แต่ นางยุพิน ขัดขืนจึงใช้มีดฟันเข้าไปที่ร่างกายหลายแห่ง และ นายสุนันท์ พยายามเข้ามาช่วย ตนจึงใช้มีดด้ามเดียวกันฟันที่เข้ามือขวาเป็นแผลฉกรรจ์ก่อนวิ่งหลบหนีไป
นายเรวัตร ยังบอกอีกว่า ตนได้หนีราชการทหารก่อนครบกำหนด 1 ปี หลังจากเข้าเป็นทหารเกณฑ์ประจำอยู่ที่ จ.อุดรธานี เนื่องจากครอบครัว ภรรยา และลูกมีเงินไม่พอใช้จ่าย โดยได้ออกมาทำงานก่อสร้าง ได้ค่าจ้างวันละ 320 บาท
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ก่อเหตุชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และพยายามฆ่าผู้อื่น, บุกรุกในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธใช้กำลังประทุษร้าย และพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัว นายเรวัตร ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
