บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ คุมตัวหนุ่มร่วมกับเพื่อนที่ยังหลบหนี รุมทำร้ายทุบหัวฆ่าโหด หนุ่มใหญ่ปั่น “สามล้อ” รับจ้าง ทำแผนหลังหลบหนีไปกบดานบ้านเมียต่างจังหวัดนานกว่า 1 เดือน สารภาพเหตุขโมยกระป๋องกาวไปสูดดมถูกผู้ตายต่อว่า เกิดทะเลาะวิวาทชกต่อยก่อนใช้ท่อนไม้กระหน่ำตีศีรษะดับคาที่
วันนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.พ.ต.ท.จำลอง คำดีบุญ รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วยร้อยเวร และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัวนายองอาจ หรือ ต้น ตรุพิมาย อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 ถนนธานี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังจากที่ได้ร่วมกับ นายเติ้ล ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ภูมิลำเนาอยู่ จ.ชลบุรี เพื่อนที่ยังหลบหนีการจับกุม ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกายใช้ขวดเบียร์และท่อนไม้กระหน่ำทุบตีบริเวณลำคอ ศีรษะ นายสมศักดิ์ ชุนแก้วพะเนาว์ อายุ 40 ปี อาชีพปั่นสามล้อรับจ้าง เป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่ อยู่บริเวณสนามหญ้า ข้างวัดธรรมธีราราม ชุมชนหน้าสถานีรถไฟ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา
หลังจากก่อเหตุทั้ง 2 คน ได้พากันหลบหนี นานกว่า 1 เดือน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ หลังสืบทราบว่า นายองอาจ หลบหนีไปกบดานรับจ้างกรีดยาง อยู่ที่บ้านภรรยา ที่ อ.บ่อไร่ จ.ตราด
จากการสอบสวน นายองอาจ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกับ นายเติ้ล ได้พบผู้ตายที่บริเวณหน้าห้องน้ำ ในสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ซื้อเบียร์มาดื่มกัน พอเมาได้หยอกล้อกันธรรมดา แต่ผู้ตายได้ด่าทอพ่อของตน จนเกิดมีปากเสียง จึงบันดาลโทสะ ชกต่อยผู้ตาย ก่อนที่ผู้ตายจะวิ่งไปปั่นสามล้อหนีไปที่วัดธรรมธีราราม ตนกับนายเติ้ล จึงขี่รถจักรยานยนต์ตามไปที่วัด พร้อมกับถือขวดเบียร์ไปด้วย
พอไปถึงวัด ใกล้ศาลาพักศพ เห็นผู้ตายนอนเมาอยู่ข้างสามล้อใต้ต้นไม้ พร้อมกับกอดกระป๋องกาว จึงเข้าไปขโมยกระป๋องกาวของผู้ตาย เพื่อจะนำไปสูดดม และได้นำรถสามล้อของผู้ตายไปซ่อนในป่าข้างวัด พอผู้ตายตื่นมาเห็นจึงเกิดมีปากเสียงต่อว่ากันอย่างรุนแรงพร้อมกับวิ่งไล่ยื้อยุดฉุดกระชากกัน จะเอากระป๋องกาว และสามล้อคืน
นายองอาจ ให้การต่อว่า ในช่วงจังหวะนั้นเอง ผู้ตายได้ทุบตีมาที่ตนหลายครั้ง จนเกิดการรุมชกต่อยกันขึ้น ก่อนที่ นายเติ้ล จะส่งท่อนไม้ให้ตนกระหน่ำตีที่ท้ายทอย ลำคอ และศีรษะของผู้ตาย จนแน่นิ่ง จากนั้น ตนและนายเติ้ล ได้ขี่รถจักรยานยนยต์กลับไปบ้านที่ชุมชนประปาเก่า ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ก่อนจะขอเงินยาย จำนวน 1,000 บาทแล้วหลบหนีไปอยู่กับแฟน ทำงานรับจ้าง ที่ อ.บ่อไร่ จ.ตราด จนกระทั่งถูกจับได้ดังกล่าว
หลังจากทำแผนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายองอาจ ส่งให้พนักงานสอบสวน เพื่อควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” ส่วน นายเติ้ล ที่ยังหลังหลบหนีอยู่ ตำรวจจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป