ศูนย์ข่าวศรีราชา - สาวใหญ่ เจ้าของร้านอาหารย่าน WALKING STREET พัทยาใต้ พาเพื่อนหนุ่ม 4 คน เข้าผับสังสรรค์ ขากลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ อาวุธครบมือขับรถยนต์ปาดหน้าให้จอดเข้ามารุมกระทืบ ก่อนกระหน่ำตีรถคันหรูจนพังยับทั้งคัน ฝ่ายเพื่อนชายหนีกระเจิง ตำรวจพุ่งปมคู่อริตามล้างแค้น
เมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ ( 24 ธ.ค.) ร.ต.ท.สายใจ คำจุลลา พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกรุมทำร้ายร่างกาย บริเวณหน้าร้านอาหารเฒ่าทะเล ซอยสัตหีบสุขุมวิท 45 (ยางงาม) หมู่.3 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกับชุดสืบสวน
ในที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ กำลังให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นางสาวปริญญา ฮาร์สเนอร์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งย่าน WALKING STREET พัทยาใต้ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา สภาพใบหน้าปูดบวม มีบาดแผลและเลือดไหลเปรอะเปื้อนทั่วใบหน้า ตามร่างกายมีบาดแผลจากการถูกทำร้ายหลายแห่ง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ ได้นำตัวส่งรักษายังห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ใกล้กันพบรถยนต์เก๋ง BMW 730 i สีบอร์น ทะเบียน พศ - 730 กรุงเทพมหานคร ของผู้ได้รับบาดเจ็บสภาพกระจกทุกบานแตกละเอียด และเกือบทั่วทั้งคันได้รับความเสียหาย
จากการสอบปากคำนางสาวปริญญา ให้การว่า ได้เข้าไปนั่งดื่มสุรากับเพื่อนชายประมาณ 4 คน ในผับแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสัตหีบ ระหว่างเดินทางกลับได้มีรถยนต์เก๋งสีขาวไล่ติดตามคล้ายจะหาเรื่อง ก่อนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และเร่งเครื่องปาดหน้าให้จอด จากนั้นได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคน เข้ามารุมทำร้ายร่างกาย พร้อมชักปืนขู่ไม่ให้ต่อสู้ ก่อนจะหลบหนีไปจาก
ขณะที่นายวัชรพล ยี่รัญศิริ อายุ 16 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้เห็นรถยนต์เก๋งสีขาวคล้ายยี่ห้อ นิสัน เซฟิโร่ สภาพแต่งซิ่ง ไล่ติดตามรถยนต์เก๋ง BMW ของผู้เสียหาย ก่อนจะชักปืนยิงขึ้นฟ้าให้จอด แต่รถคู่กรณีพยายามหลบหนี จนเกิดเฉี่ยวชนกัน จากนั้นรถคันก่อเหตุได้เร่งเครื่องปาดหน้าให้จอด ก่อนจะมีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 3 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือลงจากรถปี่เข้ามารุมชกต่อย และกระทืบคนขับที่เป็นผู้หญิง และผู้ชายอีก 4 คน ที่นั่งมาด้วยจนฝ่ายชายพากันวิ่งหนีกระเจิง ทิ้งให้ผู้หญิงโดนรุมทำร้ายจนสะบักสะบอม
หลังจากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้กระโดดขึ้นบนฝากระโปงหน้ารถ และกระหน่ำตีจนแตกละเอียดทุกบาน ก่อนหลบหนีมุ่งหน้าไปทางซอยบ่อนไก่
ด้าน ร.ต.ท.สายใจ คำจุลลา เจ้าของคดี เผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด ถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุและสาเหตุของการเกิดเรื่อง ทั้งนี้ ต้องรอผู้เสียหายออกจากโรงพยาบาลและหายจากอาการเมาสุรา จึงจะเชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น จากการสันนิษฐานว่า กลุ่มชายที่มากับเจ้าทุกข์น่าจะเกี่ยวโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งอาจมีเรื่องกันมาจากภายในร้าน และมีการติดตามกันออกมาแก้แค้น
หรืออีกประเด็น ผู้เสียหายซึ่งอยู่ในอาการเมาสุราอาจขับรถไปเฉี่ยวชน หรือปาดหน้ารถกลุ่มผู้ก่อเหตุ จนเกิดการไม่พอใจจนติดตามมาทำร้าย เบื้องต้นต้องรอผลการสอบสวนผู้เสียหาย เพื่อคลี่คลายคดี ก่อนติดตามจับตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย
