ศูนย์ข่าวศรีราชา -ตำรวจอาสาพัทยายิ่งใหญ่คับเมือง! เจอหนุ่มเมืองมะขามเมายกพวกกว่า 10 รุมกระทืบอ่วมต่อหน้าตำรวจสายตรวจ
เมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (16 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเกิดเหตุรุมทำร้ายร่างกายบริเวณบนสะพานต่างระดับถนนสาย 7 ตอน 5 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังจากนั้น จึงรุดไปตรวจสอบเหตุ
ไปถึงพบ นายพิชาติ คงเจริญ อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่ในสภาพสะบักสะบอม โดยมีแฟนสาวคอยดูอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ข้อมูลว่า ได้ขับขี่รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์-ฟ้า ทะเบียน ถย 3632 กรุงเทพมหานคร เพื่อมาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาและมีการดื่มกินกัน โดยนายพิชาติ อยู่ในอาการเมาสุรา
เมื่อขับขี่รถผ่านมายังบริเวณดังกล่าว เจอกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คนขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ โดยไม่ทราบว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มตำรวจอาสาเมืองพัทยา ในขณะนั้น นายพิชาติ ที่อยู่ในอาการเมาสุราได้ขับรถส่ายไปมา กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจึงขี่รถจัรยานยนต์ไล่ติดตามมาก่อนเปิดประตูลากตัวนายพิชาติ ลงไปรุมซ้อมกันอย่างเมามัน โดยมีหนึ่งในกลุ่มตะโกนว่า “มึงขับรถประสาอะไร เกือบจะชนกู กูเรียกให้มึงจอดทำไมไม่จอดรถ” ก่อนที่ชายอีกคนในกลุ่มจะใช้รองเท้าตบเข้าที่บริเวณใบหน้านายพิชาติอย่างแรงอีกหลายครั้ง
ทั้งนี้ ช่วงเวลาเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่กลับปล่อยให้กลุ่มตำรวจอาสาผลัดกันทำร้ายร่างกายนายพิชาติตามอำเภอใจ โดยแฟนสาวของนายพิชาติ พยายามร้องขอชีวิต และยกมือไหว้ขอโทษ ซึ่งชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมาและพบเห็นเหตุการณ์ต่างก็แสดงความเห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นน่าจะมีความเป็นธรรม และน่าจะมีการห้ามปรามการกระทำของกลุ่มตำรวจอาสา เพราะพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนที่ไม่มีขื่อไม่มีแป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบควบคุมตัวนายพิชาติ ไปที่โรงพัก ก่อนจะดำเนินคดีในข้อหาเมาสุราในขณะขับรถ และขับรถประมาทหวาดเสียว ส่วนบรรดาตำรวจอาสาที่ลงมือทำร้ายร่างกาย นายพิชาติ จนได้รับบาดเจ็บนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับปล่อยตัวไป โดยไม่มีการดำเนินคดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (16 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเกิดเหตุรุมทำร้ายร่างกายบริเวณบนสะพานต่างระดับถนนสาย 7 ตอน 5 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังจากนั้น จึงรุดไปตรวจสอบเหตุ
ไปถึงพบ นายพิชาติ คงเจริญ อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่ในสภาพสะบักสะบอม โดยมีแฟนสาวคอยดูอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ข้อมูลว่า ได้ขับขี่รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์-ฟ้า ทะเบียน ถย 3632 กรุงเทพมหานคร เพื่อมาท่องเที่ยวในเมืองพัทยาและมีการดื่มกินกัน โดยนายพิชาติ อยู่ในอาการเมาสุรา
เมื่อขับขี่รถผ่านมายังบริเวณดังกล่าว เจอกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คนขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่ โดยไม่ทราบว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มตำรวจอาสาเมืองพัทยา ในขณะนั้น นายพิชาติ ที่อยู่ในอาการเมาสุราได้ขับรถส่ายไปมา กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจึงขี่รถจัรยานยนต์ไล่ติดตามมาก่อนเปิดประตูลากตัวนายพิชาติ ลงไปรุมซ้อมกันอย่างเมามัน โดยมีหนึ่งในกลุ่มตะโกนว่า “มึงขับรถประสาอะไร เกือบจะชนกู กูเรียกให้มึงจอดทำไมไม่จอดรถ” ก่อนที่ชายอีกคนในกลุ่มจะใช้รองเท้าตบเข้าที่บริเวณใบหน้านายพิชาติอย่างแรงอีกหลายครั้ง
ทั้งนี้ ช่วงเวลาเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่กลับปล่อยให้กลุ่มตำรวจอาสาผลัดกันทำร้ายร่างกายนายพิชาติตามอำเภอใจ โดยแฟนสาวของนายพิชาติ พยายามร้องขอชีวิต และยกมือไหว้ขอโทษ ซึ่งชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมาและพบเห็นเหตุการณ์ต่างก็แสดงความเห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นน่าจะมีความเป็นธรรม และน่าจะมีการห้ามปรามการกระทำของกลุ่มตำรวจอาสา เพราะพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนที่ไม่มีขื่อไม่มีแป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบควบคุมตัวนายพิชาติ ไปที่โรงพัก ก่อนจะดำเนินคดีในข้อหาเมาสุราในขณะขับรถ และขับรถประมาทหวาดเสียว ส่วนบรรดาตำรวจอาสาที่ลงมือทำร้ายร่างกาย นายพิชาติ จนได้รับบาดเจ็บนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับปล่อยตัวไป โดยไม่มีการดำเนินคดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น