ปัตตานี - ถนนหลวงสาย 418 เจอสภาพฝนตกหนักและน้ำกัดเซาะเสียหายเป็นช่วงๆ 2 ช่องจราจร ระยะทางยาวกว่า 100 เมตร ล่าสุดการทางฯ นำกรวยปิดกั้นให้รถวิ่งได้เพียงไหล่ทาง
ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงเกือบเดือนที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบให้ถนนหลวงสายหลักสายใหม่ สาย 418 ช่วงเขตรอยต่อระหว่าง ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา - ต. อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เกิดการชุ่มน้ำ บวกกับฝนกัดเซาะและต้องรับน้ำหนักจากรถที่สัญจรไปมาในแต่ละวันนับหมื่นคัน ทำให้ถนนมีการยุบตัวและแตกพังเป็นก้อนขนาดใหญ่ขึ้นมากองอยู่ตามพื้นผิวถนนเป็นช่วงๆ ระยะทางรวมกว่า 100 เมตร
โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่การทางฯ เพียงนำกรวยยางมาปิดกันไม่ให้รถวิ่งผ่านและให้เบี่ยงไปใช้ไหลทางแทน ทั้งนี้ ยังไม่มีการนำไฟช่วยส่องทางพอเป็นสัญลักษณ์ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในช่วงค่ำคืนได้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าถนนยังคงมีแนวโน้มพังเสียหายขยายเป็นทางยาวต่อเนื่องจากสภาพถนนที่ชุ่มน้ำฝน นอกจากนี้ บริเวณคอสะพานตลอดจนสภาพพื้นผิวถนนทางหลวงหมายเลข 418 ช่วง จ.ปัตตานี - จ.ยะลา ทั้ง 4 ช่องจราจร ระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร เริ่มเป็นคลื่นระนาดอีกด้วย
สำหรับถนนทางหลวงหมายเลข 418 ระยะทาง 29.44 กม. จาก บ.คลองขุด อ.หนองจิก จ.ปัตตานี - บ.ท่าสาป ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการเดินทางและเป็นถนนสายมาตรฐานเพียงสายเดียวที่ใช้ในการขนส่งสินค้าของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ผ่านมาการก่อสร้างทำได้ท่ามกลางความยากลำบากและเสี่ยงจากสถานการณ์ความไม่สงบ
จนทำให้การก่อสร้างดำเนินไปอย่างล่าช้า โดยผู้รับเหมาเข้าดำเนินการตั้งแต่ปี 45 กำหนดสิ้นสุดสัญญาปี 48 ใช้งบประมาณ 703.5 ล้านบาท แต่แล้วก็ต้องบอกเลิกสัญญาและทิ้งงานไปตั้งแต่ปี 47 ทั้งๆ ที่ก่อสร้างไปได้แค่ 25 % ต่อมาคณะรัฐมนตรีจึงมีมติวันที่ 27 พ.ย.49 ให้กรมการทหารช่างก่อสร้างส่วนที่เหลือในวงเงิน 1,040.8 ล้านบาท เพื่อสานต่อโครงการจึงแล้วเสร็จ
