xs
xsm
sm
md
lg

ยะลาสังเวยน้ำท่วมแล้ว 1 ศพ - กอ.รมน.เตรียมพร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยะลา - ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ในพื้นที่ จ.ยะลา ทำให้น้ำเข้าท่วมหมู่บ้าน และ ถนนทางเข้าหมู่บ้านที่เป็นที่ลุ่ม หลายตำบลของ จ.ยะลา โดยมีผู้เสียชีวิตจากการถูกกระแสน้ำพัดแล้ว 1 ศพ ขณะเดียวกัน รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยทหาร จำนวน 21 ศูนย์ เตรียมความพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศแจ้งเตือนว่า ระหว่างวันที่ 22-26 พฤศจิกายน 2554 นี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ มีกำลังแรง ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงมาไปจนถึง จ.นราธิวาส มีฝนตกชุกหนาแน่น มีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่งจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว

บรรยากาศในพื้นที่ จ.ยะลา ในวันนี้ (23 พ.ย.) พบว่า ตลอดทั้งวันมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ท้องฟ้ามืดคลุมและมีลมแรง ทำให้ปริมาณน้ำฝนจำนวนมาก โดยฝนได้เริ่มตกหนัก ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 ที่ผ่านมา และได้เพิ่มขึ้นมาก ทำให้น้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งวันทั้งคืนไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำได้ทัน เป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านและ พื้นที่ทางการเกษตร ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา ในพื้นที่ หมู่ที่ 1, 2, 3, 4, 5 ของ ต.ลำใหม่ ในพื้นที่ หมู่ที่ 7 ต.ลำพะยา ในพื้นที่ หมู่ที่ 3,4 ต.พร่อน ในพื้นที่ หมู่ที่ 2, 3, 4, 5, 6 ของ ต.บันนังสาเร็ง ในพื้นที่ 3, 4, 13 ของ ต.สะเตงนอก มีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 416 คนจำนวน 137 ครัวเรือน มีชาวบ้านอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย จำนวน 63 คน จำนวน 16 ครัวเรือน บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 1 หลัง และโรงเรียนบ้านธารน้ำผึ้ง หมู่ที่ 13 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา เสียหายบางส่วน และ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 คน ทราบชื่อ นายมะยีดิง สาและมิง อายุประมาณ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126/1 หมู่ที่ 7 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งถูกกระแสน้ำพัดจมเสียชีวิต

สำหรับในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา น้ำได้เริ่มเข้าท่วมถนนทางเข้าบ้านกำปงบาโงย (บ้านย่อยบ้านสะโต) ซึ่งขณะนี้ทาง จ.ยะลา ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำสายบุรี คือ ต.บาลอ ต.กายูบอเกาะ ต.อาซ่อง ต.เกะรอ และ ต.ท่าธง ของ อ.รามัน ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหล หลาก ส่วนในพื้นที่ อ.กรงปินัง อ.บันนังสตา อ.ธารโต อ.เบตง อ.ยะหา และ อ.กาบัง เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และ ดินโคลนถล่ม

ด้านทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยทหาร จำนวน 21 ศูนย์ เตรียมความพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หลังเกิดภาวะฝนตกหนักและมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ จึงได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์แต่เนิ่น โดยการตรวจความพร้อมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยทหาร จำนวน 21 ศูนย์ รับผิดชอบครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ซึ่ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ “การป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแทรกซ้อน” และยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

โดยได้สั่งการให้กองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส และ สงขลา เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักต่อการป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบตามกรอบภารกิจของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยการบูรณาการศักยภาพของหน่วยงาน,องค์กร และ เครือข่ายภาคประชาชนทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมพร้อมทั้งได้จัดให้มีการซักซ้อมความพร้อมในการปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มของจังหวัด ตามความเหมาะสม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับหน่วยงาน, บุคลากร, เครื่องมือยุทโธปกรณ์ที่จัดเตรียมไว้ และประชาชนในพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม วาตภัย หรือ ดินถล่ม

รวมทั้งจะได้พิจารณาแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้การเตรียมความพร้อมในการป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังได้จัดเตรียมถุงยังชีพ จำนวน 10,000 ถุง เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กรณีเร่งด่วน โดยได้ทำการแจกจ่ายให้หน่วยต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยในขั้นต้นได้อย่างทันท่วงทีเรียบร้อยแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น