ยะลา - หลายพื้นที่ในยะลาเริ่มประสบปัญหามีน้ำท่วมแล้ว ขณะที่ถนนสาย 418 ยะลา-ปัตตานี มีน้ำท่วมสูงและชำรุดประมาณ 300 เมตร ขณะที่ทางจังหวัดเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงระมัดระวัง
จากการที่ได้มีฝนตกหนักติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 จนถึงขณะนี้ ทำให้บางพื้นที่ของ อ.เมืองยะลา และ อ.รามัน เริ่มมีน้ำเข้าท่วมขังในหมู่บ้าน สวนผลไม้ สวนยางพารา โดยในช่วงเช้าวันนี้ (23 พ.ย.) ในพื้นที่บ้านทุ่งยามู หมู่ที่ 4 และบ้านบ่อเจ็ดลูก หมู่ที่ 6 ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา ได้มีน้ำเข้าท่วมเส้นทางเข้าหมู่บ้าน และภายในหมู่บ้านมีระดับน้ำประมาณ 20 เซนติเมตร ชาวบ้านช่วยกันขนย้ายสิ่งของอยู่ในที่สูงแล้ว
ทั้งนี้ น้ำท่วมได้ถนนสาย 418 ท่าสาป-คลองขุด บริเวณกิโลเมตร ที่ 34-35 ระยะทางยาวประมาณ 300 เมตร 1 ช่องจราจร และอีก 1 ช่องจราจร ถนนชำรุดเสียหายประมาณ 100 เมตร ซึ่งส่งผลทำให้รถยนต์กระบะของชาวบ้านที่วิ่งมาประสบอุบัติเหตุได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ส่วนในเขตเทศบาลนครยะลา บริเวณด้านหลังถนนสิโรรส ซอย 12 ย่านชุมชนตลาดเก่า บ้านนิบงบารู หมู่ที่ 4 ต.สะเตงนอก เริ่มมีน้ำท่วมขัง และ ต.บันนังสาเร็ง เริ่มมีน้ำเข้าท่วมขังแล้ว ส่วน ต.บุดี ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำท่วมเส้นทางสายยะลา-รามัน บริเวณบ้านบือแน หมู่ที่ 4 ต.บุดี อ.เมืองยะลา น้ำท่วมถนนบริเวณหน้าโรงเรียนพงจือนือแร หมู่ที่ 6 ต.บุดี ทำให้เด็กนักเรียนไม่ไปโรงเรียน โรงเรียนปิด 1 วัน
สำหรับในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง อ.รามัน น้ำได้เริ่มเข้าท่วมถนนทางเข้าบ้านกำปงบาโงย (บ้านย่อยบ้านสะโต) แล้ว ซึ่งหลังจากมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายเสรี พานิชกุล นายอำเภอเมืองยะลา และนายเวโรจน์ สายทองแท้ หัวหน้า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ยะลา เจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวง เข้าไปตรวจสอบความเสียหาย และจะเร่งนำเครื่องจักรกลเข้าซ่อมแซมพื้นผิวถนนที่ได้รับเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ในพื้นที่ของ จ.ยะลา ทำให้ในบางพื้นที่เริ่มมีน้ำท่วมขัง แต่ยังไม่วิกฤต และน้ำป่าได้ไหลลงมาจากเทือกเขาในพื้นที่ ต.ยุโป เข้าท่วมถนนสาย 418 ยะลา-ปัตตานี บริเวณกิโลเมตรที่ 34-35 ระยะทางยาวประมาณ 300 เมตร 1 ช่องจราจร และอีก 1 ช่องจราจร ถนนชำรุดเสียหายประมาณ 100 เมตร
“ผมเองได้ประสานไปยังกรมทางหลวง และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าแก้ไขปัญหาแล้ว คาดว่าจะสามารถใช้ถนนได้ตามปกติ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง” ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลากล่าว และว่า
แต่อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดยะลา ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่ริมแม่น้ำสายบุรี ของพื้นที่ อ.รามัน ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหล หลาก ส่วนในพื้นที่ อ.กรงปินัง อ.บันนังสตา อ.ธารโต อ.เบตง อ.ยะหา และ อ.กาบัง เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม
