สุราษฎร์ธานี-ตำรวจภาคสืบสวนภาค 8 รวบเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้ผู้ต้องหารวม 11 คน พร้อมของกลางยาเสพติด อาวุธปืนสงคราม ระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เชื้อปะทุ ไดนาไมท์เจ้าหน้าที่สงสัยอาจพัวผันกับเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ ( 18 พ.ย. 54) ที่ห้องประชุมศูนย์สืบสวนสอบสวนภูธรภาค 8 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.วีระศักดดิ์ มีนะวาณิชย์ ผบก.สส. ภาค 8 พ.ต.อ.สมยส แก้วบังเกิด ผกก.สส.1 กองบังคับการสืบสวนภาค 8 ร่วมกันแถลงข่าวผลงาน การกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนภาค 8 หลังจากบุกเข้าทำการตรวจค้นอยู่บ้านเลขที่ 63/ 2 หมู่ที่ 6 ต.บ้านส้องอ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี พบอาวุธสงครามปืนเอ็ม 16 พร้อมเครื่องกระสุนปืน ระเบิดแสวงเครื่อง เชื้อปะทุ ไดนาไมท์ ยาเสพติด
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายเดชา ศรพิชัย อายุ 32 ปี มาทำการสอบสวนขยายผลจับกุมตัวลูกน้องของนายเดชาเพิ่มอีก 10 คน ประกอบด้วย นายบุญพยา ปรีชาอายุ 32 ปี , ,นายศุภชัย โสตทิพย์ อายุ 29 ปี ,นายสุรศักดิ์ ละหารเพชร อายุ 27 ปี ,นายสุรวุฒิ ใจห้าว อายุ 23 ปี ,นางกาญจนา เพชระ อายุ 36 ปี ,นางชมนิภา ไชยฤกษ์ อายุ 23 ปี ,นางภัชรา สุวรรณ อายุ 36 ปี ,น.ส.จิรประภา ทองอินทร์ อายุ 20 ปี ,น.ส.วัลภา อินทร์เพชร์ อายุ 27 ปี และนายวิทยา หนูหีด อายุ 30 ปี
พร้อมด้วยของกลางเป็นยาไอซ์ 35.2 กรัม,ยาบ้า 74 เม็ด, พร้อมอุปกรณ์การเสพยา รวมถึงอาวุธปืนทั้งสิ้นและยาวรวม 9กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนกว่า 100 นัด ,นอกจากนี้ยังพบระเบิดไดนาไมท์ 1 ลูก และดินระเบิด Emulex 204 แท่ง
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า นางบุญพยา ปรีชา ลักลอบขายยาไอซ์ ในพื้นที่เวียงสระ จึงได้ติดตามอย่างต่อเนื่องจนสามารถจับกุมตัวได้ ที่บริเวณสวนยางพาราหลังโรงเรียนไสยง ต.คลองฉนวน อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ฯ ก่อนนำขยายผลติดตามจับกุมได้ยกแก๊ง
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การสารภาพว่าเป็นเครือข่าย ที่ลักลอบขายยาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่น ในพื้นที่ อ.เวียงสระและใกล้เคียง โดยมี นายเดชา ศรพิชัยเป็นหัวหน้าแก็งและเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ รับของจากกรุงเทพฯ ส่วนอาวุธปืน มีไว้ป้องกันตัว
สำหรับระเบิดผู้ต้องหาอ้างว่าเจอมาจากกองขยะและเตรียมนำไประเบิดปลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ต้องหาอาจมีส่วนพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดและความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลสืบหาข้อเท็จจริงดำเนินการต่อไป