เร่งเจรจามาเลย์-อินโดฯ แก้ยางราคาตกต่ำ

ตรัง - ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เผยไทยกำลังเร่งเจรจากับประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย 2 ประเทศผู้ค้ายางรายใหญ่เพื่อผลักดันราคาให้กลับมาสูงกว่ากิโลกรัมละ 100 บาท คาดปีใหม่สถานการณ์น่าจะกลับมาปกติ

วันนี้ (17 พ.ย.) นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง และประธานกรรมการ บริษัท ตรังลาเท็กซ์ จำกัด ในฐานะผู้ผลิตและส่งออกยางพารารายใหญ่ของจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเร่งหารือกับ 2 ประเทศผู้ค้ายางพารารายใหญ่ของโลก คือ ประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย เพื่อช่วยกันผลักดันราคายางพาราที่กำลังตกต่ำอย่างหนักให้ขยับตัวสูงขึ้น จากขณะนี้ซึ่งอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 3 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 80-90 บาท ให้ขึ้นไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 3.5 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 100 บาทเศษ เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางพาราสามารถอยู่ได้ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน แต่ในส่วนของผู้ประกอบการนั้นยังคงเป็นปกติ โดยยังคงรับซื้อยางพาราจากเกษตรกร และยังส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าตามปกติ

อย่างไรก็ตาม ผลพวงจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย โดยเฉพาะในประเทศจีน และกลุ่มประเทศยุโรป ประกอบกับการที่มียางคงคลังในประเทศจีนเหลืออีกเยอะ จึงเป็นช่องทางให้ผู้ซื้อพยายามกดราคาให้ต่ำลงมา แม้ผู้ค้าจะพยายามหาทางขอปรับราคาให้สูงขึ้นแล้วก็ตาม

นอกจากนี้ นายวิถียังมีความกังวลว่าหลังจากนี้เมื่อฝนเริ่มหยุดตก เกษตรกรก็จะกรีดยางพาราจนมีผลผลิตออกมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจไปกระทบต่อกลไกด้านการตลาดหรือราคาได้ในขณะเดียวกันผลพวงจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง ก็อาจทำให้รัฐบาลไม่มีเวลามาดูแลปัญหาเรื่องยางพารามากนัก

โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณเข้ามาแก้ไขราคาตกต่ำ แต่ก็ยังเชื่อว่าเมื่อถึงเดือนมกราคมหรือเลยช่วงปีใหม่ ซึ่งเข้าสู่หน้าแล้งไปแล้วปริมาณของยางพาราก็จะลดลง และราคาคงกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง