ศูนย์ข่าวหาดใหย่ - ราคายางพารา เดี้ยงหนัก หลังราคาตกต่ำกว่าต้นทุนการผลิตเกือบ 20 บาท จากราคาต้นทุนอยู่ 77.50 บาท/กก.แต่ราคายางตกลงมาอยู่ที่ 59 บาท เนื่องจากภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา และยางจีนล้นสต๊อก
วันนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ นายวิทย์ ประทักษ์ใจ ผอ.สกย.นายธานินทร์ ใจสมุทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล พรรคชาติไทยพัฒนา และคณะได้ทำการประชุมร่วมกับ ผอ.สกย. ทั่ว 14 จังหวัดภาคใต้ พร้อมกับตัวแทนแกนนำชาวสวนยางทั่วภาคใต้ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขสถานการณ์ยาง ที่กำลังประสบปัญหา เนื่องมาจากราคาตกลงมาอย่างมาก โดยตกลงมาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ในขณะที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 77.50 บาท/กิโลกรัม(กก.) ในขณะที่ยางตกลงมาอยู่ที่ 59 บาท/กก.จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวม
ปัจจัยสำคัญเนื่องมาจากสาเหตุเกิดภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศยุโรป ประกอบกับประเทศไทยประสบกับภาวะวิกฤตน้ำท่วมอย่างหนัก จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ ล้อรถ และคอมพิวเตอร์ ในขณะเดียวกัน ประเทศจีนผู้รับซื้อยางจากประเทศไทยรายใหญ่ ก็มียางล้นสต๊อกอยู่ประมาณกว่า 2,000 ตัน โดยมีอยู่ในสต๊อกถึง 27,000 ตัน ซึ่งไม่สามารถแปรรูปส่งออกได้ จนมีผลต่อผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาง และชาวสวนยางในที่สุด
“ปัจจุบันไทย เป็นประเทศผู้ส่งออกยางรายใหญ่สุดของโลก ประมาณ 2.8 ตัน มูลค่ากว่า 400,000 ล้านบาท ในการประชุมร่วมครั้งนี้ เพื่อวางนโยบายและแก้ไขปัญหายาง ทั้งระยะสั่น ระยะกลาง และระยะยาว ที่ห้องประชุมสำนักงาน สกย.เขต 1 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 14 พ.ย.นี้”
นายสุนันท์ นวลพรมสกุล หน.สกย.อ.สะเดา สนง.สกย.เขต จ.สงขลา เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ยาง ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ราคาตลาดกลางอยู่ที่ 66 บาท/กก.แต่มาในวันที่ 13 พ.ย.ราคาเปิดที่ตลาด 59 บาท แต่ได้มีการต่อรอง สกย. จนมีการเปิดตลาดมาอยู่ที่ 72 บาท/กก.
จากการสำรวจของผู้สื่อข่าว ปรากฏว่า ตลาดสินค้าต่างๆ ทั้งตลาดสด เกิดสภาพซบเซาเป็นอย่างมาก ตลอดจนประชาชนต่างบ่นกันว่า นอกจากราคายางจะตกต่ำสุดแล้ว แต่สินค้าทุกตัวราคายังสูงและทำการปรับราคาขึ้นตามลำดับ ทั้งอุปโภค บริโภค
วันนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ นายวิทย์ ประทักษ์ใจ ผอ.สกย.นายธานินทร์ ใจสมุทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล พรรคชาติไทยพัฒนา และคณะได้ทำการประชุมร่วมกับ ผอ.สกย. ทั่ว 14 จังหวัดภาคใต้ พร้อมกับตัวแทนแกนนำชาวสวนยางทั่วภาคใต้ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขสถานการณ์ยาง ที่กำลังประสบปัญหา เนื่องมาจากราคาตกลงมาอย่างมาก โดยตกลงมาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ในขณะที่ต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 77.50 บาท/กิโลกรัม(กก.) ในขณะที่ยางตกลงมาอยู่ที่ 59 บาท/กก.จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวม
ปัจจัยสำคัญเนื่องมาจากสาเหตุเกิดภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศยุโรป ประกอบกับประเทศไทยประสบกับภาวะวิกฤตน้ำท่วมอย่างหนัก จนส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ ล้อรถ และคอมพิวเตอร์ ในขณะเดียวกัน ประเทศจีนผู้รับซื้อยางจากประเทศไทยรายใหญ่ ก็มียางล้นสต๊อกอยู่ประมาณกว่า 2,000 ตัน โดยมีอยู่ในสต๊อกถึง 27,000 ตัน ซึ่งไม่สามารถแปรรูปส่งออกได้ จนมีผลต่อผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาง และชาวสวนยางในที่สุด
“ปัจจุบันไทย เป็นประเทศผู้ส่งออกยางรายใหญ่สุดของโลก ประมาณ 2.8 ตัน มูลค่ากว่า 400,000 ล้านบาท ในการประชุมร่วมครั้งนี้ เพื่อวางนโยบายและแก้ไขปัญหายาง ทั้งระยะสั่น ระยะกลาง และระยะยาว ที่ห้องประชุมสำนักงาน สกย.เขต 1 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 14 พ.ย.นี้”
นายสุนันท์ นวลพรมสกุล หน.สกย.อ.สะเดา สนง.สกย.เขต จ.สงขลา เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ยาง ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ราคาตลาดกลางอยู่ที่ 66 บาท/กก.แต่มาในวันที่ 13 พ.ย.ราคาเปิดที่ตลาด 59 บาท แต่ได้มีการต่อรอง สกย. จนมีการเปิดตลาดมาอยู่ที่ 72 บาท/กก.
จากการสำรวจของผู้สื่อข่าว ปรากฏว่า ตลาดสินค้าต่างๆ ทั้งตลาดสด เกิดสภาพซบเซาเป็นอย่างมาก ตลอดจนประชาชนต่างบ่นกันว่า นอกจากราคายางจะตกต่ำสุดแล้ว แต่สินค้าทุกตัวราคายังสูงและทำการปรับราคาขึ้นตามลำดับ ทั้งอุปโภค บริโภค