ยะลา - รองนายกเทศมนตรี นครยะลา ลงพื้นที่ตรวจสอบสันเขื่อนกั้นน้ำแม่น้ำปัตตานี พร้อมทั้งตรวจสอบการขุดดินโคลนในแหล่งน้ำ ที่มีความตื้นเขิน เพื่อรองรับน้ำในช่วงหน้าฝน มั่นใจพร้อมรับฤดูฝนปลายปีนี้แล้ว
วันนี้ (4 พ.ย.) ที่บริเวณแนวสันเขื่อนกั้นน้ำ สวนศรีเมือง ริมแม่น้ำปัตตานี ในเขตเทศบาลนครยะลา นายยู่สิน จินตภากร รองนายกเทศมนตรีนครยะลา ได้นำสื่อมวลชน ตรวจสอบแนวสันเขื่อนริมแม่น้ำปัตตานี เพื่อตรวจสอบแนวสันเขื่อนกั้นน้ำ ซึ่งเป็นจุดหลักที่จะป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมภายในเขตเทศบาลนครยะลา หากเกิดภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันหลายวัน และตรวจสอบประตูระบายน้ำ ตลอดแนวสันเขื่อนที่มีระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตร
จากนั้น ได้เดินทางไปตรวจสอบการขุดลอกดินโคลน ในแหล่งน้ำต่างๆ ที่จะเป็นเส้นทางไหลของน้ำ ซึ่งการตรวจสอบดังกล่าว ตามแผนการป้องกันอุทกภัยของเทศบาลนครยะลา เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงในปลายปีนี้ สำหรับในพื้นที่ จ.ยะลา และพื้นที่ใกล้เคียงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงปลายเดือนธันวาคม ของทุกปี จะมีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
นายยู่สิน จินตภากร รองนายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดเผยว่า สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม เทศบาลนครยะลามีการเตรียมความพร้อมมาแล้ว 4-5 เดือน เช่น มีการตรวจสภาพของประตูระบายน้ำต่างๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ต้องรีบดำเนินการเร่งด่วน สำนักงานโครงการชลประทานยะลา (สำนักชลประทานที่ 17) ได้ร่วมกับ เทศบาลนครยะลา มีการพร่องน้ำ หากพบว่าประตูระบายน้ำมีการชำรุด ต้องรีบเข้าไปซ่อมแซม
ในส่วนของทางน้ำ เทศบาลนครยะลามีการขุดลอกดินโคลน เพื่อให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำได้เร็วขึ้น มีการขุดในหลายๆ จุดที่มีความเสี่ยง เช่น สวนศรีเมือง, บริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย, สวนขวัญเมือง ตลอดจนบึงแบเมาะ (หลังชุมชนตลาดเก่า) โดยร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดยะลา (อบจ.ยะลา) ที่สนับสนุนเครื่องจักกรกลขนาดใหญ่ และเครื่องมือต่างๆ รวมทั้ง อบจ.ยะลา ก็มีการออกไปขุดลอกดินโคลนในแหล่งน้ำนอกเขตเทศบาล เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้ามาในเขตเทศบาลนครยะลาอีกด้วย
เมื่อปีที่แล้ว ทางเทศบาลนครยะลา ได้รับงบประมาณในการทำประตูระบายน้ำเพิ่มอีก 2 บาน ที่บริเวณปั้มน้ำมันบ้านจารู ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต่ำที่สุดในเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อให้เกิดการระบายน้ำได้เร็วขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนมเจริญ ได้มีการเตรียมการมาแล้ว 4-5 เดือน ซึ่งท่านก็มีความเป็นห่วงมากในสภาวการณ์อย่างนี้ ส่วนที่จะรับมือกับน้ำได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของน้ำฝน ซึ่งในปีนี้ทางเทศบาลนครยะลา มีการเตรียมความพร้อมมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา
สำหรับเครื่องสูบน้ำ เทศบาลนครยะลาได้ซื้อเพิ่มมาอีก จำนวน 2 เครื่อง จากเดิมมีอยู่ 12 เครื่อง ตอนนี้มีทั้งหมด 14 เครื่อง มีการซื้อเรือขนาดใหญ่เพิ่มอีก 2 ลำ ขณะนี้มีการทดสอบอยู่ในแม่น้ำปัตตานี กระสอบทรายก็มีการเตรียมพร้อมแล้วเหมือนกัน มีการเก็บเอาไว้ประมาณ 15,000 กระสอบ
ที่ผ่านมา มีการสั่งกระสอบทรายจำนวน 50,000 กระสอบ แต่กรุงเทพฯน้ำท่วมก่อน จึงส่งให้ทางกรุงเทพฯก่อน แล้วค่อยๆ ทยอยส่งลงมา หากเกิดน้ำท่วมในพื้นที่สถานที่เตรียมอพยพชาวบ้าน ก็เป็นที่โรงเรียนในเขตเทศบาล หากน้ำมีความรุนแรงสามารถอพยพชาวบ้านได้ทันที
ในส่วนการแจ้งเตือนหากเกิดฝนตกหนัก เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม ให้มีการรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางเทศบาลนครยะลา เป็นระยะๆ โดยเฉพาะระยะที่มีฝนตกหนัก ถึงหนักมาก จะมีการแจ้งเตือนตลอดเวลา ในภาวะที่วิกฤต พร้อมทั้งจะมีการบอกปริมาณน้ำฝนให้ทราบอย่างละเอียด ซึ่งก็มีการทำอย่างนี้ในทุกๆ ปีเช่นกัน