ยะลา - ผู้นำศาสนาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง แนะรัฐชี้แจงประชาชนแก้ปมที่ทำให้ฝังใจ เชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีส่วนมาจากการสับเปลี่ยนเลขาธิการ ศอ.บต.
วันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลาว่า นายนิมุ มะกาเจ อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา และผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา กล่าวถึงเหตุการณ์การลอบวางระเบิดป่วนยะลากว่า 20 จุด ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากว่า หลังเกิดเหตุหน่วยงานราชการต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบในกรณีที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีเสียงตามสายของ ศอ.บต.ชี้แจงไปแล้วก็ตาม การการก่อเหตุในครั้งนี้จากที่ได้พบเห็นใบปลิวของผู้ไม่หวังดีโปรยทิ้งในหลายจุดนั้น เชื่อว่ายังมีคนบางคนติดใจในเรื่องของเหตุการณ์ในอดีต ทั้งที่ มัสยิดกรือเซะ ตากใบ การทรมานอีหม่ามยะผาจนเสียชีวิต กรณีลอบวางระเบิดกุโบร์โต๊ะอาเยาะ จ.ปัตตานี
โดยจะต้องแก้ไขต้นเหตุที่เขาฝังใจ ในขณะเดียวกัน การปราบปรามต้องไม่ใช้ความรุนแรง จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ทั้งประชาชนในพื้นที่ กลุ่มบุคคลที่ต่อต้านหรือสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ใช้เหตุผลในการบริหารจัดการ สร้างความเข้าใจ ใช้กระบวนการเข้าถึงให้มากกว่าที่เป็นอยู่ โปรดช่วยกันคิด โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าทำอย่างไรให้ความฝังใจเรื่องดังกล่าวเบาบางลงให้มากที่สุดหรือให้หมดไป
“ถ้ายังมีเหตุการณ์เช่นนี้ การต่อรองทุกด้านจะยุ่งยากมากยิ่งขึ้น ทั้งการต่อรองการชดใช้ต่อชีวิต ทรัพย์สิน ต่อรองการลงโทษผู้กระทำความผิด ต่อรองการใช้กฎหมายในพื้นที่ นอกจากผู้บาดเจ็บล้มตายแล้ว ยังมีครอบครัวก็คือ พ่อ แม่ ลูก เมีย ที่คงมีชีวิตรับพฤติกรรมการกระทำเช่นวันนี้ที่เสียมากกว่าได้” นายนิมุกล่าวก่อนจะเสริมอีกว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถี่มากขึ้นในขณะนี้ ตนเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการสับเปลี่ยนนโยบาย หรือตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. เนื่องจากเมื่อมีผู้ที่มาทำหน้าที่รู้สาเหตุแห่งปัญหา รู้พื้นที่ เข้าใจและเข้าถึงประชาชนได้มาก เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีเกิดขึ้น เพราะการแก้ปัญหาหาที่เกิดขึ้นต้องมีการเรียนรู้ และใช้เวลาในการทำงาน
วันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ยะลาว่า นายนิมุ มะกาเจ อดีตรองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา และผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา กล่าวถึงเหตุการณ์การลอบวางระเบิดป่วนยะลากว่า 20 จุด ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากว่า หลังเกิดเหตุหน่วยงานราชการต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนทราบในกรณีที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีเสียงตามสายของ ศอ.บต.ชี้แจงไปแล้วก็ตาม การการก่อเหตุในครั้งนี้จากที่ได้พบเห็นใบปลิวของผู้ไม่หวังดีโปรยทิ้งในหลายจุดนั้น เชื่อว่ายังมีคนบางคนติดใจในเรื่องของเหตุการณ์ในอดีต ทั้งที่ มัสยิดกรือเซะ ตากใบ การทรมานอีหม่ามยะผาจนเสียชีวิต กรณีลอบวางระเบิดกุโบร์โต๊ะอาเยาะ จ.ปัตตานี
โดยจะต้องแก้ไขต้นเหตุที่เขาฝังใจ ในขณะเดียวกัน การปราบปรามต้องไม่ใช้ความรุนแรง จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ทั้งประชาชนในพื้นที่ กลุ่มบุคคลที่ต่อต้านหรือสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ใช้เหตุผลในการบริหารจัดการ สร้างความเข้าใจ ใช้กระบวนการเข้าถึงให้มากกว่าที่เป็นอยู่ โปรดช่วยกันคิด โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าทำอย่างไรให้ความฝังใจเรื่องดังกล่าวเบาบางลงให้มากที่สุดหรือให้หมดไป
“ถ้ายังมีเหตุการณ์เช่นนี้ การต่อรองทุกด้านจะยุ่งยากมากยิ่งขึ้น ทั้งการต่อรองการชดใช้ต่อชีวิต ทรัพย์สิน ต่อรองการลงโทษผู้กระทำความผิด ต่อรองการใช้กฎหมายในพื้นที่ นอกจากผู้บาดเจ็บล้มตายแล้ว ยังมีครอบครัวก็คือ พ่อ แม่ ลูก เมีย ที่คงมีชีวิตรับพฤติกรรมการกระทำเช่นวันนี้ที่เสียมากกว่าได้” นายนิมุกล่าวก่อนจะเสริมอีกว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถี่มากขึ้นในขณะนี้ ตนเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากการสับเปลี่ยนนโยบาย หรือตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต. เนื่องจากเมื่อมีผู้ที่มาทำหน้าที่รู้สาเหตุแห่งปัญหา รู้พื้นที่ เข้าใจและเข้าถึงประชาชนได้มาก เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีเกิดขึ้น เพราะการแก้ปัญหาหาที่เกิดขึ้นต้องมีการเรียนรู้ และใช้เวลาในการทำงาน