ตรัง - คุณตาวัย 60 ปี จูงลูกชายบุกไปโวยที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง เพราะตาซ้ายต้องบอดสนิทหลังนายแพทย์คนหนึ่งผ่าตัดรักษาโรคต้อกระจกที่ รพ.ศูนย์ตรัง
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง นายสวัสดิ์ สุวรรณรัตน์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ถนนจริงจิตร ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งประกอบอาชีพทำสวนยางพารา พร้อมด้วย นายสุทธิศักดิ์ สุวรรณรัตน์ อายุ 35 ปี ลูกชาย ได้เดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม โดย นายสวัสดิ์ เริ่มมีอาการตาซ้ายพร่ามัว และมองเห็นไม่ชัดมานานกว่า 2 เดือนแล้ว หลังจากเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง กับแพทย์นายหนึ่ง เนื่องจากมีอาการป่วยเป็นโรคต้อกระจก และต่อมาก็ได้เข้ารับการผ่าตัด เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายสวัสดิ์ เปิดเผยว่า หลังการผ่าตัดได้ 1 วัน นายแพทย์คนดังกล่าวก็ให้ตนเดินทางกลับบ้านเพื่อพักฟื้น และได้ปฏิบัติตามคำแนะนำเป็นอย่างดี ด้วยการยาหยอดตาและป้ายตาตามคำสั่ง โดย 2 วันแรกหลังการผ่าตัดตนยังสามารถมองเห็นได้ลางๆ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตาข้างซ้ายกลับมืดสนิทและมองอะไรไม่เห็นอีกเลย ตนจึงรีบไปปรึกษาแพทย์หญิงที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองตรัง ซึ่งก็ได้แนะนำให้ตนกลับไปปรึกษานายแพทย์เจ้าของไข้ที่คลินิกส่วนตัว แต่หลังจากนายแพทย์คนดังกล่าวตรวจตาด้านซ้ายแล้วก็บอกเพียงว่า ให้ตนใช้ตาเดียวไปก่อน เพราะไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ โดยไม่ได้แนะนำอะไรเพิ่มเติมเลย
นายสวัสดิ์ กล่าวอีกว่า การที่ตนเองเดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง ก็เพื่อต้องการให้นายแพทย์เจ้าของไข้ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา ช่วยตรวจหาสาเหตุที่ทำให้ตาด้านซ้ายของตนต้องบอดสนิทลงอย่างกะทันหัน และยังหวั่นเกรงว่าอาจจะเกิดอาการลุกลามไปยังตาด้านขวาด้วย หากไม่มีการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นายแพทย์ทิ้งคนไข้ด้วยคำตอบสั้นๆ เพียงแค่นั้น และถ้ายังสามารถรักษาอาการของตาด้านซ้ายเอาไว้ได้ ตนก็อยากขอหนังสือจากโรงพยาบาลศูนย์ตรัง เพื่อส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่
นายแพทย์ ไพศาล เกื้ออรุณ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ชี้แจงว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง ต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายสวัสดิ์ และรับปากว่าจะดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเองอย่างดีที่สุด เบื้องต้นได้ประสานไปยังนายแพทย์ศุภชัย ศุภพฤกษ์สกุล รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ตรัง และได้รับคำตอบว่ายินดีให้ความช่วยเหลือตามที่คนไข้ร้องขอ โดยจะมีการนัดหมายกับนายสวัสดิ์ เพื่อสอบถามรายละเอียด และตรวจรักษาหาสาเหตุเบื้องต้นให้อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนการเยียวยารักษาอื่นๆ ก็คงจะได้ทำการพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง นายสวัสดิ์ สุวรรณรัตน์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ถนนจริงจิตร ตำบลทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งประกอบอาชีพทำสวนยางพารา พร้อมด้วย นายสุทธิศักดิ์ สุวรรณรัตน์ อายุ 35 ปี ลูกชาย ได้เดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม โดย นายสวัสดิ์ เริ่มมีอาการตาซ้ายพร่ามัว และมองเห็นไม่ชัดมานานกว่า 2 เดือนแล้ว หลังจากเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง กับแพทย์นายหนึ่ง เนื่องจากมีอาการป่วยเป็นโรคต้อกระจก และต่อมาก็ได้เข้ารับการผ่าตัด เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา
นายสวัสดิ์ เปิดเผยว่า หลังการผ่าตัดได้ 1 วัน นายแพทย์คนดังกล่าวก็ให้ตนเดินทางกลับบ้านเพื่อพักฟื้น และได้ปฏิบัติตามคำแนะนำเป็นอย่างดี ด้วยการยาหยอดตาและป้ายตาตามคำสั่ง โดย 2 วันแรกหลังการผ่าตัดตนยังสามารถมองเห็นได้ลางๆ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตาข้างซ้ายกลับมืดสนิทและมองอะไรไม่เห็นอีกเลย ตนจึงรีบไปปรึกษาแพทย์หญิงที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองตรัง ซึ่งก็ได้แนะนำให้ตนกลับไปปรึกษานายแพทย์เจ้าของไข้ที่คลินิกส่วนตัว แต่หลังจากนายแพทย์คนดังกล่าวตรวจตาด้านซ้ายแล้วก็บอกเพียงว่า ให้ตนใช้ตาเดียวไปก่อน เพราะไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ โดยไม่ได้แนะนำอะไรเพิ่มเติมเลย
นายสวัสดิ์ กล่าวอีกว่า การที่ตนเองเดินทางมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง ก็เพื่อต้องการให้นายแพทย์เจ้าของไข้ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา ช่วยตรวจหาสาเหตุที่ทำให้ตาด้านซ้ายของตนต้องบอดสนิทลงอย่างกะทันหัน และยังหวั่นเกรงว่าอาจจะเกิดอาการลุกลามไปยังตาด้านขวาด้วย หากไม่มีการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นายแพทย์ทิ้งคนไข้ด้วยคำตอบสั้นๆ เพียงแค่นั้น และถ้ายังสามารถรักษาอาการของตาด้านซ้ายเอาไว้ได้ ตนก็อยากขอหนังสือจากโรงพยาบาลศูนย์ตรัง เพื่อส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่
นายแพทย์ ไพศาล เกื้ออรุณ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ชี้แจงว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง ต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายสวัสดิ์ และรับปากว่าจะดูแลเรื่องนี้ด้วยตัวเองอย่างดีที่สุด เบื้องต้นได้ประสานไปยังนายแพทย์ศุภชัย ศุภพฤกษ์สกุล รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ตรัง และได้รับคำตอบว่ายินดีให้ความช่วยเหลือตามที่คนไข้ร้องขอ โดยจะมีการนัดหมายกับนายสวัสดิ์ เพื่อสอบถามรายละเอียด และตรวจรักษาหาสาเหตุเบื้องต้นให้อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนการเยียวยารักษาอื่นๆ ก็คงจะได้ทำการพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
