ยะลา - กอ.รมน.ลั่น เดินหน้าดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 6 ด้านอย่างต่อเนื่อง ลั่นจะนำพี่น้องประชาชน ที่หลบหนี เพราะความกลัวว่าผิดกฎหมายกลับบ้าน มาสู่อ้อมอกของญาติ พี่น้องและครอบครัว เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตแบบปกติสุข
วันนี้ (17 ต.ค.) ที่ห้องประชุม กองพลทหารราบที่ 15 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโท อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานการประชุมแถลงแผนเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2555 โดยมีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง, กองฝ่ายเสนาธิการ, ฝ่ายกิจการพิเศษ, รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส, สงขลา, และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจถึงระดับหมายเลข 2 ตัวเข้าร่วมประชุม
พลโทอุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า ในการทำงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังวัดชายแดนภาคใต้นั้น เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ทำงานด้านการเมืองเป็นหลักเพื่อทำเพื่อให้ประชาชนเห็นว่า เจ้าหน้าที่นั้นอยู่กับประชาชน เป็นมิตรกับประชาชน และพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ทำงานทุกอย่างให้ประชาชนเข้าใจในภาระหน้าที่และเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้สำหรับงานการทหารนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำหน้าที่ ในการปกป้องทรัพย์สินและรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน โดยปฏิบัติตามกติกาสากล เคารพในสิทธิมนุษยชนและปฏิบัติภายใต้กฎหมายทุกประการ
สำหรับในปี 2555 นี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ก็จะดำเนินตามยุทธศาสตร์ทั้ง 6 ด้านที่วางไว้อย่างต่อเนื่องโดยงานที่สำคัญคือ การนำพี่น้องประชาชน ที่หลบหนี เพราะความกลัวว่าผิดกฎหมายกลับบ้าน ซึ่งขณะนี้ทุกภาคส่วนยินดี ที่จะนำผู้ที่หลบหนีกลับมาสู่อ้อมอกของญาติ พี่น้องและครอบครัว เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตแบบปกติสุขที่บ้าน ในส่วนของภัยแทรกซ้อนที่มีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกเหนือจากปัญหาความไม่สงบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำมันเถื่อนหรือยาเสพติดก็ดี ในปี 2555 นี้ ยังคงผนึกกำลังร่วมกันทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหารและผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตัดท่อน้ำเลี้ยงของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ใช้ยาเสพติดและน้ำมันเถื่อนเป็นกองทุนในการดำเนินงาน สำหรับแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่าง ทหาร ตำรวจ พลเรือน ในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ใน ปี 2555 นั้น จะมีการทำแผนปฏิบัติงานร่วมกัน แต่เดิมถึงจะมีการแยกสายงานกันออกไปทำงาน แต่ก็มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดอยู่แล้ว ซึ่งการทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนราชการทุกภาคส่วนถือเป็นพวกพ้องกัน เป็นคนที่รู้จัก สนิทสนมกัน และทำงานด้วยความสามัคคีกันตลอด เมื่อมีการจัดกลุ่มงานให้มีความแน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ดีต่อการแก้ไขปัญหา ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะนำไปสู่ความเอกภาพในการปฏิบัติงานได้มากแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ว่าทุกฝ่ายจะปรับตัวได้ขนาดไหน สำหรับยุทธศาสตร์ในการทำงานนั้น คงไม่ต้องปรับ สำหรับแนวทางที่กำหนดขึ้นมาใหม่นี้ เราต้องปรับยุทธวิธีให้เข้ากับบางเรื่องแค่นั้นเอง
นอกจากนี้ ยังได้ให้นโยบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติตนของกำลังพล นอกจากจะต้องปฏิบัติอยู่ภายใต้หลักกฎหมาย และเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนแล้ว จำต้องทำตัวให้เป็นที่ศรัทธาโดยไม่มีการสร้างเงื่อนไขโดยเด็ดขาด สำหรับการจัดการกับปัญหาภัยแทรกซ้อน จะมีการนำกฎหมายการฟอกเงินมาใช้อย่างจริงจัง จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งจะให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับองค์กรอิสระ องค์กรภาคประชาสังคม ตลอดจนองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันขจัดเงื่อนไขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้หมดสิ้นไป