นครศรีธรรมราช - ผอ.กกต.จังหวัด โบ้ย กกต.ท้องถิ่น ทน.นครศรีธรรมราช ต้องแจงเหตุพบตัวเลขบัตรหายนับหมื่น ยันตัวเลขตามรายงานยังมีแค่ 624 ใบ-อุบผลสรุประทึกอนุ กกต.สอบสวนชี้ “เอกฉันท์”
กรณีที่ ดร.กณพ เกตุชาติ อดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช แถลงถึงการพบหลักฐานที่ส่อไปในความไม่ปกติและไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เมื่อ 19 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา หลังจากได้การยื่นขอเอกสาร ผถ.15,สถ.15, ผถ.16/1 และ สถ.16/1 โดยใช้ช่องทาง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร กับเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และได้รับเอกสารดังกล่าวเรียบร้อยตามขั้นตอน แต่กลับพบความผิดปกติอย่างมโหฬาร
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อมีการรวบรวมตัวเลขบัตรเลือกตั้ง ที่จัดเบิกเพื่อการเลือกตั้งจำนวน 144,536 ใบ ถูกใช้ไป 86,922 ใบ แต่กลับพบว่าในรายงาน สถ.16/1(รายงานหีบบัตร) มียอดใช้ 65,781 ใบเท่ากับหายไป 21,141 ใบ บัตรเลือกตั้งที่เหลือ 57,614 ใบ แต่ใน สถ.16/1 (รายงานหีบบัตร) เหลือ 56,446 ใบ หายไป 1,186 ใบ โดยยอดรวมที่หายไป ถึง 22,309 ใบ และในรายงานการจัดเก็บที่ สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เหลือที่ 122,227 ใบ เท่านั้น โดยดร.กณพ ได้ยื่นเอกสารในส่วนนี้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมกับ กกต.กลาง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ กกต.เร่งรัดในการยื่นขออำนาจศาลในการเปิดหีบบัตรเลือกตั้งเพื่อพิสูจน์จำนวนที่มีอยู่จริง และจำนวนที่หายไป อย่างเร่งด่วน
ความคืบหน้าเรื่องนี้ นายวโรทัย แนวบรรทัด ผอ.กกต.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้เดินทางมารับตำแหน่งใหม่เพียงไม่กี่วัน ได้แถลงถึงเรื่องนี้ ว่า กรณีการเลือกตั้งเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีการร้องคัดค้านการเลือกตั้ง เรื่องการตรวจพบบัตรเลือกตั้งที่ร้านขายของเก่านั้น มีรายงานมายังตนมีเพียงการพบบัตรเลือกตั้งที่พบ 2 แห่ง คือ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2554 ที่ร้านรับซื้อของเก่าของ นางอนงค์ ทองมี จำนวน 9 เล่ม และ วันที่ 19 กรกฎาคม 2554 นายวิโรจน์ พรรณราย ปลัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้รายงานการพบเพิ่มเติมอีก 16 เล่ม ซึ่งมีจำนวนรวม 25 เล่ม ซึ่งแต่ละเล่มมีจำนวนบัตรเล่มละ 25 ใบ
บัตรเลือกตั้งทีพบเป็นบัตรที่เหลือและมีการเจาะทำลายแล้วร้อยเชือกผูกไว้ ไม่มีการลงคะแนนในบัตรเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้นายวิโรจน์ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกรณีบัตรเลือกตั้งดังกล่าว
ขณะนี้ทาง กกต.จว.นศ.ได้ติดตามผลคดีอย่างใกล้ชิด ว่า จะเป็นเรื่องความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ หรือบัตรเลือกตั้งถูกนำออกไปจากที่เก็บรักษาหรือไม่ ซึ่งต้องรอผลการสืบสวนสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าได้ผลประการใดก็จะนำผลตัวนี้นำเสนอไปยัง กกต.กลาง เนื่องจากผู้ร้องได้ร้องไปยังส่วนกลางด้วย
ต่อข้อถามถึงข้อพิรุธในเอกสารที่มีบัตรหายไปนับหมื่น ผอ.กกต.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าในเรื่องนี้ได้ขอให้ทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในฐานะ ผอ.กกต.ท้องถิ่นในการเลือกตั้งรายงานเรื่องนี้มา แต่เบื้องต้นนั้นรายงานการพบบัตรที่อยู่ในที่ต่างๆ เพียง 625 ใบเท่านั้น ซึ่งอาจมองได้ 2 ทางคือเป็นการประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ และเกิดการทุจริตขึ้น แต่กรณีนี้ต้องรอการตรวจสอบจากเทศบาลในส่วนเรื่องการร้องคัดค้าน
กรณีพบบัตรเลือกตั้งดังกล่าวได้มีการร้องคัดค้านที่ กกต.จว.และ กกต.กลาง รวม 2 เรื่อง ซึ่ง กกต.จว.ได้สั่งรับเป็นเรื่องร้องคัดค้าน ทั้ง 2 เรื่อง และแต่งตั้งอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนดำเนินการสืบสวนสอบสวนโดยมีอนุกรรมการจากส่วนกลางมาคอยดูแล เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส ขณะนี้ได้นำเสนอสำนวนไปยัง กกต.กลางแล้วทั้ง 2 เรื่อง เพื่อดำเนินการต่อไป
นายวโรทัย กล่าวว่า บัตรเลือกตั้งของเทศบาลที่ถูกพบมีเพียง 25 เล่มเท่านั้น คิดเป็นจำนวนบัตร 624 ใบ มิได้สูญหายเป็นหมื่นตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวไป ซึ่งในกรณีบัตรสูญหายตนได้ประสานไปยังนายวิโรจน์แล้ว พร้อมประสานกลับมายังตนว่าสามารถชี้แจงจำนวนบัตรเลือกตั้งได้หากนายวิโรจน์ชี้แจงเรื่องดังกล่าวมายังตนก็พร้อมที่จะแจ้งต่อให้ทราบอย่างเร่งด่วน
ต่อข้อถามกรณีที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของ กกต.ท้องถิ่นได้หรือไม่ว่า หากเป็นตาม กม.ว่าด้วยการเลือกตั้งถือว่าเข้าข่าย แต่ตนไม่สามารถบอกได้ว่าผิดจริงหรือไม่ เพราะขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวนของ จนท.ตร.แต่ในส่วนของ กกต.จว.นั้น ขณะนี้ได้สรุปส่งไปยัง กกต.ส่วนกลางเพื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของผู้ถูกร้องก็มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมนำพยานหลักฐานมาหักล้างเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ต้องให้เวลากับในการพิจารณาของ กกต.กลาง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากแหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ในจำนวนเรื่องร้องคัดค้าน ซึ่งมี 2 ประเด็นหลักนั้น ในประเด็นแรกร้องคัดค้านเรื่องบัตรเลือกตั้ง มีการสรุปสำนวนของอนุกรรมการเรียบร้อยแล้วแต่ไม่ขอบอกว่าสรุปไปในทิศทางใด แต่บอกได้เพียงว่ามีมติเป็น “เอกฉันท์” แต่อย่างไรก็ตามเรื่องขณะนี้อยู่ที่ กกต.กลางสรุปผล ส่วนประเด็นหลังจะมีเรื่องย่อย 12 เรื่อง ผลการสืบสวนสอบสวนของอนุกรรมการ กกต., พิจารณาสรุปผลส่ง กกต.กลาง มีมูล 11 เรื่องเท่านั้น