xs
xsm
sm
md
lg

หาดใหญ่โพล ชี้ ปัญหา “น้ำมัน-ของแพง” ส่งผลเสถียรภาพรัฐบาล “ปูแดง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพ) การจำหน่ายอาหารเจใน จ.ตรัง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของหัวเมืองภาคใต้ที่มีผู้ถือศีลกินเจมากที่สุด พบว่าในปีนี้ยอดขายซบเซาตกลง 10-20% นับเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผลสำรวจของหาดใหญ่โพล ในมุมมองด้านเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้ ชี้ ปัญหาเศรษฐกิจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นรัฐบาลมากที่สุด และมีความเป็นห่วงผลกระทบด้านราคาน้ำมัน ที่ส่งผลต่อค่าครองชีพสูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม พบว่า คนใต้ยังคงมีสถานะการเงินที่เกินครึ่งของตัวอย่างประชากรซึ่งทำการสำรวจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้

ภายหลังจากที่ หาดใหญ่โพล โดยสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนใน 14 จังหวัดภาคใต้ เกี่ยวกับมุมมองภาวะเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลประชาชน จำนวน 1,096 ตัวอย่าง และใช้แบบสำรวจเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 23-30 กันยายน 2554

วันนี้ (4 ต.ค.) รศ.ทัศนีย์ ประธาน รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยผลการสำรวจหาดใหญ่โพล พบว่า ประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้ ร้อยละ 55.6 มีสถานะการเงินโดยมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ และร้อยละ 26.7 มีสถานะการเงินโดยมีรายได้มากกว่ารายจ่าย มีเพียงร้อยละ 17.7 ไม่เหลือเก็บแต่ไม่มีหนี้สิน อกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 68.6 มีภาระหนี้สินโดยที่ประชาชนร้อยละ 49.5 มีภาระหนี้ไม่เกิน 50,000 บาท รองลงมามีภาระหนี้สิน 50,001-100,000 บาท และ 200,001-500,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 6.3 และ 5.8 ตามลำดับ

ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 73.2 สามารถเก็บเงินในแต่ละเดือนได้ โดยที่ประชาชนร้อยละ 40.4 สามารถออมเงินได้แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือนมากที่สุด รองลงมา 1,001-3,000 บาทต่อเดือน และ 3,001-5,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 19.7 และ 8.6 ตามลำดับ มีประชาชนร้อยละ 26.8 ที่ไม่สามารถออมเงินได้เลย

ประชาชนร้อยละ 43.9 เห็นว่า ปัญหาเศรษฐกิจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลมากที่สุด รองลงมา เป็นปัญหาการเมือง และปัญหาการคอร์รัปชั่น คิดเป็นร้อยละ 27.5 และ 14.3 ตามลำดับ ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางลดค่าครองชีพ พบว่า ประชาชนร้อยละ 43.0 ต้องการเห็นรัฐบาลมาช่วยลดค่าครองชีพด้านราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นมากที่สุด รองลงมาราคาน้ำมันแพง และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่างๆ คิดเป็นร้อยละ 38.0 และ 9.6 ตามลำดับ ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 58.6 มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสินค้าราคาแพงอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด

รศ.ทัศนีย์ ยังกล่าวต่อว่า ภาพรวมของปัญหาที่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 4.31 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 7 คะแนน) มีแนวโน้มของปัญหาเพิ่มขึ้นในทุกประเด็นจากไตรมาสที่ผ่านมา และเมื่อพิจารณาตามประเด็นของปัญหา พบว่า ประชาชนเห็นว่าปัญหาราคาน้ำมันเป็นปัญหาที่ได้รับผลกระทบต่อประชาชนมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.69 คะแนน รองลงมา ปัญหาเกี่ยวกับการปรับราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหาการว่างงานปัญหา ปัญหาการคอร์รัปชั่นในแวดวงการเมือง/ราชการ ปัญหาสภาพเศรษฐกิจของประเทศ และปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีค่าเฉลี่ย 4.66, 4.58, 4.52, 4.52, 4.49 และ 4.44 ตามลำดับ

ประชาชนร้อยละ 58.0 เห็นว่า นโยบายประกันรายได้เกษตรกร มีประโยชน์ต่อเกษตร โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากภัยจากธรรมชาติ เกิดขึ้นบ่อยเป็นนโยบายที่ประกันความเสี่ยงให้กับเกษตรกรได้มากกว่านโยบายจำนำข้าว 15,000 บาท (ร้อยละ 42.0)

ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบว่า ประชาชนร้อยละ 57.8 ได้ประโยชน์จากการลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันมากที่สุด รองลงมารายได้ขั้นต่ำ 300 บาท ลดภาษีรถคันแรก และเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 22.3, 18.7 และ 17.3 ตามลำดับ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 65.6 วิตกกังวลจะเกิดน้ำท่วมภาคใต้ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม มีเพียงร้อยละ 34.4 ไม่วิตกกังวลในการเกิดน้ำท่วมในช่วงเวลาดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น