ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ภาครัฐ-เอกชน ในภูเก็ต ระดมสมองรวบรวมข้อมูลชี้แจงข้อท้วงติงด้านสิ่งแวดล้อมโครงการศูนย์ประชุมฯ เพื่อให้คณะกรรมการ คชก.ผ่านรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมเชิญคณะกรรมการฯลงพื้นที่ดูสภาพความเป็นจริง ยืนยันเต่าทะเลไม่เคยขึ้นมาวางไข่บนหาดบ้านท่าฉัตรไชยและไม่มีป่าสมบูรณ์
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมแสดงความคิดเห็นโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม เช่น ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต อบต.ไม้ขาว เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อระดมสมองทั้งภาครัฐและเอกชน ในการรวบรวมข้อมูลชี้แจงประเด็นที่ทางคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม (คชก.) ไม่เห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต ที่บริเวณที่ราชพัสดุแปลงที่ ภก. 154 จำนวน 140 ไร่ บ้านท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยได้ท้วงติง 2 ประเด็น
คือ 1.สถานที่ก่อสร้างไม่มีความเหมาะสม เนื่องจากจะกระทบต่อการวางไข่ของเต่าทะเล พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสมบูรณ์ผืนสุดท้ายของภูเก็ต และชายหาดบริเวณบ้านท่าฉัตรไชยมีสภาพเป็นแอ่งลึกไม่เหมาะสำหรับกิจกรรมนันทนาการ รวมทั้งโครงการดังกล่าวจะกระทบไปถึงประชาชนทั้งในจังหวัดพังงา 2.โครงการดังกล่าวไม่มีความคุ้มค่าในการลงทุนด้านเศรษฐศาสตร์และจะเป็นการแข่งขันกับภาคเอกชน
ภาครัฐและเอกชนมองว่า คณะกรรมการ คชก.ไม่ได้พิจารณาข้อมูลตามสภาพความเป็นจิรงที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งชายหาดบ้านท่าฉัตรไชยไม่ใช่พื้นที่ว่างไขของเต่าทะเล ซึ่งการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯไม่น่าจะกระทบต่อการวางไข่ของเต่าทะเล และสถานที่ก่อสร้างก็ไม่ได้เป็นผืนป่าสมบูรณ์ ต้นไม้ทีมีอยู่ในขณะนี้เกิดจากการปลูกป่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเท่านั้น
ส่วนที่ระบุว่า โครงการไม่คุ้มค่าการลงทุนนั้น โครงการนี้จะเกิดประโยชน์โดยรวมกับคนภูเก็ต พังงา และกระบี่ ทุกภาคส่วน รวมทั้งไม่เป็นการแข่งขันกับเอกชนเพราะโรงแรมในภูเก็ตไม่มีที่ใดที่มีห้องประชุมสามารถรองรับคนได้กลุ่มใหญ่ตั้งแต่ 1,000 คน ขึ้นไป
นายวิรัตน์ มาแก้ว รองนายก อบต.ไม้ขาว กล่าวว่า จุดที่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่จะอยู่ที่บริเวณชายหาดหมู่ที่ 4 ต.ไม้ขาว สถานที่จัดงานประเพณีปล่อยเต่าประจำปีไม้ขาว ส่วนบริเวณอุทยานสิรินาถ และบ้านท่าฉัตรไชยนั้น ไม่ใช่จุดวางไข่ของเต่าทะเล ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านท่าฉัตรไชยสามารถยืนยันข้อมูลได้ รวมทั้งในส่วนของชมรมอนุรักษ์เต่าทะเลหาดไม้ขาวก็มีการเก็บข้อมูลการขึ้นมาว่างไข่ของเต่าทะเลที่หาดไม้ขาวมาโดยตลอด สามารถที่จะนำข้อมูลดังกล่าวมายืนยันได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของป่าสมบูรณ์ผืนสุดท้ายนั้น ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า คณะกรรมการคชก.นำข้อมูลมาจากไหน เพราะสถานที่ก่อสร้างนั้นไม่ได้เป็นป่าสมบูรณ์แต่อย่างใด และช่วงที่เกิดสึนามิบ้านท่าฉัตรไชยก็ไม่ได้รับความเสียหายจากสึนามิมีเพียงน้ำเอ่อขึ้นมาเท่านั้น รวมไปถึงชาวบ้านท่าฉัตรไชยและฝั่งท่านุ่นจังหวัดพังงาก็ต้องการให้โครงการนี้เกิดขึ้น เพราะเห็นว่าโครงการนี้จะเกิดประโยชน์กับชาวบ้านทางหัวเกาะภูเก็ต
ขณะที่ นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การที่รัฐบาลลงทุนโครงการศูนย์ประชุมฯก็เหมือนกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้จังหวัดภูเก็ต เพราะขณะนี้ภูเก็ตมีแต่นักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางมาพักผ่อนเท่านั้น การเกิดขึ้นของศูนย์ประชุมฯจะทำให้ได้นักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE เข้ามาเพิ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังซื้อสูง และขณะนี้แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสำคัญของโลกก็ได้ให้ความสำคัญในการดึงตลาด MICE เข้าไปทั้งนั้น
อย่างกรณีของเกาะบาหลี ก็มีศูนย์ประชุมถึง 2 แห่ง โดยแห่งที่สองเพิ่งเปิดเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และมั่นใจว่า การเกิดขึ้นของศูนย์ประชุมฯจะไม่เป็นการแข่งขันกับภาคเอกชนอย่างแน่นอน เพราะไม่มีเอกชนรายใดกล้าที่จะลงทุนโครงการใหญ่ ที่สามารถรองรับคนได้ 4,000-5,000 คน และงานใหญ่ๆ ที่มีคนตั้งแต่ 2,000 คน ขึ้นไป โรงแรมในภูเก็ตไม่สามารถรองรับได้ ดังนั้นภาครัฐต้องเป็นผู้ลงทุนเพื่อขยายศักยภาพการแข่งขัน ซึ่งโครงการนี้จะเกิดประโยชน์โดยรวมกับคนภูเก็ตและคนในฝั่งอันดามัน
นายสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มว่า ภาคเอกชนต้องการที่จะให้คณะกรรมการ คชก. ลงมารับฟังการชี้แจงจากภาคเอกชนและภาครัฐในภูเก็ต รวมไปถึงลงมาดูสภาพื้นที่จริงที่บ้านท่าฉัตรไชยว่ายังเป็นป่าที่สมบูรณ์อยู่หรือไม่
ด้าน นายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้ภูเก็ตมีห้องพักกว่า 7 หมื่นห้อง ช่วงโลว์ซีซันมีแขกเข้าพักน้อย การมีศูนย์ประชุมฯเกิดขึ้นจะช่วยเสริมตลาดในช่วงหน้าฝน ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE ที่มีขนาดตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไปโรงแรมก็ไม่มีห้องประชุมที่จะต้องรับได้แล้ว โครงการศูนย์ประชุมฯไมได้แข่งกับเอกชนแต่จะเป็นการเสริมให้เอกชนมากกว่า
นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ เพื่อที่จะรวบรวมข้อมูลไปชี้แจงกับคณะกรรมการ คชก. โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบไปดำเนินการรวบรวมข้อมูลให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน รวมทั้งได้มอบหมายให้ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตประสานกับกรมธนารักษ์ในการเชิญคณะกรรมการ คชก.ลงมาดูสภาพพื้นที่จริงๆ และในส่วนของจังหวัดภูเก็ตเองก็ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาเตรียมความพร้อมเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนน น้ำประปา ไฟฟ้า ระบบไอที ฯลฯ เมื่อศูนย์ประชุมฯก่อสร้างเสร็จก็สามารถเปิดใช้ได้ทันที
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมแสดงความคิดเห็นโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม เช่น ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต อบต.ไม้ขาว เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อระดมสมองทั้งภาครัฐและเอกชน ในการรวบรวมข้อมูลชี้แจงประเด็นที่ทางคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม (คชก.) ไม่เห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต ที่บริเวณที่ราชพัสดุแปลงที่ ภก. 154 จำนวน 140 ไร่ บ้านท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยได้ท้วงติง 2 ประเด็น
คือ 1.สถานที่ก่อสร้างไม่มีความเหมาะสม เนื่องจากจะกระทบต่อการวางไข่ของเต่าทะเล พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสมบูรณ์ผืนสุดท้ายของภูเก็ต และชายหาดบริเวณบ้านท่าฉัตรไชยมีสภาพเป็นแอ่งลึกไม่เหมาะสำหรับกิจกรรมนันทนาการ รวมทั้งโครงการดังกล่าวจะกระทบไปถึงประชาชนทั้งในจังหวัดพังงา 2.โครงการดังกล่าวไม่มีความคุ้มค่าในการลงทุนด้านเศรษฐศาสตร์และจะเป็นการแข่งขันกับภาคเอกชน
ภาครัฐและเอกชนมองว่า คณะกรรมการ คชก.ไม่ได้พิจารณาข้อมูลตามสภาพความเป็นจิรงที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งชายหาดบ้านท่าฉัตรไชยไม่ใช่พื้นที่ว่างไขของเต่าทะเล ซึ่งการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯไม่น่าจะกระทบต่อการวางไข่ของเต่าทะเล และสถานที่ก่อสร้างก็ไม่ได้เป็นผืนป่าสมบูรณ์ ต้นไม้ทีมีอยู่ในขณะนี้เกิดจากการปลูกป่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเท่านั้น
ส่วนที่ระบุว่า โครงการไม่คุ้มค่าการลงทุนนั้น โครงการนี้จะเกิดประโยชน์โดยรวมกับคนภูเก็ต พังงา และกระบี่ ทุกภาคส่วน รวมทั้งไม่เป็นการแข่งขันกับเอกชนเพราะโรงแรมในภูเก็ตไม่มีที่ใดที่มีห้องประชุมสามารถรองรับคนได้กลุ่มใหญ่ตั้งแต่ 1,000 คน ขึ้นไป
นายวิรัตน์ มาแก้ว รองนายก อบต.ไม้ขาว กล่าวว่า จุดที่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่จะอยู่ที่บริเวณชายหาดหมู่ที่ 4 ต.ไม้ขาว สถานที่จัดงานประเพณีปล่อยเต่าประจำปีไม้ขาว ส่วนบริเวณอุทยานสิรินาถ และบ้านท่าฉัตรไชยนั้น ไม่ใช่จุดวางไข่ของเต่าทะเล ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านท่าฉัตรไชยสามารถยืนยันข้อมูลได้ รวมทั้งในส่วนของชมรมอนุรักษ์เต่าทะเลหาดไม้ขาวก็มีการเก็บข้อมูลการขึ้นมาว่างไข่ของเต่าทะเลที่หาดไม้ขาวมาโดยตลอด สามารถที่จะนำข้อมูลดังกล่าวมายืนยันได้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของป่าสมบูรณ์ผืนสุดท้ายนั้น ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า คณะกรรมการคชก.นำข้อมูลมาจากไหน เพราะสถานที่ก่อสร้างนั้นไม่ได้เป็นป่าสมบูรณ์แต่อย่างใด และช่วงที่เกิดสึนามิบ้านท่าฉัตรไชยก็ไม่ได้รับความเสียหายจากสึนามิมีเพียงน้ำเอ่อขึ้นมาเท่านั้น รวมไปถึงชาวบ้านท่าฉัตรไชยและฝั่งท่านุ่นจังหวัดพังงาก็ต้องการให้โครงการนี้เกิดขึ้น เพราะเห็นว่าโครงการนี้จะเกิดประโยชน์กับชาวบ้านทางหัวเกาะภูเก็ต
ขณะที่ นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การที่รัฐบาลลงทุนโครงการศูนย์ประชุมฯก็เหมือนกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้จังหวัดภูเก็ต เพราะขณะนี้ภูเก็ตมีแต่นักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางมาพักผ่อนเท่านั้น การเกิดขึ้นของศูนย์ประชุมฯจะทำให้ได้นักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE เข้ามาเพิ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มที่กำลังซื้อสูง และขณะนี้แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสำคัญของโลกก็ได้ให้ความสำคัญในการดึงตลาด MICE เข้าไปทั้งนั้น
อย่างกรณีของเกาะบาหลี ก็มีศูนย์ประชุมถึง 2 แห่ง โดยแห่งที่สองเพิ่งเปิดเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และมั่นใจว่า การเกิดขึ้นของศูนย์ประชุมฯจะไม่เป็นการแข่งขันกับภาคเอกชนอย่างแน่นอน เพราะไม่มีเอกชนรายใดกล้าที่จะลงทุนโครงการใหญ่ ที่สามารถรองรับคนได้ 4,000-5,000 คน และงานใหญ่ๆ ที่มีคนตั้งแต่ 2,000 คน ขึ้นไป โรงแรมในภูเก็ตไม่สามารถรองรับได้ ดังนั้นภาครัฐต้องเป็นผู้ลงทุนเพื่อขยายศักยภาพการแข่งขัน ซึ่งโครงการนี้จะเกิดประโยชน์โดยรวมกับคนภูเก็ตและคนในฝั่งอันดามัน
นายสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มว่า ภาคเอกชนต้องการที่จะให้คณะกรรมการ คชก. ลงมารับฟังการชี้แจงจากภาคเอกชนและภาครัฐในภูเก็ต รวมไปถึงลงมาดูสภาพื้นที่จริงที่บ้านท่าฉัตรไชยว่ายังเป็นป่าที่สมบูรณ์อยู่หรือไม่
ด้าน นายสุชาติ หิรัญกนกกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ขณะนี้ภูเก็ตมีห้องพักกว่า 7 หมื่นห้อง ช่วงโลว์ซีซันมีแขกเข้าพักน้อย การมีศูนย์ประชุมฯเกิดขึ้นจะช่วยเสริมตลาดในช่วงหน้าฝน ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE ที่มีขนาดตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไปโรงแรมก็ไม่มีห้องประชุมที่จะต้องรับได้แล้ว โครงการศูนย์ประชุมฯไมได้แข่งกับเอกชนแต่จะเป็นการเสริมให้เอกชนมากกว่า
นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในครั้งนี้ เพื่อที่จะรวบรวมข้อมูลไปชี้แจงกับคณะกรรมการ คชก. โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ รับผิดชอบไปดำเนินการรวบรวมข้อมูลให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน รวมทั้งได้มอบหมายให้ธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตประสานกับกรมธนารักษ์ในการเชิญคณะกรรมการ คชก.ลงมาดูสภาพพื้นที่จริงๆ และในส่วนของจังหวัดภูเก็ตเองก็ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาเตรียมความพร้อมเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนน น้ำประปา ไฟฟ้า ระบบไอที ฯลฯ เมื่อศูนย์ประชุมฯก่อสร้างเสร็จก็สามารถเปิดใช้ได้ทันที
