xs
xsm
sm
md
lg

กรมธนารักษ์้เดินเครื่องศูนย์ประชุมฯภูเก็ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประสิทธิ์ สืบชนะ  ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง  ในฐานะรองประธานติดตามโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต
ศูนย์ข่าวภูเก็ต- กรมธนารักษ์เดินหน้าโครงการศูนย์ประชุมฯภูเก็ต เผยแต่อาจล่าช้าไปจากแผนงานเดิมที่จะต้องเสร็จต้นปี 2557 ขอทบทวนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื่องต้น เชื่อ สผ.ต้องฟังเหตุผลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่

นายประสิทธิ์ สืบชนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานติดตามโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต เปิดเผยถึงโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต ว่า กระทรวงการคลังได้กำหนดที่จะดำเนินการหาผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการศูนย์ประชุมฯ ในเดือน ต.ค.และเริ่มดำเนินการก่อสร้างปลายปี 2554 ซึ่งตามแผนเดิมจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2557

ที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ได้ส่งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (อีไอเอ) ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ชุดเล็กพิจารณา และได้รับแจ้งกลับมาว่ามี 2 ประเด็น ที่ยังไม่ผ่านการเห็นชอบ คือ เรื่องของสถานที่ที่ไม่เหมาะสม โดยระบุว่าโครงการดังกล่าวจะกระทบการวางไข่ของเต่าทะเล กระทบกับพื้นที่ป่าที่สมบูรณ์ผืนเดียวและเป็นผืนสุดท้ายของจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งอาจจะได้รับผลกระทบจากสึนามิหากเกิดคลื่นสึนามิในอนาคต

กรมธนารักษ์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้ ได้หารือกับส่วนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคท้องถิ่น และภาคประชาชน ซึ่งเห็นว่าประเด็นเรื่องของสถานที่ข้อเท็จจริงที่ไม่ตรงกับที่คณกรรมการสิ่งแวดล้อมฯแจ้งมา ซึ่งจริงๆ แล้วการวางไข่ของเต่าทะเลจะวางอยู่บนหาดอีกด้านหนึ่ง ไม่ใช่ด้านที่จะสร้างศูนย์ประชุมฯ

ส่วนกรณีของป่าผืนสุดท้าย พบว่า สภาพปัจจุบันเป็นพื้นที่โล่ง ตอนนี้เป็นที่ตั้งปะการังเทียม ไม่มีต้นไม้ ส่วนที่เป็นต้นไม้ติดชายทะเลจะอนุรักษ์ไว้ทั้งหมด

นอกจากนี้ ประเด็นที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากสึนามิ เมื่อครั้งที่เกิดสึนามิจะเข้าทางด้านชายหาดของหาดไม้ขาว แต่สถานที่ก่อสร้างห่างจากชายทะเล 400-500 เมตร จากการสอบถามชาวบ้านปรากฎว่า เมื่อครั้งที่เกิดสึนามิบริเวณบ้านท่าฉัตรไชยไม่ได้รับผลกระทบมาก มีเพียงน้ำท่วม 2-3 วันเท่านั้น

สำหรับประเด็นการลงทุนไม่คุ้มค่า กรมธนารักษ์น่าจะไปชี้แจงให้คณกรรมการสิ่งแวดล้อมฯทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงการคลังและสภาพัฒน์ ได้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว และ ผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ตทั้งหลายได้พิจารณาแล้วว่า โครงการสร้างศูนย์ประชุมฯ เป็นโครงการที่สำคัญที่ทุกภาคส่วนในจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ต้องการให้เกิดขึ่น เพื่อดึงนักท่องเที่ยวตลาดประชุมสัมมนากลุ่มใหญ่ๆ เข้ามาในพื้นที่

ทั้งนี้ หากศูนย์ประชุมฯ สร้างเสร็จจะสามารถจุผู้เข้าร่วมประชุมได้ประมาณ 6,000 คน ซึ่งโรงแรมที่มีอยู่ในจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ในขณะนี้ ไม่สามารถรองรับได้ ผู้ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดภูเก็ตจะได้รับอานิสงส์ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รถโดยสาร ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จะได้รับผลประโยชน์จากโครงการนี้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นโครงการนี้จะมีคุณค่ามหาศาลต่อเนื่องไปในอนาคต รัฐจะต้องมาลงทุนโครงการนี้

“จากการเข้าพบกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ฝากความเห็นของประชาชนภูเก็ต นักธุรกิจ ของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าคนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องการให้สร้างศูนย์ประชุมฯแห่งนี้ เพราะฉะนั้นฝากให้กระทรวงการคลังไปผลักดันให้ดำเนินการให้เร็วตามแผนเดิม ซึ่งตนคิดว่ากรมธนารักษ์คงจะได้เดินไปตามแผนเดิม แต่อาจล่าช้าไปบ้างในการที่จะต้องเจรจา ต้องทบทวนและชี้แจงต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ แล้วคิดว่าน่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลใหม่อย่างดียิ่งด้วย เพราะฉะนั้นน่าจะไม่มีปัญหากับโครงการนี้ แต่จะต้องทำงานเพิ่มขึ้นในการชี้แจง โดย ในส่วนของราชการนั้นจะเดินหน้าโครงการนี้อย่างแน่นอน” นายประสิทธิ์ กล่าวและว่า

กรมธนารักษ์จะขอทบทวนการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปยัง สผ.ส่วน สผ.จะฟังเหตุผลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเหตุผลที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งคนภูเก็ตท่านทราบดีว่าเป็นป่า เป็นที่วางไข่ของเต่าทะเล หรือไม่ รวมทั้งจะได้รับผลกระทบจากสึนามิหรือไม่ ซึ่งประเด็นเหล่านี้คิดว่าเป็นข้อเท็จจริง ที่สิ่งแวดล้อมคงเข้าใจ แต่ก็อยากจะฝากประชาชนชาวภูเก็ตให้ร่วมกันผลักดัน โครงการใหญ่ๆ จึงจะเกิดได้
นายประสิทธิ์ สืบชนะ  ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ชี้ให้ดูสถานที่ก่อสร้างศูนย์ประชุมฯไม่ได้เป็นป่าสมบูรณ์ตามที่สผ.อ้าง แต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น