ปัตตานี - กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านปัตตานีที่รวมตัวประท้วงคดีลักทรัพย์หอยแครงฉุน เหตุไม่มีผู้ที่เกี่ยวข้องแสดงตัวรับแถลงการณ์ ล่าสุดรวมตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 คนแล้ว ก่อนเคลื่อนขบวนบุกสำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีเพื่อขอความเป็นธรรม ลั่น! หากผลการเจรจาไม่เป็นที่น่าพอใจจะนำกำลังคนมาร่วมขบวนเพิ่มอีก ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงายเหตุรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด
รายงานความคืบหน้ากรณีชาวประมงพื้นบ้านจาก 3 อำเภอ ใน จ.ปัตตานี รวมตัวกับเครือข่ายนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กว่า 500 คน ตั้งขบวนเรียกร้องความเป็นธรรมแก่ชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีลักทรัพย์หอยแครง ขณะทำประมงในอ่าวปัตตานี ซึ่งเป็นที่สาธารณะ พร้อมยื่นแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทบทวนมาตรการและเอาผิดทางวินัยต่อตำรวจบางนายที่ข่มขู่ให้ผู้ต้องหารับสารภาพในชั้นสอบสวน ที่ลานศิลปวัฒนธรรม อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (19 ก.ย.) นั้น
ปรากฏว่า ไม่มีหน่วยงานใดออกมารับขอแถลงการณ์ดังกล่าว ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงทยอยมารวมตัวกันกว่า 1,000 คน และได้เคลื่อนขบวนออกจากบริเวณดังกล่าวไปรอบเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ก่อนที่จะเข้ามายังสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี เพื่อยืนหนังสือแถลงการณ์ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง
โดย พ.ต.อ.จิรวัฒน์ อุดมสุด รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เป็นผู้รับหนังสือแถลงการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่า บริเวณพื้นที่อ่าวปัตตานีเป็นพื้นที่สาธารณะทุกคนมีสิทธ์ที่จะเข้าไปการประมงในบริเวณดังกล่าว แต่การที่เข้าไปจับกุมชาวประมงพื้นบ้านทั้ง 3 ราย นั้น เนื่องจากมีการเข้ามาแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องทำตามหน้าที่ แต่ทั้งนี้ ตนรับปากว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน
ต่อมา ผู้ประท้วงจึงได้เคลื่อนขบวนต่อไปยังที่ทำการอัยการจังหวัดปัตตานี ก่อนบุกรั้วเข้าไปรวมตัวกันหน้าสำนักงาน เพื่อขอเข้าพบกับอัยการจังหวัดปัตตานี แต่เนื่องจากอัยการจังหวัดปัตตานีติดราชการที่กรุงเทพฯ ทำให้กลุ่มประท้วงเกิดความไม่พอใจ ส่งเสียงตะโกนให้ผู้ที่มีอำนาจเข้ามาเจรจาเรื่องดังกล่าว โดย นายอำนวย ยศสมบัติ อัยการคนที่ 1 รักษาราชการแทน ได้เข้ามาร่วมเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วง และรับหนังสือแถลงการณ์ พร้อมทั้งประทับตรารับรองว่าจะให้ความสำคัญและความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด
จานั้นตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านได้ยื่นหนังสือเรียกร้อง 6 ข้อ ดังนี้
1.ให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมกันหลายฝ่ายในการสอบสวนคดี ไม่ควรมอบหมายให้พนักงานสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนฝ่ายเดียวโดยลำพัง
2.ให้อัยการจังหวัดชี้แจงกรณีการยื่นฟ้องประมงพื้นบ้านรายต่อไปให้สาธารณะชนทราบ
3.ให้พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี เร่งดำเนินเอาผิดกับนายทุนผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงในข้อหาบุกรุกที่สาธารณะในอ่าวปัตตานีอย่างจริงจัง
4.ให้พนักงานอัยการทบทวนการดำเนินคดีกับชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับชาวประมงโดยเร็วที่สุด
5.ให้พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี แสดงจุดยืนในการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำในอ่าวปัตตานีร่วมกับชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในการปกป้องและดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำให้อยู่คู่กับประเทศไทยสืบไป
6.ไม่ดำเนินคดีเอาผิดกับชาวประมงพื้นบ้านหรือกับผู้ที่ออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ด้วย
ในช่วงที่มีการชี้แจงของรองอัยการจังหวัดนั้น ได้มีตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้านสอบถามปัญหาความไม่ชอบธรรมในเรื่องขั้นตอนของการดำเนินคดี และได้เรียกร้องให้นำเจ้าพนักงานอัยการที่มีความเห็นสั่งฟ้องออกมาชี้แจงต่อหน้าตัวแทนกลุ่มเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน แต่ทางอัยการกล่าวปฏิเสธ ไม่สามารถนำเจ้าพนักงานดังกล่าวมาชี้แจงได้ กลุ่มผู้ประท้วงจึงแสดงอารมณ์ไม่พอใจ ส่งเสียงโห่ร้อง ทำให้บรรยากาศเริ่มเครียดมากขึ้น
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงได้แสดงเจตจำนง ว่า หากไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจ ก็จะไม่สลายการชุมนุมอย่างเด็ดขาด และจะนำกำลังคนเข้ามาร่วมขบวนเพิ่มอีกจำนวนมาก และในขณะที่รายงานข่าวอยู่นี้ ทางกลุ่มผู้ประท้วงก็ยังคงอยู่ภายในบริเวณสำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี