ปัตตานี - ชาวประมงพื้นบ้านเตรียมปรึกษาสภาทวายความเพื่อฟ้องนายทุนบุกรุกและจับจองพื้นที่สาธารณะในอ่าวปัตตานี หลังจากที่มีการพิพาทอย่างยืดเยื้อ และแจ้งความจับชาวบ้านที่เข้าไปเก็บหอยแครง จนกระทั่งได้ข้าราชการมาใช้ตำแหน่งช่วยประกันตัวชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ
วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีสั่งฟ้อง 3 ชาวประมงพื้นบ้านในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หอยแครง ตามที่นายทุนกล่าวหาในชั้นสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี แต่ศาลแขวงปัตตานีอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 50,000 บาทต่อราย
หลังจากนั้นทางกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านได้มีการประชุมหารือ เพื่อเตรียมยื่นหนังสือให้ทางประมงจังหวัด และการขนส่งทางน้ำเขต 4 สาขาปัตตานี (เจ้าท่า) เพื่อให้มีการดำเนินคดีเอาผิดกับนายทุนหรือผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครง ที่มีการจับจองและครอบครองพื้นที่สาธารณะในอ่าวปัตตานีโดยอ้างเป็นเจ้าของ ก่อนที่กลุ่มประมงพื้นบ้านจะร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องศาลเพื่อให้มีการบังคับใช้กฎหมายขับไล่ และดำเนินตามกฎหมายกับนายทุนที่บุกรุกพื้นที่สาธารณะดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือข้อกฎหมายกับศูนย์ทนายความมุสลิมชายแดนใต้
ในขณะเดียว นายมุกตาร์ สาแม ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านในรอบอ่าวปัตตานีได้กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.)ที่ศาลจังหวัดปัตตานีนายพรเทพ สมวงค์ นางสาวรัตติยา หลีสอ พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีได้เป็นโจทก์ฟ้องนายเจะมือดา แวหามะ อายุ 58 ปี นายกอเดร์ สาแม อายุ 54 ปี และนายสมาน โต๊ะเร็ง อายุ 57 ปี เป็นชาวประมงพื้นบ้านบ้านแหลมนก ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ในข้อร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น
พนักงานอัยการได้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม 2553 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสามได้บังอาจร่วมกันลักทรัพย์หอยแครง จำนวน 40 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 27 บาท รวมเป็นเงิน 1,080 บาท ของนายประกิจ แซ่ตัน แต่บุคคลทั้งสามให้การปฏิเสธในชั้นศาลและขอสู้คดี ศาลปัตตานีจึงได้เมตตาให้ประกันตัวในวงเงินรายละ 50,000 บาท เนื่องจากบุคคลทั้งสามเป็นชาวประมงพื้นบ้านที่ยากจน หาเช้ากินค่ำ จึงไม่มีหลักทรัพย์ที่จะใช้ยื่นประกันตัว จึงต้องนำตัวไปที่ห้องขังชั่วคราวของศาล แต่โชคดีที่มีนายสุนันท์ หลีเจริญ ประมงอำเภอเมืองปัตตานี ได้ใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัวบุคคลทั้งสามเป็นอิสระและศาลได้นัดให้ทั้งสามมาศาลอีกครั้งภายในวันที่ 26 กันยายนนี้
ในวันนี้ เวลา13.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทั้งสามได้รับโอกาสปล่อยตัวเป็นอิสระอีกครั้ง ทำให้ทั้งสามเข้ามากอดคอกับประมงอำเภอเพื่อแสดงคำขอบคุณที่กรุณาใช้ตำแหน่งประกันตัวในครั้งนี้
นายสมาน โต๊ะเร็ง กล่าวว่าการเดินทางมาศาลในครั้งนี้ ทั้งสามไม่รู้มาก่อนว่าวันนี้ต้องมาศาลจึงไม่ได้เตรียมเอกสารหรือหลักทรัพย์เพื่อใช้ในการประกันตัว เพราะได้ออกจากบ้านทั้งแต่เช้า เพื่อไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี มาเซ็นชื่อเดือนละครั้งหลังจากถูกเป็นผู้ต้องหา แต่เมื่อมาถึงที่สำนักงานอัยการกลับถูกส่งตัวมาที่ศาลปัตตานี เพราะพนักงานอัยการจังหวัดได้ยื่นฟ้องศาลภายในวันนี้ จึงรู้สึกตกใจและหวั่นวิตกเป็นอย่างมาก ทำให้รู้สึกว่าความเป็นธรรมมันหายไปไหน สำหรับเราประชาชนที่ยากจน จึงอยากให้ทุกฝ่ายควรคำนึงความเป็นธรรมให้กับพวกเราที่หาเช้ากินค่ำ และจะขอยืนยัดสู้คดีถึงสิ้นสุด เพราะในชั้นสอบสวนที่ต้องยอมรับสารภาพนั้น เพราะถูกเจ้าหน้าที่บางคนร่วมมือกับนายทุนบังคับให้ยอมรับสารภาพ
นายสมาน ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงที่ถูกควบคุมตัวที่ศาลปัตตานีได้มีคนแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ 2 คน พยามเข้ามาโน้มน้าวหลายครั้งเพื่อให้ทั้งสามรับสารภาพว่า ได้กระทำผิดจริง เพราะจะทำให้คดีนั้นจบง่ายเพียงแค่ปรับพันกว่าบาท แต่ถ้าไม่รับสารภาพคดีนั้นมันจะหนัก แต่ก็ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะไม่ได้ทำผิดจริง
วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีสั่งฟ้อง 3 ชาวประมงพื้นบ้านในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หอยแครง ตามที่นายทุนกล่าวหาในชั้นสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี แต่ศาลแขวงปัตตานีอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 50,000 บาทต่อราย
หลังจากนั้นทางกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านได้มีการประชุมหารือ เพื่อเตรียมยื่นหนังสือให้ทางประมงจังหวัด และการขนส่งทางน้ำเขต 4 สาขาปัตตานี (เจ้าท่า) เพื่อให้มีการดำเนินคดีเอาผิดกับนายทุนหรือผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครง ที่มีการจับจองและครอบครองพื้นที่สาธารณะในอ่าวปัตตานีโดยอ้างเป็นเจ้าของ ก่อนที่กลุ่มประมงพื้นบ้านจะร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องศาลเพื่อให้มีการบังคับใช้กฎหมายขับไล่ และดำเนินตามกฎหมายกับนายทุนที่บุกรุกพื้นที่สาธารณะดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือข้อกฎหมายกับศูนย์ทนายความมุสลิมชายแดนใต้
ในขณะเดียว นายมุกตาร์ สาแม ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านในรอบอ่าวปัตตานีได้กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.)ที่ศาลจังหวัดปัตตานีนายพรเทพ สมวงค์ นางสาวรัตติยา หลีสอ พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีได้เป็นโจทก์ฟ้องนายเจะมือดา แวหามะ อายุ 58 ปี นายกอเดร์ สาแม อายุ 54 ปี และนายสมาน โต๊ะเร็ง อายุ 57 ปี เป็นชาวประมงพื้นบ้านบ้านแหลมนก ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ในข้อร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น
พนักงานอัยการได้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม 2553 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสามได้บังอาจร่วมกันลักทรัพย์หอยแครง จำนวน 40 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 27 บาท รวมเป็นเงิน 1,080 บาท ของนายประกิจ แซ่ตัน แต่บุคคลทั้งสามให้การปฏิเสธในชั้นศาลและขอสู้คดี ศาลปัตตานีจึงได้เมตตาให้ประกันตัวในวงเงินรายละ 50,000 บาท เนื่องจากบุคคลทั้งสามเป็นชาวประมงพื้นบ้านที่ยากจน หาเช้ากินค่ำ จึงไม่มีหลักทรัพย์ที่จะใช้ยื่นประกันตัว จึงต้องนำตัวไปที่ห้องขังชั่วคราวของศาล แต่โชคดีที่มีนายสุนันท์ หลีเจริญ ประมงอำเภอเมืองปัตตานี ได้ใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัวบุคคลทั้งสามเป็นอิสระและศาลได้นัดให้ทั้งสามมาศาลอีกครั้งภายในวันที่ 26 กันยายนนี้
ในวันนี้ เวลา13.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทั้งสามได้รับโอกาสปล่อยตัวเป็นอิสระอีกครั้ง ทำให้ทั้งสามเข้ามากอดคอกับประมงอำเภอเพื่อแสดงคำขอบคุณที่กรุณาใช้ตำแหน่งประกันตัวในครั้งนี้
นายสมาน โต๊ะเร็ง กล่าวว่าการเดินทางมาศาลในครั้งนี้ ทั้งสามไม่รู้มาก่อนว่าวันนี้ต้องมาศาลจึงไม่ได้เตรียมเอกสารหรือหลักทรัพย์เพื่อใช้ในการประกันตัว เพราะได้ออกจากบ้านทั้งแต่เช้า เพื่อไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี มาเซ็นชื่อเดือนละครั้งหลังจากถูกเป็นผู้ต้องหา แต่เมื่อมาถึงที่สำนักงานอัยการกลับถูกส่งตัวมาที่ศาลปัตตานี เพราะพนักงานอัยการจังหวัดได้ยื่นฟ้องศาลภายในวันนี้ จึงรู้สึกตกใจและหวั่นวิตกเป็นอย่างมาก ทำให้รู้สึกว่าความเป็นธรรมมันหายไปไหน สำหรับเราประชาชนที่ยากจน จึงอยากให้ทุกฝ่ายควรคำนึงความเป็นธรรมให้กับพวกเราที่หาเช้ากินค่ำ และจะขอยืนยัดสู้คดีถึงสิ้นสุด เพราะในชั้นสอบสวนที่ต้องยอมรับสารภาพนั้น เพราะถูกเจ้าหน้าที่บางคนร่วมมือกับนายทุนบังคับให้ยอมรับสารภาพ
นายสมาน ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงที่ถูกควบคุมตัวที่ศาลปัตตานีได้มีคนแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ 2 คน พยามเข้ามาโน้มน้าวหลายครั้งเพื่อให้ทั้งสามรับสารภาพว่า ได้กระทำผิดจริง เพราะจะทำให้คดีนั้นจบง่ายเพียงแค่ปรับพันกว่าบาท แต่ถ้าไม่รับสารภาพคดีนั้นมันจะหนัก แต่ก็ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะไม่ได้ทำผิดจริง
