xs
xsm
sm
md
lg

ยะลาเตรียมเรียกครูกลุ่มเสี่ยงช่วยราชการที่ สนง.ป้องกันเหตุร้ายซ้ำสอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยะลา - ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 1 เตรียมเรียกครูกลุ่มเสี่ยงมาช่วยราชการสำนักงาน เพื่อป้องกันเหตุร้ายซ้ำสองกับครู ในขณะที่ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 กำชับให้ ผบ.ฉก.ปิดจุดบกพร่องไม่ให้เกิดขึ้นอีก

บรรยากาศการจัดนิทรรศการของกลุ่มดงตาล ซึ่งเป็นกลุ่มของโรงเรียนบ้านกือเม็ง ที่คุณครูคณิต ลำนุ้ย เสียชีวิตจากการถูกคนร้ายยิงและเผาเมื่อวานนี้ สังกัดในงานมหกรรมวิชาการการศึกษาพื้นฐาน ยะลายาลัน มหัศจรรย์ชายแดนใต้ ภายในบริเวณสนามของโรงเรียนนิบงชนูปถัมภ์ อ.เมืองยะลา ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 1 จัดขึ้น ในวันนี้ (7 ก.ย.) เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ต่างจากกลุ่มอื่นๆ ที่มีความคึกคักเป็นพิเศษ มีครูและนักเรียนเฝ้าบูธ การจัดนิทรรศการจำนวนมาก เนื่องจากครูในกลุ่มได้เดินทางไปร่วมพิธีศพของครูคณิต ลำนุ้ย ที่วัดสุนทรประชาราม ในเขตเทศบาลตำบลเมืองรามันห์ ส่วนเด็กๆ ก็อยู่ในสภาพที่มีความโศกเศร้าของการจากไปของครูที่เขารัก

นายประสิทธิ์ หนูกุ้ง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 กล่าวว่า บรรยากาศของครอบครัวเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากมีพ่อแม่ที่ชราภาพมากลัว และครูคณิตยังเป็นเสาหลักของครอบครัวและยังไม่มีครอบครัว สำหรับครูคณิตนั้นจากการรายงานของของผู้บริหารโรงเรียนทราบว่าเป็นครูที่มีความตั้งใจในการปฏิบัติงานสูงมาก อย่างในวันที่เกิดเหตุซึ่งเป็นวันหยุด แต่ครูคณิต ยังเป็นห่วงนักเรียนที่จะนำมาประกวดทักษะทางวิชาการในงาน ต้องไปรับนักเรียนมาซักซ้อมความพร้อมก่อนการประกวด จนมาเกิดเหตุถูกคนร้ายดักยิงจนเสียชีวิตหลังจากส่งนักเรียนกลับบ้านแล้ว ซึ่งถือเป็นบทเรียนของครู ที่ต้องเดินทางนอกเวลาที่หน่วยกำลังกำหนด โดยเฉพาะบรรดาครูที่มีความเชื่อมั่นว่าตัวเองเป็นคนในพื้นที่อาจประสบเหตุร้ายได้ ซึ่งตนได้กำชับครูมาโดยตลอดโดยเฉพาะในช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่มีเกิดเหตุการณ์บ่อยครั้ง ให้มีความระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งได้ย้ำเตือนให้กับผู้บริหารมาแล้ว โดยเน้นอย่าประมาทอย่างเด็ดขาด ส่วนการเยียวยาครอบครัวนั้น รัฐบาลคงดูแลเหมือนกับครูรายอื่นๆ ส่วนทางจังหวัดนั้น ได้ดูแลอย่างเต็มที่

ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 ยะลา กล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ ตนได้เชิญหัวหน้ากลุ่มต่างๆ ในพื้นที่เขต 1 มาร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการและหาจุดช่องว่างของการดูแลความปลอดภัย ในเบื้องต้น ตนให้ผู้บริหารสำรวจครูกลุ่มเสี่ยง ที่เป็นชายและเป็นไทยพุทธ ในพื้นที่ ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน หากพบว่ามีความเสี่ยงสูง ตนจะได้ออกคำสั่งให้มาช่วยราชการที่เขตพื้นที่เป็นการชั่วคราวก่อน

สำหรับครูคณิต ลำนุ้ย ที่เสียชีวิตนั้น เป็นคนโสด ยังไม่มีภรรยาและลูก เป็นชาวอำเภอรามัน อยู่บ้านเลขที่ 3/3 หมู่ที่ 6 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เอกภาษาอังกฤษ เมื่อปี 2545 จากมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และบรรจุเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นครูอัตราจ้าง และบรรจุเป็นครูพนักงานราชการในปี 2547 เป็นต้นมา เป็นครูที่ทุ่มเทการสอนนักเรียนมาก ทำให้ได้รับการคัดเลือกจากท้องถิ่นให้เป็นครูสอนดีในระดับจังหวัดปี 2554 ด้วย

ด้านพล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า / โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า การใช้กำลังของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในขณะนี้ มาตรการเชิงรับในการดูแลรักษาความปลอดภัย บุคลากรครู และ บุคลากรทางการศึกษา มีการใช้กำลังทหารหลัก ทหารพราน ฝ่ายตำรวจภูธร ตำรวจ ตชด. และฝ่ายปกครอง รวมถึงกองกำลังภาคประชาชน ในการจัดสรรว่าพื้นที่ไหน จะมีการใช้กำลังอย่างไร ก็จะมีข้อตกลงระหว่างกำลัง 3 ฝ่าย ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นพื้นที่ป่าเขา ก็จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน หากเป็นพื้นที่ชนบท นอกเขตเทศบาล ก็จะใช้เจ้าหน้าที่ทหารหลัก หากเป็นเขตเทศบาลจะใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกำลังฝ่ายปกครองเป็นหลัก เพราะฉะนั้นการดูแลรักษาให้พื้นที่เกิดความปลอดภัยนั้น ก็จะปฏิบัติตามข้อตกลงในส่วนนั้น

ส่วนจุดไหนที่มีความเสี่ยง เป็นจุดที่ประชาชนมีความห่วงใย หรือ มีการแจ้งเบาะแส ถึงความไม่ปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่ ทาง แม่ทัพภาคที่ 4 จะไปกำชับกับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 2 ตัว ในแต่ละพื้นที่ ว่ามีจุดไหนบ้างที่ยังเป็นจุดบกพร่อง ซึ่งก็มีเพียงไม่กี่จุดที่ยังเป็นปัญหา สำหรับในพื้นที่ของ จ.ยะลา มีพื้นที่ อ.รามัน บางส่วนของ อ.ยะหา อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต ทาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ก็ได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาตามจุดบกพร่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐมีความเสียเปรียบต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เพราะอยู่ในที่แจ้ง และ ต้องรักษากฎหมาย ส่วนผู้ก่อเหตุรุนแรงอยู่ในที่มืด และไม่รักษากฎกติกา ไม่มีการใช้กฎหมาย จะทำอะไร เมื่อไหร่ ที่ไหนก็ได้ เพราะฉะนั้น ก็ต้องใช้กำลังของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ช่วยสะกิด และ ช่วยแจ้งเหตุต่างๆ ต่อเจ้าหน้าที่ ส่วนพื้นที่ไหน ที่มีพี่น้องประชาชนเกิดความตื่นตัว จะสังเกตได้ว่าผู้ก่อเหตุรุนแรงจะไม่สามารถแทรกซึมเข้าได้

สำหรับในพื้นที่ของ อ.รามัน บางตำบลยังคงเป็นพื้นที่ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง มีอิทธิผลอยู่ ประชาชนเห็นความเคลื่อนไหว แต่ไม่สามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ได้ เพราะยังมีกลุ่มแนวร่วมเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของประชาชนในพื้นที่อยู่ ถ้ามีประชาชนคนหนึ่งคนใด ได้แสดงอาการเข้าข้างทางเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเกิดอันตราย ซึ่งก็ต้องมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารเองก็มีการปฏิบัติหน้าที่ทั้งกลางวันและกลางคืน

สำหรับช่วงที่เป็นเทศกาลฮารีรายอ ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ โรงเรียนส่วนใหญ่ จะหยุดทำการเรียนการสอน ทางเจ้าหน้าที่ก็จะลดระดับกำลังลง เพราะฉะนั้นก็อาจจะเป็นช่องว่างให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงออกมาเคลื่อนไหวหรือปรากฏตัว อาจจะมีการลอบวางระเบิด ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ก็สามารถทำการเก็บกู้ได้ทัน มีการลอบทำร้ายประชาชน หรือ แม้กระทั่งการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ในอนาคต ทาง พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้นโยบายชัดเจน ในการเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็น 1 ในมาตรการ 6 ยุทธศาสตร์ ที่ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้เน้นย้ำในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน

นอกจากจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายในการดูแลรักษาความปลอดภัย แล้ว มีการใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยอีกทางหนึ่ง คือ การใช้กล้องวงจรปิด หรือ การเฝ้าตรวจทางอากาศ รวมทั้งมีการลาดตระเวนด้วยยานพาหนะ นอกเหนือไปจากการไปรับครูในตอนเช้า และ ไปส่งครูในตอนเย็น ซึ่งก่อนที่จะไปดูแลรักษาความปลอดภัยครูนั้น กำลังเจ้าหน้าที่บางส่วนก็ต้องไปดูแลรักษาความปลอดภัยแก่พระภิกษุสงฆ์ ในการออกบิณฑบาต และ ทำภารกิจในส่วนอื่นๆ เช่น ดูแลรักษาความปลอดภัยตามชุมชนหรือแม้แต่ตลาดนัด ความเป็นไปได้ที่จะดูแลรักษาความปลอดภัยเส้นทางอย่างถาวรนั้น คือความตื่นตัวของพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นการขยายงานมวลชนก็ดี การดูแลเรื่องยาเสพติดก็ดี ก็สามารถที่จะทำให้บรรยากาศ หรือโอกาสของการก่อเหตุร้าย เหตุรุนแรงต่าง ๆ จะลดระดับลงโดยปริยาย และจะต้องทำคู่ขนานกับการปฏิบัติทางทหาร

ส่วนความคืบหน้าทางคดี กรณีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 4 คน ติดตามใช้อาวุธปืนจ่อยิงนายคนิต ลำนุ้ย อายุ 38 ปี ครู ร.ร.บ้านกือเม็ง พวกคนร้ายได้ใช้น้ำมันเบนซินราดแล้วจุดไปเผา เป็นเหตุให้นายคณิตเสียชีวิต เหตุเกิดขณะขับขี่ จยย.เดินทางออกจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้านตามลำเพียงบนถนนสายรามัน-มายอ บ้านสะโต หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 6 ก.ย.นี้นั้น พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือของพวกอาร์เคเค.กลุ่มนายอับดุลรอฮิง ดาอีซอ ที่มีอิทธิพลและเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ต.อาซ่องและใกล้เคียง เป็นผู้วางแผนลงมือก่อเหตุ

เนื่องจากครูคณิต ลำนุ้ย เป็นครูชาวไทยพุทธเพียงคนเดียวในจำนวนครู 120 คน ใน ต.อาซ่อง ที่มีโรงเรียนอยู่ทั้งหมดจำนวน 4 โรง คือ ร.ร.บ้านตะโละสะดาร์ หมู่ 1 ร.ร.บ้านสะโต หมู่ 5 ร.ร.บ้านบูเกะบือราแง หมู่ 3 และ ร.ร.บ้านกือเม็ง หมู่ 2 เชื่อว่าคนร้ายมีความประสงค์และเป้าหมายตามล่าชีวิตครูคณิตที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อย่างชัดเจน โดยได้เฝ้าติดตามดูการเคลื่อนไหวแล้วถือโอกาสช่วงที่ครูคนิตขับขี่ จยย.กลับบ้านพักเพียงลำพัง

ส่วนอาวุธปืนที่ใช้พบว่า เป็นอาวุธปืนขนาด .38 โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หัวกระสุนปืนมาจากการผ่าตัดศพจากตำแหน่งบริเวณใต้ คาง ซึ่งบาดแผลจากรอยคมกระสุนปืนทั้งหมดตรวจสอบโดยละเอียดในเวลาต่อมาพบว่ามี จำนวน 3 แห่งคือ ท้ายทอย ใต้คางและกลางหลัง หัวกระสุนดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนจะส่งไปให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบว่าอาวุธปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุเคยเกี่ยวข้องกับคดีใดมาบ้างต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น