ศูนย์ข่าวภูเก็ต -อบจ.ภูเก็ตทำประชาพิจารณ์ ขอความเห็นย้ายหน่วยบริการด้านสุขภาพ จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มาเป็นหน่วยบริการโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) กล่าวถึงผลการจัดทำทำประชาพิจารณ์ การโอนย้ายหน่วยบริการประจำของประชาชน หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เรื่องการเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการประจำ เป็นโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งผลปรากฏว่ามีมติเห็นชอบให้โอนย้ายหน่วยบริการประจำของประชาชนดังกล่าวมายังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต และมีผู้ที่ไม่ประสงค์จะโอนย้ายจากหน่วยบริการประจำ 1 ราย
เหตุที่ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ เนื่องจาก อบจ.ภูเก็ต ต้องการจะให้ประชาชนได้รับการบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพมาตรฐาน ตามโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งจากมติของผู้บริหารงานสาธารณสุขระดับจังหวัด เทศบาลนครภูเก็ต เทศบาลตำบลรัษฎา และโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในจังหวัดภูเก็ต ได้เห็นชอบให้โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต รับผิดชอบให้บริการประชาชนในเขตพื้นที่หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เป็นหลัก จึงจำเป็นต้องโอนสิทธิการเข้ารักษาพยาบาลของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว จากหน่วยบริการประจำเดิม คือ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มายังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต แต่เนื่องจากการเลือกและเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการที่ให้บริการรักษาพยาบาลประจำ เป็นสิทธิตามกฎหมาย หากจะมีการโอนย้ายจะต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนผู้เป็นเจ้าของสิทธิเสียก่อน
ดังนั้น อบจ.ภูเก็ต โดยความเห็นชอบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 11 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดทำประชาพิจารณ์ขึ้น เพื่อขอความเห็นชอบจากผู้นำชุมชนและประชาชนเจ้าของสิทธิ ว่ายินดีที่จะให้โอนย้ายสิทธิการเข้ารักษาพยาบาลจากหน่วยบริการประจำเดิมมายังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ตหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการโอนย้ายฐานข้อมูลทั้งหมู่บ้าน โดยมิต้องมาลงทะเบียนโอนย้ายเป็นรายคน ที่จะทำให้เกิดความล่าช้าและเสียเวลาในการประกอบอาชีพของประชาชนทั้งหลาย
ทั้งนี้ เพื่อให้โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต สามารถเปิดให้บริการพี่น้องประชาชนตามโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2554
นายไพบูลย์กล่าวด้วยว่า อบจ.ภูเก็ต เปิดดำเนินการโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต โดยให้บริการผู้ป่วยนอกตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2554 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อแบ่งเบาภาระโรงพยาบาลของรัฐในจังหวัดภูเก็ต และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนด้านการให้บริการสาธารณสุข เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลของโรงพยาบาลรัฐมีไม่เพียงพอ อีกทั้งเตียงคนไข้มีจำนวนจำกัด
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) กล่าวถึงผลการจัดทำทำประชาพิจารณ์ การโอนย้ายหน่วยบริการประจำของประชาชน หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เรื่องการเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการประจำ เป็นโรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ซึ่งผลปรากฏว่ามีมติเห็นชอบให้โอนย้ายหน่วยบริการประจำของประชาชนดังกล่าวมายังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต และมีผู้ที่ไม่ประสงค์จะโอนย้ายจากหน่วยบริการประจำ 1 ราย
เหตุที่ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ เนื่องจาก อบจ.ภูเก็ต ต้องการจะให้ประชาชนได้รับการบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพมาตรฐาน ตามโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งจากมติของผู้บริหารงานสาธารณสุขระดับจังหวัด เทศบาลนครภูเก็ต เทศบาลตำบลรัษฎา และโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในจังหวัดภูเก็ต ได้เห็นชอบให้โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต รับผิดชอบให้บริการประชาชนในเขตพื้นที่หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต เป็นหลัก จึงจำเป็นต้องโอนสิทธิการเข้ารักษาพยาบาลของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว จากหน่วยบริการประจำเดิม คือ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มายังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต แต่เนื่องจากการเลือกและเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการที่ให้บริการรักษาพยาบาลประจำ เป็นสิทธิตามกฎหมาย หากจะมีการโอนย้ายจะต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนผู้เป็นเจ้าของสิทธิเสียก่อน
ดังนั้น อบจ.ภูเก็ต โดยความเห็นชอบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 11 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดทำประชาพิจารณ์ขึ้น เพื่อขอความเห็นชอบจากผู้นำชุมชนและประชาชนเจ้าของสิทธิ ว่ายินดีที่จะให้โอนย้ายสิทธิการเข้ารักษาพยาบาลจากหน่วยบริการประจำเดิมมายังโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ตหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการโอนย้ายฐานข้อมูลทั้งหมู่บ้าน โดยมิต้องมาลงทะเบียนโอนย้ายเป็นรายคน ที่จะทำให้เกิดความล่าช้าและเสียเวลาในการประกอบอาชีพของประชาชนทั้งหลาย
ทั้งนี้ เพื่อให้โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต สามารถเปิดให้บริการพี่น้องประชาชนตามโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2554
นายไพบูลย์กล่าวด้วยว่า อบจ.ภูเก็ต เปิดดำเนินการโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต โดยให้บริการผู้ป่วยนอกตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2554 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อแบ่งเบาภาระโรงพยาบาลของรัฐในจังหวัดภูเก็ต และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนด้านการให้บริการสาธารณสุข เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลของโรงพยาบาลรัฐมีไม่เพียงพอ อีกทั้งเตียงคนไข้มีจำนวนจำกัด
