xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ภูธรตรังจับ ตร.นครบาลแก๊งรีดเงิน 1.4 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - พ่อค้าตัวนิ่มชาวตรังถูกตำรวจนครบาลบุกจับขู่รีดเงิน 1.4 ล้านแลกอิสรภาพ ด้านเหยื่อซ้อนแผนแจ้งตำรวจภูธรรวบยกแก๊ง 4 คน ขณะที่ ตร.และพวกรวม 2 คนหลบหนีไปได้

วันนี้ (4 ก.ย.) เมื่อเวลา 00.20 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ต.เอกพงษ์ ทั่งจันทร์แดง สว.สส.สภ.เมืองตรัง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม ด.ต.พงษ์ศักดิ์ คุ้มยิ้ม อายุ 39 ปี ผบ.หมู่งาน ป.สน.ธรรมศาลา กทม. นายศักดิ์ชัย ชาตรี อายุ 42 ปี ตำรวจชุมชน อ.ทุ่งสง อยู่บ้านเลขที่ 365 ถ.ประชาอุทิศ ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นายกวีวัฒน์ นักคุ่ย อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 5 ต.หัวโพ อ.บางแพ จ.ราชบุรี นายนิพนธ์ นะมะณี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151/27 หมู่ 12 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ ขนาด.38 กระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 5 นัด กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 4 นัด และเงินสดจำนวน 300,000 บาท

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก น.ส.ดวงนภา มะนะโส ว่านายวิโรจน์ เลือดทหาร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/20 หมู่ที่ 4 ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง สามีของตน ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 6 คนบุกรุกเข้าไปภายในบริเวณบ้านและอ้างว่าเป็นตำรวจกองปราบปราม โดยไม่ได้แสดงบัตรประจำตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแต่อย่างใด พร้อมข่มขู่ว่าจะเข้าทำการจับกุมตัวนิ่มซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว และหากจับกุมแล้วจะนำตัวพร้อมของกลางไปแถลงข่าวที่กรุงเทพฯ แต่หากนายวิโรจน์ยินยอมจ่ายเงินให้จำนวน 1,400,000 บาท จะไม่ทำการจับกุมตัว และจะไม่ตรวจยึดของกลางนำส่งดำเนินคดี จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้บังคับพาตัวนายวิโรจน์ออกมาจากบ้านเพื่อไปทำการเบิกถอนเงิน เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวจึงได้วางแผนจับกุม โดยได้ติดตามกลุ่มชายดังกล่าวซึ่งได้รับแจ้งจาก น.ส.ดวงนภา ว่าได้ใช้รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีขาว ทะเบียนสีแดง จ.สมุทรปราการ เป็นยานพาหนะ และได้บังคับพาตัวนายวิโรจน์ไปเบิกถอนเงินที่ห้างโรบินสัน สาขาตรัง แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ห้างยังไม่เปิดทำการ กลุ่มชายดังกล่าวจึงได้พาตัวนายวิโรจน์ไปที่ร้านต้นนุ่น สาขา 2 ถ.พัทลุง ซึ่งเมื่อติดตามไปก็พบว่ารถคันดังกล่าวได้จอดอยู่บริเวณหน้าร้าน

จนกระทั่งเวลา 10.00 น. ได้มีชายฉกรรจ์จำนวน 2 คนพาผู้เสียหายไปที่ห้างโรบินสัน สาขาตรังอีกครั้งเพื่อทำการถอนเงิน แต่ไม่ได้ถอนเงินแต่อย่างใด และได้เปลี่ยนสถานที่ถอนเงินเป็นธนาคารกรุงเทพ สาขาห้างเทสโก้โลตัส จ.ตรัง แทน โดยมีการต่อรองจาก 1,400,000 บาท เหลือ 800,000 บาท และเบื้องต้นให้ผู้เสียหายเบิกเงินสดให้ก่อน 300,000 บาท ซึ่งเมื่อผู้เสียหายเบิกเงินสดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตกลงวางแผนกับผู้เสียหายให้นัดกลุ่มชายดังกล่าวมารับเงินที่บริเวณหน้าร้านเอ็มเคสุกี้ภายในห้าง จนสามารถจับกุมนายศักดิ์ชัยได้พร้อมกับเงินสดจำนวน 300,000 บาท

ต่อมาได้ขยายผลเข้าจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือที่บ้านผู้เสียหายเลขที่ 97/2 หมู่ 10 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง และเมื่อมาถึงปากทางเข้าบ้านของผู้เสียหาย ได้พบรถกระบะมีท่าทางพิรุธขับออกมาจึงได้เรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้น ทราบชื่อคือ นายสัมฤทธิ์ เลือดทหาร ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้เสียหาย ขณะกำลังถูก ด.ต.พงษ์ศักดิ์ นายกวีวัฒน์ และนายนิพนธ์ บังคับให้ไปส่งที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จึงจับกุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ ในระหว่างตรวจค้น จ.ส.ต.อดุลย์ กัลยาประสิทธิ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.แห่งหนึ่งในภาคใต้ และนายพิสูตร อินทรสุวรรณ ได้หลบหนีไปพร้อมกับรถกระบะคันดังกล่าว ทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวน ด.ต.พงษ์ศักดิ์ให้การปฏิเสธว่า ตนไม่ได้กรรโชกทรัพย์ตามที่ผู้เสียหายกล่าวหา แต่ยอมรับว่าได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าจะมีขบวนการลักลอบค้าตัวนิ่มนำตัวนิ่ม 400-500 กก.จากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาส่งให้กับผู้เสียหายที่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้ร่วมกับนายศักดิ์ชัย นายกวีวัฒน์ นายนิพนธ์ จ.ส.ต.อดุลย์ และ นายพิสูตร เข้าตรวจค้นและจับกุม แต่ในระหว่างนั้นนายวิโรจน์ ได้ขอเคลียร์จ่ายเงินเพื่อแลกกับการไม่ถูกจับกุม กระทั่งมาถูกนายวิโรจน์หักหลังซ้อนแผนแจ้งตำรวจจับกุมดังกล่าว

ทั้งนี้ ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา ด.ต.พงษศักดิ์ ว่าเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจ หรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็น สำหรับนายกวีวัฒน์ และนายนิพนธ์ถูกแจ้งข้อหาว่าร่วมกันหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ส่วน นายศักดิ์ชัย ถูกแจ้งข้อหาว่าร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวยังได้ร่วมกันจับกุมผู้เสียหายพร้อมของกลางตัวนิ่ม 25 ตัว โดยสารภาพว่าซื้อมาจากพ่อค้าจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในราคา กก.ละ 3,500-4,000 บาท เพื่อนำไปส่งที่ จ.เพชรบูรณ์ แต่เพิ่งทำเป็นครั้งแรก ทางตำรวจจึงแจ้งข้อหาว่า ค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้ฝากเตือนไปยังประชาชนว่า หากมีตำรวจนอกพื้นที่เข้ามาจับกุมคดีในท้องที่ และสงสัยว่าจะมีพฤติกรรมที่กระทำผิดกฎหมาย ก็ขอให้แจ้งมายังตำรวจท้องที่ เพื่อที่จะได้เข้าไปตรวจสอบได้ เพราะถ้าหากเป็นตำรวจจริง เมื่อมีการจับกุมก็จะนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
กำลังโหลดความคิดเห็น