ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กอ.รมน.ส่งทหารลงพื้นที่ชายแดน จ.สงขลา กวดขันขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน กลุ่มผู้ค้าฮึดสู้ดั๊มป์ราคาเบนซินเหลือลิตรละ 27 บาท สู้น้ำมันถูกกฎหมาย
จากการที่สื่อได้เปิดโปงขบวนการการค้าน้ำมันเถื่อนใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการลักลอบนำเข้ามาวันละไม่ต่ำกว่า 3 ล้านลิตร โดยสนับสนุนทางด้านการเงินส่วนหนึ่ง ให้กับขบวนการแบ่งแยกดินแดน และมีเจ้าหน้าที่ 4 ฝ่าย รับส่วยเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผ่านด่านโดยไม่มีการจับกุม และมีนายพลคนหนึ่งอยู่เบื้องหลังรับส่วยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น
หลังจากที่ได้นำเสนอข่าวติดต่อกัน ทำให้ขบวนการค้าน้ำมันในพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งนำน้ำมันเข้ามาทาง อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ อ.แว้ง ต้องหยุดการขนน้ำมันเถื่อนชั่วคราว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร สรรพสามิต และหน่วย ฉก.นราธิวาส กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นตามแหล่งเก็บกักน้ำมัน และรถบรรทุกน้ำมันดัดแปลง เป็นเหตุให้ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ต้องสั่งน้ำมันเถื่อนจาก จ.สงขลา เข้าไปยังพื้นที่ 3 จังหวัด เพื่อส่งขายให้ลูกค้าที่ต้องใช้น้ำมันเถื่อน ทำให้การขนน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านด่านพรมแดน จ.สงขลา เพิ่มจำนวนมากขึ้น
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้สั่งการให้ ฉก.สงขลา ส่งกำลังทหารจำนวนหนึ่ง ลงพื้นที่ด่านพรมแดน อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อสกัดกั้น ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนทางบก ซึ่งหลังจากที่ กลุ่มค้าน้ำมันเถื่อน เห็นกำลังทหารเข้าไปสังเกตการณ์ในบริเวณจุดตรวจศุลกากร กลุ่มนายทุนในพื้นที่ จึงได้สั่งให้รถบรรทุกที่ติดแท็งก์ตั้งแต่ 2,000-3,000 ลิตร หยุดการขนน้ำมันชั่วคราว โดยมีแต่รถยนต์ที่ ไม่ได้ติดตั้งแท็งก์ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นขบวนการกองทัพมด ยังคงเข้าไปขนน้ำมันออกมาได้ ในปริมาณครั้งละ 200-500 ลิตร เพื่อนำมารวมไว้ในโกดัง ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ก่อนที่จะมีรถบรรทุกน้ำมันมารับช่วงไปส่งให้ลูกค้า
นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากเลขาธิการ ศอ.บต. ให้ฝ่ายปกครอง ดำเนินการกวดขัดการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนใน จ.สงขลา แล้ว และได้สั่งการให้ ฝ่ายปกครองที่มีพื้นที่ติดกับพรมแดนประเทศมาเลเซีย ทำการกวดขันการลักลอบ เพราะการค้าน้ำมันเถื่อนเป็นปัญหาใหญ่ของ จ.สงขลามากว่า 2 ปี ชมรมผู้ค้าน้ำมันใน จ.สงขลา ได้ยื่นหนังสือขอให้ทางจังหวัดปราบปรามน้ำมันเถื่อนมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งจังหวัดก็ไม่นิ่งนอนใจ
แต่ยอมรับว่าการปราบปรามไม่ได้ผล เพราะขบวนการผู้ค้าน้ำมันเถื่อน มีวิธีการต่างๆในการลักลอบ โดยเฉพาะมีถนนหลายสาย ที่เป็นเส้นทางขนน้ำมันเถื่อน ส่วนในกรณีที่ มีการร้องเรียนว่า มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มีการเรียกรับเงินจากขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริง
สำหรับในพื้นที่ จ.สตูล ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่ง ที่มีการค้าน้ำมันเถื่อนเป็นจำนวนมาก พล.ต.ต.นราศักดิ์ เชียงสุข ผบก.ภ.จว.สตูล เปิดเผยว่า สตูลเป็นพื้นที่ ซึ่งมีการลักลอบน้ำเข้าน้ำมันเถื่อนจริง และแม้ว่าการค้าน้ำมันเถื่อนใน จ.สตูล จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งเงินสนับสนุนการก่อการร้ายเหมือนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ได้เน้นให้เจ้าหน้าที่จับกุมอย่างต่อเนื่อง เพราะการค้าน้ำมันเถื่อน เป็นการทำให้รัฐสูญเสียภาษี ซึ่งเป็นความผิดทางด้านเศรษฐกิจ
ที่ผ่านมา บกภ.สตูล มีสถิติในการจับกุม โดยสามารถจับกุมได้เกือบทุกวัน แต่สาเหตุที่จับไม่หมด เพราะการค้าน้ำมันเถื่อนมีโทษไม่หนัก พรก.สรรพสามิตมีโทษแค่ปรับและคืนน้ำมันและยานพาหนะให้ผู้ทำผิด และการที่มีกำไรมาก เพราะราคาน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านถูกกว่าบ้านเราลิตรละ 18 บาท เป็นเหตุจูงใจ แต่ขณะนี้ได้สั่งการ สภ.ควนโดน เข้าตรวจสอบการลักลอบค้าน้ำมันที่ชายแดนบ้านวังประจัน ซึ่งเป็นจุดที่มีการลักลอบค้าน้ำมันมากที่สุดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากที่ราคาน้ำมันในประเทศได้ลดราคาลงจาก 42 บาท เป็น 37 บาทต่อลิตร ( เบนซิน) ทำให้ผู้จำหน่ายน้ำมันเถื่อนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลดราคาจำหน่ายน้ำมันเถื่อน จากลิตรละ 30 บาท มาเป็นลิตรละ 27 บาท เพื่อจูงใจให้ผู้ใช้น้ำมัน หันมาใช้บริการน้ำมันเถื่อนต่อไป โดยขณะนี้น้ำมันเถื่อนชนิด เบนซิน 91 ในปั๊มน้ำมันเถื่อนใน 5 จังหวัดยังถูกกว่าน้ำมันที่ถูกต้องตามกฎหมายลิตรละ 9 บาท ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงยังนิยมใช้น้ำมันเถื่อนมากกว่าน้ำมันที่ถูกต้อง
จากการที่สื่อได้เปิดโปงขบวนการการค้าน้ำมันเถื่อนใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการลักลอบนำเข้ามาวันละไม่ต่ำกว่า 3 ล้านลิตร โดยสนับสนุนทางด้านการเงินส่วนหนึ่ง ให้กับขบวนการแบ่งแยกดินแดน และมีเจ้าหน้าที่ 4 ฝ่าย รับส่วยเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผ่านด่านโดยไม่มีการจับกุม และมีนายพลคนหนึ่งอยู่เบื้องหลังรับส่วยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น
หลังจากที่ได้นำเสนอข่าวติดต่อกัน ทำให้ขบวนการค้าน้ำมันในพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งนำน้ำมันเข้ามาทาง อ.สุไหงโก-ลก อ.ตากใบ อ.แว้ง ต้องหยุดการขนน้ำมันเถื่อนชั่วคราว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร สรรพสามิต และหน่วย ฉก.นราธิวาส กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นตามแหล่งเก็บกักน้ำมัน และรถบรรทุกน้ำมันดัดแปลง เป็นเหตุให้ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ต้องสั่งน้ำมันเถื่อนจาก จ.สงขลา เข้าไปยังพื้นที่ 3 จังหวัด เพื่อส่งขายให้ลูกค้าที่ต้องใช้น้ำมันเถื่อน ทำให้การขนน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านด่านพรมแดน จ.สงขลา เพิ่มจำนวนมากขึ้น
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้สั่งการให้ ฉก.สงขลา ส่งกำลังทหารจำนวนหนึ่ง ลงพื้นที่ด่านพรมแดน อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อสกัดกั้น ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนทางบก ซึ่งหลังจากที่ กลุ่มค้าน้ำมันเถื่อน เห็นกำลังทหารเข้าไปสังเกตการณ์ในบริเวณจุดตรวจศุลกากร กลุ่มนายทุนในพื้นที่ จึงได้สั่งให้รถบรรทุกที่ติดแท็งก์ตั้งแต่ 2,000-3,000 ลิตร หยุดการขนน้ำมันชั่วคราว โดยมีแต่รถยนต์ที่ ไม่ได้ติดตั้งแท็งก์ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นขบวนการกองทัพมด ยังคงเข้าไปขนน้ำมันออกมาได้ ในปริมาณครั้งละ 200-500 ลิตร เพื่อนำมารวมไว้ในโกดัง ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ก่อนที่จะมีรถบรรทุกน้ำมันมารับช่วงไปส่งให้ลูกค้า
นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากเลขาธิการ ศอ.บต. ให้ฝ่ายปกครอง ดำเนินการกวดขัดการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนใน จ.สงขลา แล้ว และได้สั่งการให้ ฝ่ายปกครองที่มีพื้นที่ติดกับพรมแดนประเทศมาเลเซีย ทำการกวดขันการลักลอบ เพราะการค้าน้ำมันเถื่อนเป็นปัญหาใหญ่ของ จ.สงขลามากว่า 2 ปี ชมรมผู้ค้าน้ำมันใน จ.สงขลา ได้ยื่นหนังสือขอให้ทางจังหวัดปราบปรามน้ำมันเถื่อนมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งจังหวัดก็ไม่นิ่งนอนใจ
แต่ยอมรับว่าการปราบปรามไม่ได้ผล เพราะขบวนการผู้ค้าน้ำมันเถื่อน มีวิธีการต่างๆในการลักลอบ โดยเฉพาะมีถนนหลายสาย ที่เป็นเส้นทางขนน้ำมันเถื่อน ส่วนในกรณีที่ มีการร้องเรียนว่า มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มีการเรียกรับเงินจากขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริง
สำหรับในพื้นที่ จ.สตูล ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่ง ที่มีการค้าน้ำมันเถื่อนเป็นจำนวนมาก พล.ต.ต.นราศักดิ์ เชียงสุข ผบก.ภ.จว.สตูล เปิดเผยว่า สตูลเป็นพื้นที่ ซึ่งมีการลักลอบน้ำเข้าน้ำมันเถื่อนจริง และแม้ว่าการค้าน้ำมันเถื่อนใน จ.สตูล จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งเงินสนับสนุนการก่อการร้ายเหมือนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ได้เน้นให้เจ้าหน้าที่จับกุมอย่างต่อเนื่อง เพราะการค้าน้ำมันเถื่อน เป็นการทำให้รัฐสูญเสียภาษี ซึ่งเป็นความผิดทางด้านเศรษฐกิจ
ที่ผ่านมา บกภ.สตูล มีสถิติในการจับกุม โดยสามารถจับกุมได้เกือบทุกวัน แต่สาเหตุที่จับไม่หมด เพราะการค้าน้ำมันเถื่อนมีโทษไม่หนัก พรก.สรรพสามิตมีโทษแค่ปรับและคืนน้ำมันและยานพาหนะให้ผู้ทำผิด และการที่มีกำไรมาก เพราะราคาน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านถูกกว่าบ้านเราลิตรละ 18 บาท เป็นเหตุจูงใจ แต่ขณะนี้ได้สั่งการ สภ.ควนโดน เข้าตรวจสอบการลักลอบค้าน้ำมันที่ชายแดนบ้านวังประจัน ซึ่งเป็นจุดที่มีการลักลอบค้าน้ำมันมากที่สุดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากที่ราคาน้ำมันในประเทศได้ลดราคาลงจาก 42 บาท เป็น 37 บาทต่อลิตร ( เบนซิน) ทำให้ผู้จำหน่ายน้ำมันเถื่อนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลดราคาจำหน่ายน้ำมันเถื่อน จากลิตรละ 30 บาท มาเป็นลิตรละ 27 บาท เพื่อจูงใจให้ผู้ใช้น้ำมัน หันมาใช้บริการน้ำมันเถื่อนต่อไป โดยขณะนี้น้ำมันเถื่อนชนิด เบนซิน 91 ในปั๊มน้ำมันเถื่อนใน 5 จังหวัดยังถูกกว่าน้ำมันที่ถูกต้องตามกฎหมายลิตรละ 9 บาท ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงยังนิยมใช้น้ำมันเถื่อนมากกว่าน้ำมันที่ถูกต้อง