ระนอง - สสว.ร่วมหอการค้าระนอง เร่งส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs 16 จังหวัดชายแดน รับการก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และการเปลี่ยนแปลงการค้าโลก พร้อมหาลู่ทางขยายการค้า การลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน
นางสุทธิการ มาสำราญ ผู้อำนวยการสำนักประสานโครงการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ จ.ระนอง เพื่อร่วมการสัมมนาเรื่องพัฒนาศักยภาพ SMEs แบบ 360 องศา ซึ่งทาง สสว.จัดร่วมกับหอการค้าจังหวัดระนองว่า ทาง สสว.ในฐานะที่มีหน้าที่หลักในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs กำลังเร่งเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ SME ในการสร้างความพร้อมเพื่อรับกับการก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนของไทย
โดยล่าสุดได้ร่วมกับ 16 หอการค้าจังหวัดชายแดนจัดทำโครงการเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ในพื้นที่ชายแดนขึ้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความพร้อม และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการสู่เวทีการค้าโลก
สำหรับแนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ในพื้นที่ชายแดน มีแนวทางการส่งเสริมสำคัญ 3 แนวทาง ประกอบด้วย การเร่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคธุรกิจ, การเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการผลิต, การเพิ่มมูลค้าสินค้า และการส่งเสริมการผลิตให้ได้มาตรฐาน แนวทางที่สองการเร่งเสริมสร้างศักยภาพด้านเศรษฐกิจในระดับฐานราก
โดยเน้นการสร้างเครือข่าย, การพัฒนาเครือข่าย หรือคลัสเตอร์ ให้เข้มแข็ง เนื่องจากในอนาคตการแข่งขันจำเป็นจะต้องร่วมกันเป็นเครือข่ายจึงจะสามารถสู้กับคู่แข่งได้, การพัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาการผลิตและสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น แนวทางที่สามสนับสนุนการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ, ช่องทาง และโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะการขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดแนวชายแดนของไทยถือเป็นโอกาส และช่องทางที่ผู้ประกอบการ SMEs สามารถขยายฐานตลาดเข้าไปได้
“ขณะนี้พบว่าผู้ประการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในพื้นที่ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากยังไม่มีการปรับตัวมากนัก ยังทำธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะไม่ส่งผลดีในอนาคตเนื่องจากแม้ว่าจะไม่มีความต้องการที่จะขยายตลาดการค้าออกสู่ต่างประเทศก็จะมีคู่แข่งขันจากต่างประเทศที่มีความพร้อมส่งสินค้าเข้ามาแข่งขันในพื้นที่ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องปรับตัว เช่นเดียวกันหากผู้ประกอบการคนใดมีการปรับตัวและมีความพร้อมก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้กับตนเองในการที่จะได้พบกับคู่ค้ารายใหม่ที่เข้ามา ซึ่งจะเป็นช่องทางสำคัญที่จะสามารถขยายตลาดการค้าออกสู่ต่างประเทศได้เช่นกัน” นางสุทธิการกล่าว
นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดระนองปัจจุบันมีธุรกิจ SMEs ที่มีขึ้นทะเบียนกับ สนง.พาณิชย์จังหวัดระนอง รวม 600 ราย ส่วนที่เป็นสมาชิกของหอการค้ามีจำนวน 80 ราย ซึ่งทางหอการค้ามีการเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 20-21 ก.ย. 2554 นี้ ทางหอการค้าจะนำผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่จำนวน 30 รายไปพบปะพูดคุยและเชื่อมสัมพันธ์ทางการค้ากับผู้ประกอบการของพม่าที่ จ.มะริด เพื่อร่วมพบปะพูดคุยทางการค้า เชื่อมความสัมพันธ์และหาลู่ทางการค้าระหว่างกัน
นางสุทธิการ มาสำราญ ผู้อำนวยการสำนักประสานโครงการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ จ.ระนอง เพื่อร่วมการสัมมนาเรื่องพัฒนาศักยภาพ SMEs แบบ 360 องศา ซึ่งทาง สสว.จัดร่วมกับหอการค้าจังหวัดระนองว่า ทาง สสว.ในฐานะที่มีหน้าที่หลักในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs กำลังเร่งเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ SME ในการสร้างความพร้อมเพื่อรับกับการก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนของไทย
โดยล่าสุดได้ร่วมกับ 16 หอการค้าจังหวัดชายแดนจัดทำโครงการเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ในพื้นที่ชายแดนขึ้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความพร้อม และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการสู่เวทีการค้าโลก
สำหรับแนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ในพื้นที่ชายแดน มีแนวทางการส่งเสริมสำคัญ 3 แนวทาง ประกอบด้วย การเร่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคธุรกิจ, การเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการผลิต, การเพิ่มมูลค้าสินค้า และการส่งเสริมการผลิตให้ได้มาตรฐาน แนวทางที่สองการเร่งเสริมสร้างศักยภาพด้านเศรษฐกิจในระดับฐานราก
โดยเน้นการสร้างเครือข่าย, การพัฒนาเครือข่าย หรือคลัสเตอร์ ให้เข้มแข็ง เนื่องจากในอนาคตการแข่งขันจำเป็นจะต้องร่วมกันเป็นเครือข่ายจึงจะสามารถสู้กับคู่แข่งได้, การพัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาการผลิตและสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น แนวทางที่สามสนับสนุนการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ, ช่องทาง และโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะการขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดแนวชายแดนของไทยถือเป็นโอกาส และช่องทางที่ผู้ประกอบการ SMEs สามารถขยายฐานตลาดเข้าไปได้
“ขณะนี้พบว่าผู้ประการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในพื้นที่ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากยังไม่มีการปรับตัวมากนัก ยังทำธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะไม่ส่งผลดีในอนาคตเนื่องจากแม้ว่าจะไม่มีความต้องการที่จะขยายตลาดการค้าออกสู่ต่างประเทศก็จะมีคู่แข่งขันจากต่างประเทศที่มีความพร้อมส่งสินค้าเข้ามาแข่งขันในพื้นที่ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องปรับตัว เช่นเดียวกันหากผู้ประกอบการคนใดมีการปรับตัวและมีความพร้อมก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้กับตนเองในการที่จะได้พบกับคู่ค้ารายใหม่ที่เข้ามา ซึ่งจะเป็นช่องทางสำคัญที่จะสามารถขยายตลาดการค้าออกสู่ต่างประเทศได้เช่นกัน” นางสุทธิการกล่าว
นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดระนองปัจจุบันมีธุรกิจ SMEs ที่มีขึ้นทะเบียนกับ สนง.พาณิชย์จังหวัดระนอง รวม 600 ราย ส่วนที่เป็นสมาชิกของหอการค้ามีจำนวน 80 ราย ซึ่งทางหอการค้ามีการเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 20-21 ก.ย. 2554 นี้ ทางหอการค้าจะนำผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่จำนวน 30 รายไปพบปะพูดคุยและเชื่อมสัมพันธ์ทางการค้ากับผู้ประกอบการของพม่าที่ จ.มะริด เพื่อร่วมพบปะพูดคุยทางการค้า เชื่อมความสัมพันธ์และหาลู่ทางการค้าระหว่างกัน
