นครศรีธรรมราช - ข้าราชการตำรวจบำนาญ สภ.นครศรีธรรมราช ไปกดเงินขอธนาคารกรุงไทย มีแค่สลิปออกมา แต่เงินไม่ออก แจ้งยอดเงินออก 20,000 บาท โร่แจ้งความป้องกันเงินหาย
วันนี้ (15 ส.ค.) ด.ต.มณี เซ้งจิ้น อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/5 ถนนกรแก้ว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ข้าราชการตำรวจบำนาญ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช กรณีกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย มีเพียงแค่สลิปออกมาระบุถึงการตัดยอดเงินจำนวน 20,000 บาท ออกจากบัญชี แต่ตู้เอทีเอ็มไม่ได้จ่ายเงินออกมา
ด.ต.มณี แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนใช้บริการเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขานครศรีธรรมราช ถนนปากนคร ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีเงินอยู่ในบัญชีจำนวน 5 หมื่น 5 พัน ซึ่งตนได้กดเงินจำนวน 2 หมื่นบาท สักครู่หนึ่งก็ได้มีสลิปออกมา ระบุว่า ยอดเงินได้ถอนไป 2 หมื่นบาท ยอดเงินคงเหลือ 3 หมื่น 5 พันบาท
ด.ต.มณี ยังระบุอีกว่า ในขณะที่กดเงินมี นายไตรวุฒิ ทองวิจิตร อยู่บ้านเลขที่ 169/1 หมู่ที่ 8 ต.ปากพูน และภรรยาของข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้วย และพร้อมที่จะเป็นพยานยืนยัน
และในขณะเดียวกัน ก็ได้มีลูกค้าของธนาคารอีก 1 ราย คือ นายวิชัย อนุมี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 4 ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พาสมุดบัญชีธนาคารจำนวน 2 เล่ม มาปรับสมุดที่เครื่องปรับสมุดอัตโนมัติ ซึ่งอยู่ใกล้กัน นายวิชัย บอกว่า ได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องเป็นปกติ แต่เมื่อสมุดออกมา ปรากฏว่า ไม่มีตัวเลขให้เห็น มีเพียงร่องรอยการพิมพ์เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถทราบจำนวนเงินคงเหลือ ต้องเสียเวลานำสมุดมาติดต่อกับธนาคารอีกครั้งหนึ่ง จึงฝากไปยังผู้บริหารให้ดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้าของธนาคารด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากแจ้งความลงบันทึกประจำวันแล้ว ด.ต.มณี ได้เดินทางไปยังธนาคารเพื่อประสานงานแก้ไขปัญหาในกรณีดังกล่าวแล้ว
วันนี้ (15 ส.ค.) ด.ต.มณี เซ้งจิ้น อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/5 ถนนกรแก้ว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ข้าราชการตำรวจบำนาญ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช กรณีกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย มีเพียงแค่สลิปออกมาระบุถึงการตัดยอดเงินจำนวน 20,000 บาท ออกจากบัญชี แต่ตู้เอทีเอ็มไม่ได้จ่ายเงินออกมา
ด.ต.มณี แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนใช้บริการเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขานครศรีธรรมราช ถนนปากนคร ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีเงินอยู่ในบัญชีจำนวน 5 หมื่น 5 พัน ซึ่งตนได้กดเงินจำนวน 2 หมื่นบาท สักครู่หนึ่งก็ได้มีสลิปออกมา ระบุว่า ยอดเงินได้ถอนไป 2 หมื่นบาท ยอดเงินคงเหลือ 3 หมื่น 5 พันบาท
ด.ต.มณี ยังระบุอีกว่า ในขณะที่กดเงินมี นายไตรวุฒิ ทองวิจิตร อยู่บ้านเลขที่ 169/1 หมู่ที่ 8 ต.ปากพูน และภรรยาของข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้วย และพร้อมที่จะเป็นพยานยืนยัน
และในขณะเดียวกัน ก็ได้มีลูกค้าของธนาคารอีก 1 ราย คือ นายวิชัย อนุมี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่ 4 ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พาสมุดบัญชีธนาคารจำนวน 2 เล่ม มาปรับสมุดที่เครื่องปรับสมุดอัตโนมัติ ซึ่งอยู่ใกล้กัน นายวิชัย บอกว่า ได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องเป็นปกติ แต่เมื่อสมุดออกมา ปรากฏว่า ไม่มีตัวเลขให้เห็น มีเพียงร่องรอยการพิมพ์เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถทราบจำนวนเงินคงเหลือ ต้องเสียเวลานำสมุดมาติดต่อกับธนาคารอีกครั้งหนึ่ง จึงฝากไปยังผู้บริหารให้ดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้าของธนาคารด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากแจ้งความลงบันทึกประจำวันแล้ว ด.ต.มณี ได้เดินทางไปยังธนาคารเพื่อประสานงานแก้ไขปัญหาในกรณีดังกล่าวแล้ว