กกต.เร่งขยายผล พิรุธปมเปิดบัญชีมากผิดปกติ หวั่นกลั่นแกล้งโยงซื้อเสียง

“สมชัย” รับ พท.แจ้งมีคนพาชาวบ้านมาเปิดบัญชีธนาคารที่แจ้งวัฒนะ มากผิดปกติ สอดคร้องรายงาน ศอส. เตรียมสอบขยายผลเกี่ยวซื้อสิทธิขายเสียหรือไม่ ห่วงประเด็นการกลั่นแกล้งฯ ขอตรวจสอบให้รอบคอบก่อน เล็งประสานธนาคารทุกแห่งร่วมมือ กกต.แจ้งความผิดปกติ

เมื่อวันที่ 16 พ.ค.54 นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ในฐานะผู้รับผิดชอบศูนย์อำนวยการสืบสวนสอบสวนการเลือกตั้ง ส.ส.(ศอส.) เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่า พบข้อมูลทางลึกว่ามีการโอนเงินจาก จ.นครราชสีมา มาเข้าบัญชีของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ บัญชีละ 300-500 บาท ว่า เรื่องการโอนเงินจากที่ใดไปที่ใด ตนยังไม่ทราบ แต่เท่าที่ได้รับรายงานจาก ศอส.ว่าพบข้อมูลว่ามีการพาประชาชนมาเปิดบัญชีธนาคารหนึ่งที่เป็นของรัฐ ในศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ซึ่งกกต.ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปขอข้อมูลมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบเพื่อขยายผลต่อไปว่า การดำเนินการนี้เพื่อการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการซื้อสิทธิ์ขายเสียงหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลที่เป็นหลักฐานแน่ชัด แต่เรื่องนี้คิดว่าควรจะต้องเรียกประชาชนที่มาเปิดบัญชีไว้มาตรวจสอบ และต้องทำงานอย่างรัดกุม เพราะการแข่งขันทุกคนก็รู้อยู่ว่าเป็นการแข่งขันที่รุนแรง ดังนั้น เราจะต้องตรวจสอบด้วยความรอบครอบแต่ต้องไม่ช้า

เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะทำขึ้นมาเพื่อเป็นการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ตนก็ยังไม่ทราบว่าจะเป็นการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ หรือ เป็นจะเป็นการสร้างขึ้นจากใคร ก็ยังไม่ทราบ ซึ่งตนก็ห่วงในประเด็นพวกนี้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้ กกต.ทำงานยากขึ้น แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็มีโทษด้วยกันทั้งสิ้นหากมีการดำเนินการกระทำเพื่อเป็นการซื้อสิทธิขายเสียง และขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการหาเบาะแสอยู่ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เปิด ศอส.ขึ้นมาก็มีเรื่องร้องเรียนมาบ้างแต่ยังไม่มาก คิดว่าหลังจากเปิดรับสมัครได้เบอร์กันแล้วน่าจะมีเพิ่มมากขึ้น

รายงานข่าวแจ้งว่า ทาง ศอส.ได้รับแจ้งจากเหตุมาเมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ค. ผ่านมาว่า มีประชาชนประมาณ 20-30 ราย จากต่างจังหวัดมาเปิดบัญชี แต่ยังไม่ทราบว่าเพื่อการใดแต่ดูแล้วเป็นการผิดปกติน่าสงสัย จึงขอแจ้งให้ทาง (ศอส.) ได้รับทราบไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ทางศอส.ก็จะมีการประชุมกันในวันที่ 18 พ.ค.ถึงมาตรการในการดำเนินการว่าเราควรที่จะมีมาตรการใดต่อไป และอาจจะต้องทำหนังสือประสานไปยังธนาคารทุกแห่งขอความร่วมมือในการช่วยกกต.ตรวจสอบด้วย ลำพัง กกต.เองก็ไม่มีอำนาจอะไรที่จะเข้าไปตรวจสอบได้โดยตรง เกรงว่าจะกระทบสิทธิ์ของผู้อื่นโดยไม่ควร