xs
xsm
sm
md
lg

รวบหญิงไทยขนยาไอซ์คาสนามบินภูเก็ต มูลค่า 10 ล้าน!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ตรวบหญิงสาวชาวไทยพร้อมของกลางยาไอซ์กว่า 3 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 10ล้านบาทขณะเดินทางเข้าท่าอากาศยานภูเก็ต

ที่ห้องประชุมด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมด้วย นายอนันต์ ศรีประเสริฐ ผู้ช่วยนายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต พ.ต.ท.เสริม ขวัญนิมิตร รอง ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย และ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นางรัชนีย์ ชิตนาภรณ์ อายุ 40 ปี หมายเลขหนังสือเดินทาง S 965022 ซึ่งเป็นผู้โดยสารของสายการบินการ์ตาแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ 624 เดินทางจากกรุงโดฮา ประเทศการ์ตา ปลายทางท่าอากาศยานภูเก็ต

โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ตจับกุมได้พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 3.2 กิโลกรัม หรือ 3,200 กรัม มูลค่าประมาณ 10.5 ล้านบาท โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หลังจับกุมได้นำตัวส่งสถานีตำรวจท่าฉัตรไชย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นางมนทิรากล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้สืบเนื่องจากนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายด้านการควบคุมทางศุลกากรและปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัด จึงได้สั่งการให้อรอนงค์ วัชรเศรษฐกุล รองอธิบดีกรมศุลกากร และนายประยุทธ มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 รวมทั้งตนดำเนินการวางแผนจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบขนยาเสพติดผ่านทางท่าอากาศยานอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ เพื่อสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามการลักลอบขนยาเสพติดให้โทษมากับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มการลักลอบขนยาเสพติดให้โทษเพิ่มสูงขึ้นมากขึ้น

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานประจำด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวตรวจค้นหญิงสัญชาติไทย ลักษณะมีท่าทางพิรุธ ทราบชื่อภายหลัง นางรัชนีย์ ชิตนาภรณ์ อายุ 40 ปี ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 423/1 หมู่1 ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เดินทางมากับสายการบินการ์ตา จากกรุงโดฮา ปลายทางท่าอากาศยานภูเก็ต และจากการใช้เครื่องตรวจเอกซเรย์และตรวจค้นกระเป๋าเดินทางอย่างละเอียด พบภายในกระเป๋าที่จัดทำเป็นพิเศษมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นกระเป๋า จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

จากการตรวจสอบหนังสือพบว่า ผู้ต้องหาออกเดินทางจากเมืองไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดเดินทางถึงเมืองที่สนามบินภูเก็ตในวันที่ 13 ส.ค.54 เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าไม่รู้ว่าในกระเป๋ามียาเสพติด โดยมีคนฝากให้นำกลับมาเมืองไทย ด้วยการนำกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กของตัวเองบรรจุลงในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และให้ถือเข้ามาหลังจากมีการซื้อตั๋วเครื่องบินให้และชวนให้ไปเที่ยวฟรี

ปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติดได้มีการเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจากสนามบินสุวรรณ มาเป็นท่าอากาศยานภูเก็ตแทน เนื่องจากขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิมีการตรวจค้นอย่างเข้มงวด ทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดเปลี่ยนเส้นทางในการเดินมาเป็นท่าอากาศยานภูเก็ต โดยใช้วิธีการเดินทางจากสนามบินในประเทศใกล้ๆ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน

ในส่วนของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด และได้รับรายงานกลุ่มประเทศเสี่ยงและบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องในขบวนการค้ายาเสพติที่มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ซึ่งกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษนอกจากประเทศในแถบแอฟริกาใต้แล้วยังมีอีกหลายประเทศจากแถบยุโรป และอื่นๆ โดยการดำเนินการตรวจสอบนั้นต้องทำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่จะต้องมีการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว การดำเนินการจึงเป็นลักษณะของการสุ่มตรวจจากรายชื่อที่ได้รับแจ้งว่าน่าจะเป็นบุคคลที่น่าสงสัย

ขณะที่การสอบสวนผู้ต้องหาในเบื้องตนให้การปฏิเสธ อ้างไม่ทราบว่าในกระเป๋ามียาเสพติดเพียงแต่เพื่อนซึ่งรู้จักกันประมาณ 5 เดือนชวนให้ไปเที่ยวโดยการซื้อตั๋วเดินทางให้ และขากลับได้ฝากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่กลับมาด้วยเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น