ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต รวบนักบวชชาวเนปาลลอบขนยางกัญชา 8 กิโลกรัม มูลค่า 800,000 บาท ผ่านสนามบิน อ้างมีคนจ้างให้นำมาส่งที่ภูเก็ตด้วยค่าจ้าง 8 หมื่นบาท
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (25 ก.ย.) ที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมด้วย เรืออากาศตรีธานี ช่วงชู รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย ร่วมแถลงผลการจับกุมนาย HISE CHHIRING TAMANG (เอ ซี ชิง) นักบวชชาวเนปาล พร้อมของกลางยางกัญชาอัดแผ่นน้ำหนัก 8 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 8 แสนบาท
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยโดยผ่านท่าอากาศยานภูเก็ต จึงได้ทำการซุ่มตรวจผู้โดยสารที่เดินทางมากับสายการบินต่างๆ
จากการเฝ้าระวังพบนักบวช ที่เดินทางมากับสายการบินการ์ต้าแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 624 จากประเทศอินเดีย และเปลี่ยนเที่ยวบินที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จุดหมายปลายทางที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ลักษณะมีพิรุธ จึงได้ขอตรวจค้น กระเป๋าเดินทราบชื่อภายหลังคือ นาย HISE CHHIRING TAMANG จากการตรวจค้นพบยางกัญชาอัดแผ่นซุกซ่อนอยู่บริเวณฝากระเป๋าเดินทางที่จัดทำเป็นพิเศษ
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเกินประมาณที่รัฐมนตรีกำหนด และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.ท่าฉัตรไชย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่ามีคนจ้างให้นำกระเป๋ามาส่งที่จังหวัดภูเก็ต โดยไม่ทราบว่าผู้รับเป็นใครโดยได้ค่าจ้างประมาณ 70,000-80,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของเจ้าหน้าที่พบว่า ก่อนหน้านี้ นักบวชคนดังกล่าวเคยเดินทางเข้ามาประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาแล้ว 4 ครั้ง และครั้งนี้เป็นการเดินทางเข้าประเทศไทยครั้งที่ 5 โดยเดินทางมาลงที่ท่าอากาศยานภูเก็ต
นางมนทิรา ยังได้กล่าวต่อไปถึงผลการดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศไทยทางท่าอากาศยานภูเก็ต ว่า ปัญหายาเสพติดทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปราม การลักลอบขนยาเสพติดให้โทษมากับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามา ซึ่งปัจจุบันมีแนวโน้มการลักลอบนำเข้าสูงขึ้น
จากการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดทำให้ก่อนหน้านี้เมื่อเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ตได้ตรวจยึดวัตถุโลหะคล้ายเงินจำนวน 18 แท่ง น้ำหนักกว่า 5 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 250,000 บาท พร้อมเอกสารซื้อขายจากนักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ผู้ครอบครองทราบว่าการนำสิ่งของดังกล่าวเข้ามาเป็นการนำของต้องห้ามหรือต้องห้ามหรือต้องกำกับ หรือของที่ต้องชำระค่าภาษีอากรเข้ามาในราชอาญาจักรโดยไม่สำแดงหรือผ่านพิธีการโดยถูกต้องต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ถือเป็นความผิดตามมาตรา 27 แห่ง พรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบมาตรา 16, 17 แห่งพรบ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482
ทั้งนี้ ผู้ครอบครัวได้รับทราบข้อกล่าวหาและทำคำร้องขอทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร โดยไม่นำคดีขึ้นสู่ศาล พร้อมกับยินยอมมอบของกลางให้ตกเป็นของแผ่นดิน
