ยะลา - กำนันตำบลคีรีเขต นำ 4 ผู้ต้องหาคดียิงถล่มร้านน้ำชาบ้านกาโสด อ.บันนังสตา จนเป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เข้ามามอบตัว หลังเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับจากศาลจังหวัดยะลา แต้ผู้ต้องหาทั้ง 4 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
วันนี้ (5 ส.ค.) พ.ต.อ.สุวัตต์ วงค์ไพบูลย์ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา พ.อ.อาทร จันทร์ทอง รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 47 นายภักดี ศรีศาสนานนท์ ปลัดอาวุโสอำเภอบันนังสตา และผู้เกี่ยวข้องได้รับมอบตัว นายประชวน พันธเสน อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 3 ต.คีรีเขต อ.ธารโต นายสมศักดิ์ ทองคำ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ที่ 3 ตำบลเดียวกัน นายพีรพล ปานดำ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/5 หมู่ที่ 3 ตำบลเดียวกัน และ นายเลื่อม รามแก้ว อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 1 ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี
ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดี ร่วมกันใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มร้านน้ำชาและร้านขายของชำ รวม 6 แห่ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 5 ราย และ ได้รับบาดเจ็บอีก 18 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็น ของวันที่ 3 พ.ค.54 ริมทางหลวงสาย 410 (ยะลา-เบตง) บ้านกาโสด หมู่ที่ 5 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา โดยมี นายวิชาญ ศรีจันทร์อินทร์ กำนันตำบลคีรีเขต อ.ธารโต เป็นผู้นำมามอบตัว
เหตุการณ์วันดังกล่าว มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม จำนวน ใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ขับมาจากตลาดบันนังสตา ผ่านหมู่บ้านบ้านกาโสด คนร้ายบนกระบะท้ายได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มเข้าไปในร้านน้ำชา และร้านขายของชำ ที่ตั้งอยู่ริมทางหลวงสายดังกล่าว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งเด็กด้วยจำนวน 22 คน และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา 5 ราย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า คนร้ายกลุ่มนี้ คือ นายพีรพล ปานดำ ราษฎร ต.คีรีเขต อ.ธารโต สาเหตุเนื่องจากโกรธแค้นที่ นายสมบัติ ปานดำ อายุ 32 ปี พี่ชาย ถูกคนร้ายที่เป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เป็นไทยมุสลิมฆ่าแล้วเผา ที่บริเวณหมู่ที่ 1 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา เมื่อวันที่27 เม.ย.54 ที่ผ่านมา จึงได้พาพวกใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มร้านน้ำชาและร้านชำของชาวไทยมุสลิม เพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับพี่ชาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เตรียมออกหมายจับ แต่นายพีรพล ได้ขอให้ นายวิชาญ ศรีจันทร์อินทร์ กำนัน ต.คีรีเขต นำเข้ามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์เมื่อวันที่ 6 พ.ค.54
ในครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำ แล้วได้ปล่อยตัวไปเนื่องจากยังไม่สามารถรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนกระทั่งต่อมา พ.ต.อ.สุวัตต์ วงค์ไพบูลย์ ผกก.สภ.บันนังสตา ได้สืบสวนจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานบุคคลได้และสามารถนำเสนอขอหมายจากศาลจังหวัดยะลาได้ รวม 4 รายดังกล่าว
ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย จึงได้ติดต่อขอเข้ามอบตัว โดยทั้งหมดได้นำหลักทรัพย์เตรียมประกันตัวไปด้วย รายละ 400,000 บาท ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว
พ.ต.อ.สุวัตต์ วงค์ไพบูลย์ ผกก.สภ.บันนังสตา กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แม้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน จะให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานสามารถที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดได้
