ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สำนักพุทธศาสนาใต้หวั่นโจรใต้ป่วนช่วงเข้าพรรษาจี้ จนท.วางมาตรการคุมเข้มวัดและพระสงฆ์ในช่วง 3 เดือน ด้าน รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผยปรับปรุงแผนและยุทธวิธีในการรักษาความปลอดภัยพระสงฆ์ วัด และชาวไทยพุทธในช่วงเข้าพรรษา ด้วยมาตรการที่รัดกุมแล้ว ส่วนในพื้นที่เสี่ยงมีการเพิ่มความเข้มขึ้น ภายหลังจากที่กลุ่มคนร้ายได้เคลื่อนไหวก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คนร้ายยิงถล่มอดีตทหารพรานดับคาร้ายน้ำชา ในปัตตานีอีก 1 ศพ
วานนี้ (14 ก.ค.) นายธีรชิต บวรนันทิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ในช่วงเข้าพรรษาสำนักพุทธในพื้นที่จังหวัดช่ายแดนภาคใต้ได้มีการประสานขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองเพิ่มความระมัดระวังการดูแลความปลอดภัยวัด สำนักสงฆ์และการเพิ่มการดูแลพระภิกษุ สามเณรที่จำพรรษาอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่เข้าพรรษา เนื่องจากเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สุ่มเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในช่วงดังกล่าวได้
ในขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงนี้น่าเป็นห่วงเพราะยังเกิดเหตุการณ์ร้ายรายวัน ประกอบกับมีปัจจัยเรื่องของการเมืองระดับชาติที่ยังไม่มีความเป็นเสถียรภาพในการวางและกำหนดแนวทางการทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมาผนวกกับเป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวในช่วงเข้าพรรษาพอดี ทำให้สำนักพุทธฯเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพระและวัดต่างๆ
"ด้วยปัจจัยหลายด้านทำให้เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในระดับพื้นที่ เนื่องจากพระและวัดอาจตกเป็นเป้าหมายในการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงได้ตลอดเวลา เบื้องต้นจึงได้รประสานความร่วมมือไปยังฝ่ายปกครองโดยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด และขอความร่วมมือฝ่ายความมั่นคงทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังสถานการณ์และเพิ่มระบบการดูแลความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" นายธีรชิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการประสานไปยังคณะสงฆ์ในระดับพื้นที่หลายๆแห่งพบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เข้าไปหารือและวางมาตรการรักษาความปลอดภัยร่วมกันในการดำเนินกาารตามกิจของสงฆ์ในช่วงเข้าพรรษานี้อย่างเข้มงวด ทำให้รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น
**นราฯผุดรปภ.24ชม.เข้มเข้าพรรษา
ด้านนายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ได้มีการกำหนดแผนมาตรการดูแลความปลอดภัยพระสงฆ์ และวัด ตลอดจนสำนักสงฆ์ในพื้นที่ต่างๆ ไว้ระดับหนึ่งแล้ว โดยศาสนสถานทุกแห่งที่มีพระจำพรรษาตลอด 3 เดือนนี้จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมดูแลความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่เพื่อสร้างความมั่นใจในระบบการดูแลความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการจัดกำลังเข้าไปประจำฐานย่อยภายในวัดที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตราย ขณะที่วัดทั่วๆไปนั้นจะมีกำลังเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวรเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัยของญาติโยมที่จะเข่ามาร่วมทำบุญในช่วงพรรษาอย่างเต็มที่
"เข้าพรรษาปีนี้ได้มีการประสานความร่วมมือกัน 3 ฝ่าย คือ ทหาร ตำรวจและชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันอุปสมบทหมู่เพื่อเข้าไปจำพรรษาตามวัดต่างๆเพื่อให้มีพระจำพรรษาครบทุกวัดเพื่อป้องกันกรณีปัญหาวัดร้างอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ทั้งนี้เพื่อเป็นการร่วมกันจรรโลงพระพุทธศาสนาต่อไป นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการให้คนในพื้นที่ร่วมบวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดของตัวเองนั้นจะทำให้ง่ายในการดูแลมากขึ้น เพราะมีความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี"
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวอีกว่า ในช่วงวันแรกๆ ของการเข้าสู่ห้วงวันเข้าพรรษาได้มีการเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันกระตือรือล้นในการปฎิบัติหน้าที่ให้เข้มงวดเพื่อป้องกันไม้ให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรงขึ้นในช่วงนี้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันเนื่องจากสุดสัปดาห์นี้นอกจากเป็นวันเข้าพรรษาแล้วยังเป็นวันหยุดยาวนานถึง 4 วัน เบื้องต้นจึงได้กำชับให้ทุกฝ่ายเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในส่วนของสถานที่ราชการ และสถานที่เชิงสัญลักษณ์ทุกแห่งด้วยเพื่อความปลออดภัย
**กอ.รมน.ระดมกำลัง รปภ.ใต้เข้ม
ด้าน พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในระยะนี้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ได้ก่อเหตุร้ายรายวันในพื้นที่อยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าก่อเหตุลอบวางระเบิดหรือเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์ ประกอบกับช่วงนี้ก็ใกล้เข้าสู่ช่วงการจัดกิจกรรมวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เน้นการประสานและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งกำลังตำรวจและฝ่ายปกครองที่ปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละพื้นที่ ในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการเตรียมการปรับแผนยุทธการและยุทธวิธีต่างๆ เพื่อให้มีความสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ระบบในการดูแลความปลอดภัยมีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ป้องกันการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงที่นำประเด็นเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่ง ความสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ คือ งานความมั่นคงของทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ต้องรับผิดชอบดูแล
"สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัย วัด พระสงฆ์ ชุมชนไทยพุทธ และการวางมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยเส้นทุกเส้นทางทางที่ประชาชนจะมุ่งสู่ศาสนสถานที่สำคัญๆ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น อ.รามัน อ.บันนังสตา อ.ยะหา จ.ยะลา และอีกหลาย ๆ อำเภอในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ หมายเลข 2 ตัวที่ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่จะมีการเพิ่มมาตรการในการดูแลวัด พระสงฆ์ รวมทั้งชุมชนไทยพุทธ และเป้าหมายสำคัญที่มีความเกี่ยวโยงกับวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งการดูแลรักษาความปลอดภัยในวันสำคัญต่าง ๆ นั้นจะมีรูปแบบและมาตรฐานเดียวกันกับการดูแลรักษาความปลอดภัยในประเพณีของทุก ๆ ศาสนา ไม่ว่าวันรายอ ของชาวไทยมุสลิม วันตรุษจีน ของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน หรือวันเข้าพรรษาของพี่น้องชาวไทยพุทธ"
**ถล่มยิงอดีตทหารพรานดับคาร้านน้ำชา
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบเมื่อเวลา 11.30น.วานนี้ (14 ก.ค.) พ.ต.อ.อุทัย ทิพย์เสภา ผกก.สภ.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในร้านน้ำชา ม.5 บ้านจาเราะบองอ ต.เขาตูม อ.ยะรัง จึงนำกำลังพร้อมชุดพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดภายในร้านชื่อนายอัดนันท์ มะมิง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/3 ม.5 ต.เขาตูม อ.ยะรัง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่บริเวณลำตัว 6 นัด
สอบสวนทราบว่า ในขณะที่นายอัดนันท์ ซึ่งเป็นอดีตทหารพราน ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อมานั่งดื่มน้ำชากับเพื่อนบ้านในร้านน้ำชาดังกล่าว ปรากฏกว่าได้มีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดด้านหน้าร้าน จากนั้นคนร้ายที่ซ้อนท้ายได้ลงจากรถชักอาวุธปืน ยิงใส่นายอัดนันท์ 6 นัด เสียชีวิตทันที ต่อหน้าเพื่อนบ้านที่ตกใจวิ่งหนีออกจากร้าน หลังก่อเหตุคนร้ายวิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นการก่อความไม่สงบของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องส่วนตัว
วานนี้ (14 ก.ค.) นายธีรชิต บวรนันทิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ในช่วงเข้าพรรษาสำนักพุทธในพื้นที่จังหวัดช่ายแดนภาคใต้ได้มีการประสานขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองเพิ่มความระมัดระวังการดูแลความปลอดภัยวัด สำนักสงฆ์และการเพิ่มการดูแลพระภิกษุ สามเณรที่จำพรรษาอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่เข้าพรรษา เนื่องจากเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สุ่มเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในช่วงดังกล่าวได้
ในขณะที่สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงนี้น่าเป็นห่วงเพราะยังเกิดเหตุการณ์ร้ายรายวัน ประกอบกับมีปัจจัยเรื่องของการเมืองระดับชาติที่ยังไม่มีความเป็นเสถียรภาพในการวางและกำหนดแนวทางการทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมาผนวกกับเป็นช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวในช่วงเข้าพรรษาพอดี ทำให้สำนักพุทธฯเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพระและวัดต่างๆ
"ด้วยปัจจัยหลายด้านทำให้เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในระดับพื้นที่ เนื่องจากพระและวัดอาจตกเป็นเป้าหมายในการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงได้ตลอดเวลา เบื้องต้นจึงได้รประสานความร่วมมือไปยังฝ่ายปกครองโดยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด และขอความร่วมมือฝ่ายความมั่นคงทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังสถานการณ์และเพิ่มระบบการดูแลความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" นายธีรชิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการประสานไปยังคณะสงฆ์ในระดับพื้นที่หลายๆแห่งพบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้เข้าไปหารือและวางมาตรการรักษาความปลอดภัยร่วมกันในการดำเนินกาารตามกิจของสงฆ์ในช่วงเข้าพรรษานี้อย่างเข้มงวด ทำให้รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น
**นราฯผุดรปภ.24ชม.เข้มเข้าพรรษา
ด้านนายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า ได้มีการกำหนดแผนมาตรการดูแลความปลอดภัยพระสงฆ์ และวัด ตลอดจนสำนักสงฆ์ในพื้นที่ต่างๆ ไว้ระดับหนึ่งแล้ว โดยศาสนสถานทุกแห่งที่มีพระจำพรรษาตลอด 3 เดือนนี้จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมดูแลความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่เพื่อสร้างความมั่นใจในระบบการดูแลความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการจัดกำลังเข้าไปประจำฐานย่อยภายในวัดที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตราย ขณะที่วัดทั่วๆไปนั้นจะมีกำลังเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวรเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัยของญาติโยมที่จะเข่ามาร่วมทำบุญในช่วงพรรษาอย่างเต็มที่
"เข้าพรรษาปีนี้ได้มีการประสานความร่วมมือกัน 3 ฝ่าย คือ ทหาร ตำรวจและชาวบ้านในพื้นที่ร่วมกันอุปสมบทหมู่เพื่อเข้าไปจำพรรษาตามวัดต่างๆเพื่อให้มีพระจำพรรษาครบทุกวัดเพื่อป้องกันกรณีปัญหาวัดร้างอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ทั้งนี้เพื่อเป็นการร่วมกันจรรโลงพระพุทธศาสนาต่อไป นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการให้คนในพื้นที่ร่วมบวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดของตัวเองนั้นจะทำให้ง่ายในการดูแลมากขึ้น เพราะมีความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี"
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวอีกว่า ในช่วงวันแรกๆ ของการเข้าสู่ห้วงวันเข้าพรรษาได้มีการเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันกระตือรือล้นในการปฎิบัติหน้าที่ให้เข้มงวดเพื่อป้องกันไม้ให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรงขึ้นในช่วงนี้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันเนื่องจากสุดสัปดาห์นี้นอกจากเป็นวันเข้าพรรษาแล้วยังเป็นวันหยุดยาวนานถึง 4 วัน เบื้องต้นจึงได้กำชับให้ทุกฝ่ายเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในส่วนของสถานที่ราชการ และสถานที่เชิงสัญลักษณ์ทุกแห่งด้วยเพื่อความปลออดภัย
**กอ.รมน.ระดมกำลัง รปภ.ใต้เข้ม
ด้าน พล.ต.อัคร ทิพโรจน์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในระยะนี้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ได้ก่อเหตุร้ายรายวันในพื้นที่อยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าก่อเหตุลอบวางระเบิดหรือเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์ ประกอบกับช่วงนี้ก็ใกล้เข้าสู่ช่วงการจัดกิจกรรมวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เน้นการประสานและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งกำลังตำรวจและฝ่ายปกครองที่ปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละพื้นที่ ในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการเตรียมการปรับแผนยุทธการและยุทธวิธีต่างๆ เพื่อให้มีความสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ระบบในการดูแลความปลอดภัยมีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ป้องกันการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงที่นำประเด็นเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่ง ความสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ คือ งานความมั่นคงของทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ต้องรับผิดชอบดูแล
"สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัย วัด พระสงฆ์ ชุมชนไทยพุทธ และการวางมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยเส้นทุกเส้นทางทางที่ประชาชนจะมุ่งสู่ศาสนสถานที่สำคัญๆ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น อ.รามัน อ.บันนังสตา อ.ยะหา จ.ยะลา และอีกหลาย ๆ อำเภอในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ หมายเลข 2 ตัวที่ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่จะมีการเพิ่มมาตรการในการดูแลวัด พระสงฆ์ รวมทั้งชุมชนไทยพุทธ และเป้าหมายสำคัญที่มีความเกี่ยวโยงกับวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งการดูแลรักษาความปลอดภัยในวันสำคัญต่าง ๆ นั้นจะมีรูปแบบและมาตรฐานเดียวกันกับการดูแลรักษาความปลอดภัยในประเพณีของทุก ๆ ศาสนา ไม่ว่าวันรายอ ของชาวไทยมุสลิม วันตรุษจีน ของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน หรือวันเข้าพรรษาของพี่น้องชาวไทยพุทธ"
**ถล่มยิงอดีตทหารพรานดับคาร้านน้ำชา
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบเมื่อเวลา 11.30น.วานนี้ (14 ก.ค.) พ.ต.อ.อุทัย ทิพย์เสภา ผกก.สภ.โสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในร้านน้ำชา ม.5 บ้านจาเราะบองอ ต.เขาตูม อ.ยะรัง จึงนำกำลังพร้อมชุดพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดภายในร้านชื่อนายอัดนันท์ มะมิง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/3 ม.5 ต.เขาตูม อ.ยะรัง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่บริเวณลำตัว 6 นัด
สอบสวนทราบว่า ในขณะที่นายอัดนันท์ ซึ่งเป็นอดีตทหารพราน ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อมานั่งดื่มน้ำชากับเพื่อนบ้านในร้านน้ำชาดังกล่าว ปรากฏกว่าได้มีคนร้าย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดด้านหน้าร้าน จากนั้นคนร้ายที่ซ้อนท้ายได้ลงจากรถชักอาวุธปืน ยิงใส่นายอัดนันท์ 6 นัด เสียชีวิตทันที ต่อหน้าเพื่อนบ้านที่ตกใจวิ่งหนีออกจากร้าน หลังก่อเหตุคนร้ายวิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นการก่อความไม่สงบของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องส่วนตัว