ยะลา - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เผยเป็นห่วงสถานการณ์การตอบโต้ชาวไทยพุทธ หลังคนร้ายกราดยิงร้านน้ำชามีเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งเป็นการลงมือที่ไม่เลือกเป้าหมาย แต่สร้างความแตกแยกระหว่างกลุ่มไทยพุทธและไทยมุสลิมหากเข้าใจไม่ชัดเจน
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมตำรวจภูธร จ.ยะลา พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยหลังเรียกประชุมนายตำรวจระดับผู้กำกับและชุดสืบสวนภูธรจังหวัด เกี่ยวกับเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายกราดยิงร้านน้ำชาที่บ้านกาโสด หมูที่ 5 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา เมื่อคืนวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมานั้น
จากการสอบสวนพยานบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า รถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุมีหมายเลขทะเบียนชัดเจน และตรวจพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 อาก้า ที่เกิดเหตุจำนวน 24 ปลอก ซึ่งจะต้องนำปลอกกระสุนปืนไปตรวจสอบ จะได้รู้ว่าเป็นปืนที่ใช้เคยก่อเหตุในพื้นที่ใดบ้าง จะสามารถเชื่อมโยงไปหากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ โดยเน้นค้นหารถกระบะอีซูซุเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งคิดว่ายังคงอยู่ในพื้นที่ อ.บันนังสตาและ อ.ธารโต พร้อมกำชับให้ฝ่ายสืบสวนขยายผลการสืบสวนเพื่อนำไปสู่การหาตัวคนร้าย และได้ภาพสะเก็ตช์คนร้ายในเวลาต่อมาแน่นอน ซึ่งจะทำให้เกิดความกระจ่างให้กับประชาชนด้วย
ตนเป็นห่วงเรื่องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพุทธ มุสลิมที่ก่อเหตุนั้น ในทางกฎหมายทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการเฉียบขาดอยู่แล้ว เหตุการณที่เกิดขึ้นคนร้ายกราดยิงโดยไม่กำหนดเป้าหมาย ไม่เลือกคน ทำให้ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งหมดเป็นมุสลิม ที่น่าเป็นห่วงว่าพี่น้องไทยพุทธกับมุสลิมเกิดความแตกแยกในพื้นที่บันนังสตา ในเวลานี้มีความสงบ ทุกฝ่าย ได้สร้างความเข้าใจระหว่างรัฐกับประชาชนได้เป็นอย่างดี ผู้หลงผิดได้กลับมามอบตัวจำนวนมาก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากเกิดความไม้เข้าใจที่ชัดเจนจะทำให้เกิดความบาดหมางกันขึ้นได้ และมีการตอบโต้ยิงกราดยิงชาวไทยพุทธโดยไม่กำหนดเป้าหมายได้เช่นกัน ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสถานการณ์มาก
วันนี้ (4 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมตำรวจภูธร จ.ยะลา พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยหลังเรียกประชุมนายตำรวจระดับผู้กำกับและชุดสืบสวนภูธรจังหวัด เกี่ยวกับเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายกราดยิงร้านน้ำชาที่บ้านกาโสด หมูที่ 5 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา เมื่อคืนวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมานั้น
จากการสอบสวนพยานบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า รถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุมีหมายเลขทะเบียนชัดเจน และตรวจพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 อาก้า ที่เกิดเหตุจำนวน 24 ปลอก ซึ่งจะต้องนำปลอกกระสุนปืนไปตรวจสอบ จะได้รู้ว่าเป็นปืนที่ใช้เคยก่อเหตุในพื้นที่ใดบ้าง จะสามารถเชื่อมโยงไปหากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ โดยเน้นค้นหารถกระบะอีซูซุเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งคิดว่ายังคงอยู่ในพื้นที่ อ.บันนังสตาและ อ.ธารโต พร้อมกำชับให้ฝ่ายสืบสวนขยายผลการสืบสวนเพื่อนำไปสู่การหาตัวคนร้าย และได้ภาพสะเก็ตช์คนร้ายในเวลาต่อมาแน่นอน ซึ่งจะทำให้เกิดความกระจ่างให้กับประชาชนด้วย
ตนเป็นห่วงเรื่องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพุทธ มุสลิมที่ก่อเหตุนั้น ในทางกฎหมายทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการเฉียบขาดอยู่แล้ว เหตุการณที่เกิดขึ้นคนร้ายกราดยิงโดยไม่กำหนดเป้าหมาย ไม่เลือกคน ทำให้ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งหมดเป็นมุสลิม ที่น่าเป็นห่วงว่าพี่น้องไทยพุทธกับมุสลิมเกิดความแตกแยกในพื้นที่บันนังสตา ในเวลานี้มีความสงบ ทุกฝ่าย ได้สร้างความเข้าใจระหว่างรัฐกับประชาชนได้เป็นอย่างดี ผู้หลงผิดได้กลับมามอบตัวจำนวนมาก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากเกิดความไม้เข้าใจที่ชัดเจนจะทำให้เกิดความบาดหมางกันขึ้นได้ และมีการตอบโต้ยิงกราดยิงชาวไทยพุทธโดยไม่กำหนดเป้าหมายได้เช่นกัน ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสถานการณ์มาก