ยะลา - ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ประกาศลั่น หากไม่มีกล้าจับคนร้ายก่อเหตุกราดยิงร้านน้ำชาบันนังสตา ให้บอกตน พร้อมจะใช้อำนาจตามกฎหมายเข้าไปจับกุมด้วยตนเอง พร้อมให้รางวัลกับผู้แจ้งเบาะแส รายละ 50,000 บาท
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายกราดยิงชาวบ้านในร้านน้ำชา ที่บ้านกาโสด หมู่ที่ 5 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อคืนวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก นั้น ในวันนี้ (4 พ.ค.) ได้มีญาติพี่น้องของผู้เสียหายต่างเดินทางไปสอบถามเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ อย่างต่อเนื่อง ผู้เสียหายบางคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บจากคมกระสุนปืนของคนร้าย ก็อยู่ในอาการหวาดผวา ยังไม่หายจากความกลัวในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องปิดร้านเป็นการชั่วคราว
ในขณะที่ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางไปประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ใน อ.บันนังสตา เพื่อทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทางจังหวัดยะลา จะดำเนินการกับกลุ่มคนร้ายอย่างถึงที่สุด เพราะถือว่าคนร้ายกลุ่มนี้เปรียบเสมือนคนบ้า ที่ยิงไม่เลือกคน แม้แต่คนกำลังตั้งท้องก็ไม่เว้น หลังจากประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แล้ว คณะของนายกฤษฎา บุญราช ได้เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียน ชาวบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านให้การต้อนรับกว่า 30 คน
ในโอกาสเดียวกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียง ว่า “วันนี้ผมมาให้คำมั่นสัญญากับชาวบ้านด้วยตนเองว่า จะไม่ยอมให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นคลื่นกระทบฝั่ง จะดูแลให้ความเป็นธรรมกับประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด โดยให้ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์และรู้ตัวคนร้าย ไปแจ้งให้กับนายอำเภอบันนังสตา ผู้กำกับตำรวจภูธร หากไม่มั่นใจจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ หรือไม่มั่นในความปลอดภัยกับตัวเอง ให้แจ้งโดยตรงกับตน และตนจะดูแลความปลอดภัยให้เป็นอย่างดี และหากรู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุจริง โดยไม่ได้กลั่นแกล้ง และไม่มีใครกล้าไปจับกุม ตนจะอาสาโดยใช้อำนาจเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง จะนำกำลังไปจับกุมด้วยตนเอง”
นอกจากนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ประกาศมอบรางวัลแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ คนละ 50,000 บาทด้วย
สำหรับการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นั้น ได้มอบเงินเยียวยาให้ผู้เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท จำนวน 4 ราย ผู้บาดเจ็บสาหัส จำนวน 5 คน คนละ 50,000 บาท และบาดเจ็บปานกลางจำนวน 5 คน คนละ 30,000 บาท และเล็กน้อยอีกจำนวน 1 คน จำนวน 10,000 บาท ส่วนอาการบาดเจ็บ นั้น นางฟารีด๊ะ ประดู่ อายุ 35 ปีซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน อาการสาหัส ยังไม่พ้นขีดอันตราย ต้องอยู่รักษาตัวอยู่ในห้องไอ.ซี.ยู.แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายกราดยิงชาวบ้านในร้านน้ำชา ที่บ้านกาโสด หมู่ที่ 5 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อคืนวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก นั้น ในวันนี้ (4 พ.ค.) ได้มีญาติพี่น้องของผู้เสียหายต่างเดินทางไปสอบถามเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ อย่างต่อเนื่อง ผู้เสียหายบางคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บจากคมกระสุนปืนของคนร้าย ก็อยู่ในอาการหวาดผวา ยังไม่หายจากความกลัวในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องปิดร้านเป็นการชั่วคราว
ในขณะที่ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางไปประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ใน อ.บันนังสตา เพื่อทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทางจังหวัดยะลา จะดำเนินการกับกลุ่มคนร้ายอย่างถึงที่สุด เพราะถือว่าคนร้ายกลุ่มนี้เปรียบเสมือนคนบ้า ที่ยิงไม่เลือกคน แม้แต่คนกำลังตั้งท้องก็ไม่เว้น หลังจากประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แล้ว คณะของนายกฤษฎา บุญราช ได้เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียน ชาวบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านให้การต้อนรับกว่า 30 คน
ในโอกาสเดียวกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียง ว่า “วันนี้ผมมาให้คำมั่นสัญญากับชาวบ้านด้วยตนเองว่า จะไม่ยอมให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นคลื่นกระทบฝั่ง จะดูแลให้ความเป็นธรรมกับประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด โดยให้ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์และรู้ตัวคนร้าย ไปแจ้งให้กับนายอำเภอบันนังสตา ผู้กำกับตำรวจภูธร หากไม่มั่นใจจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ หรือไม่มั่นในความปลอดภัยกับตัวเอง ให้แจ้งโดยตรงกับตน และตนจะดูแลความปลอดภัยให้เป็นอย่างดี และหากรู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุจริง โดยไม่ได้กลั่นแกล้ง และไม่มีใครกล้าไปจับกุม ตนจะอาสาโดยใช้อำนาจเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง จะนำกำลังไปจับกุมด้วยตนเอง”
นอกจากนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ประกาศมอบรางวัลแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ คนละ 50,000 บาทด้วย
สำหรับการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นั้น ได้มอบเงินเยียวยาให้ผู้เสียชีวิตรายละ 100,000 บาท จำนวน 4 ราย ผู้บาดเจ็บสาหัส จำนวน 5 คน คนละ 50,000 บาท และบาดเจ็บปานกลางจำนวน 5 คน คนละ 30,000 บาท และเล็กน้อยอีกจำนวน 1 คน จำนวน 10,000 บาท ส่วนอาการบาดเจ็บ นั้น นางฟารีด๊ะ ประดู่ อายุ 35 ปีซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน อาการสาหัส ยังไม่พ้นขีดอันตราย ต้องอยู่รักษาตัวอยู่ในห้องไอ.ซี.ยู.แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
