xs
xsm
sm
md
lg

เผยเมืองสตูลแหล่งผลิตปืน “ฉับโผง” ให้โจ๋ฆ่ากัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวสันต์ รจนากิจ อัยการจังหวัดคดีเยาวชน และครอบครัวจังหวัดสตูล
สตูล - อัยการจังหวัดคดีเยาวชน และครอบครัว จ.สตูล เผย สถิติคดีเด็กเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรง หลังพบเมืองสตูลเป็นแหล่งผลิตอาวุธปืนปากกา หรือ ฉับโผง ให้วัยรุ่นฆ่ากัน

นายวสันต์ รจนากิจ อัยการจังหวัดคดีเยาวชน และครอบครัวจังหวัดสตูล กล่าวว่า ในขณะนี้ เด็ก และเยาวชนในพื้นที่จังหวัดสตูลน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง อันเนื่องจากพบว่า เด็กเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีที่เป็นปัญหาสังคมอยู่หลายคดี และยังมีแนวโน้มว่า จะทวีความรุนแรงเพิ่มมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะ คดีฆ่าผู้อื่น หรือ พยายามฆ่า และ คดีอาวุธปืน หรือมีเครื่องกระสุน โดยสถิตินั้นในปี 2553 เด็กมีคดีรวม 80 คดี และปี 2554 ในครึ่งปีแรก มีคดีรวมกว่า 40 คดี โดยเด็กที่ก่อเหตุดังกล่าวส่วนใหญ่มีอายุตั้งแต่ 12-16 ปี มีทั้งเยาวชนในและนอกสถานศึกษา

ทั้งนี้ ที่พื้นที่ที่เด็กก่อเหตุมากที่สุดคือ อ.เมืองสตูล โดยก่อเหตุก่อขึ้นมาแต่ละครั้งมีการนำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ หรือ อาวุธปืนปากกา หรือ ฉับโผง ไปห่ำหั่นกัน จนมีทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต

ทั้งนี้ อาวุธปืนดังกล่าวนี้ ที่นำไปใช้ในการก่อเหตุ พบว่า มีการประดิษฐ์ขึ้นมาเองในหมู่บ้าน/ ตำบล หรือพื้นที่ อ.เมืองสตูล โดยว่าจ้างในราคาค่าจ้างที่ไม่แน่นอนเนื่องจากขึ้นอยู่กับความสนิทสนมระหว่างผู้ว่ากับผู้รับจ้างทำอาวุธปืน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนับว่าเป็นปัญหาสังคมน่าหวั่นวิตกและจึงอยากฝากไปยังผู้ปกครองเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดสตูลทุกคนให้ช่วยดูแลเด็กเยาวชนบุตรหลานตัวเองอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่ควรปล่อยปละละเลยให้เด็กหนีออกจากบ้านในยามค่ำคืน หรือ ยามวิกาล

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้มีการส่งเสริมให้เด็กไปก่อเหตุกระทำผิด รวมทั้งอยากขอความร่วมมือกับ ทหาร ตำรวจ หรือ หน่วยงานความมั่นคงให้ เพิ่มความถี่ในการดูแลพื้นที่หรือตรวจตราในพื้นที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะให้มีการตั้งจุดตรวจ หรือ มีการนำกำลังออกกวาดล้าง ทั้งอบายมุขและให้ช่วยบุกเข้าไปช่วยทำลายแหล่งผลิตอาวุธปืนเถื่อนด้วย

ขณะที่ นายวรวิทย์ จิรายุกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสตูล กล่าวว่า เด็ก หรือ เยาวชนที่ชอบก่อคดีฯ พบว่าส่วนใหญ่จะมั่วสุ่มเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยเฉพาะ พืชกระท่อม หรือ ยาแก้ไอ ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาของเด็ก และเยาวชนที่ถูกต้องและยั่งยืน นั้น คิดว่า จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งผู้นำหรือคนในชุมชน และคนในครอบครัว รวมทั้งผู้นำชุมชนเนื่องจากลำพังเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง มีกำลังไม่มากพอที่จะเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยเรื่องเหล่านี้ได้ทั้งหมดและทั่วถึงได้
กำลังโหลดความคิดเห็น